6 เคล็ดลับการใช้ระบบ CRM ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการขาย

การใช้ระบบ CRM สำหรับการบริหารทีมขายสำหรับธุรกิจได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต เนื่องจากความสำคัญของการบริหารจัดการข้อมูลและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม ถ้าอยากให้ลูกค้าอยู่กับธุรกิจเราไปนาน ๆ และช่วยเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้อย่างยั่งยืน การใช้ระบบ CRM เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการงานขาย จึงถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะนอกจากการแข่งขันที่สูงแล้ว พฤติกรรมลูกค้าก็เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาช่วยบริหารจัดการและสามารถตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจได้ในบทความนี้เราจึงมี 6 เคล็ดลับ สำหรับธุรกิจที่มีการใช้ระบบ CRM อยู่ ได้สามารถใช้งานระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

 


ระบบ CRM คืออะไร?

ระบบ CRM (Customer Relationship Management) คือ ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า เช่น ประวัติการซื้อ ความสนใจ พฤติกรรมการใช้จ่าย และยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เพื่อให้ธุรกิจได้เข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น นำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์การขายและการตลาดและสามารถเพิ่มยอดขายและรายได้ของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งระบบ CRM สามารถช่วยธุรกิจในด้านต่าง ๆ เช่น

 

  1. ด้านการขาย: ระบบ CRM สามารถช่วยธุรกิจหรือทีมขายสามารถติดตามลูกค้าเป้าหมายได้อย่างเป็นระบบ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อสร้างโอกาสในการขาย และปิดการขายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  2. ด้านการตลาด: ระบบ CRM สามารถช่วยธุรกิจมีข้อมูลในการวิเคราะห์ด้านการตลาด เช่น การหาลูกค้าใหม่ผ่านแคมเปญการตลาดต่าง ๆ การติดตามลูกค้าปัจจุบัน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เพื่อนำไปต่อยอดการตัดสินใตการทำการตลาดที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อไป

  3. ด้านการบริการลูกค้า: ระบบ CRM สามารถช่วยให้ธุรกิจหรือทีมขาย สามารถติดตามดูแลลูกค้าได้อย่างไมีตกหล่น ดูประวัติการสั่งซื้อของลูกค้าในระบบได้ทันที จัดการปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

 

ซึ่งในบทความนี้ เราจะมากล่าวถึง ระบบ CRM สำหรับการบริหารทีมขาย เครื่องมือทรงพลังที่สามารถช่วยธุรกิจต่าง ๆ ปรับปรุงประสิทธิภาพการขายได้ดีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ระบบ CRM ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ธุรกิจจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับระบบ CRM และวิธีการใช้ระบบ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ

 


6 เคล็ดลับการใช้ระบบ CRM ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 

1. ตั้งเป้าหมายการใช้ระบบ CRM ที่ชัดเจน

ก่อนอื่นธุรกิจคุณควรตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ธุรกิจคุณต้องการใช้ระบบ CRM เพื่อทำอะไร เช่น ปรับปรุงการบวนการขายและการทำงานของเซลส์ ต้องการเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องการเพิ่มผลลัพธ์ทางการตลาด หรือปรับปรุงการบริการลูกค้า และเมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว จึงจะสามารถเลือกระบบ CRM ที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ เช่น การเลือกใช้ระบบ CRM สำหรับการบริหารทีมขายโดยเฉพาะ

ซึ่งหากธุรกิจคุณกำหนดเป้าหมายว่า ต้องการเพิ่มยอดขาย 10-20% ภายใน 1 ปี ดังนั้น คุณอาจจะต้องมีการพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กำหนดขั้นตอนในการบรรลุเป้าหมายนี้ เช่น มีการเตรียมพูดคุยกับทีมขายถึงเป้าหมายที่ต้องการดำเนินไป การมีข้อเสนอบางประการที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้า และการวางแผนการติดตามความคืบหน้าของงานขาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเซลส์ เพราะจะช่วยให้ทราบว่าโอกาสในการปิดการขายจะมีมากน้อยแค่ไหน และช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ทันทีหากจำเป็น เช่น หากคุณต้องการเพิ่มยอดขาย และพบว่ายอดขายของคุณไม่เพิ่มขึ้นภายใน 6 เดือน คุณอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนของคุณ เช่น ไปดูข้อมูลเก่าเพื่อติดตามลูกค้าที่อาจจะเงียบหายไป หรือติดตามลูกค้าใหม่อย่างใกล้ชิดมากขึ้น สอบถามข้อมูลเพื่อเข้าให้ถึงปัญหาของลูกค้า เพื่อนำเสนอแนวทางการแก้ไขที่สอดคล้องกับสินค้าและบริการของธุรกิจเรา เป็นต้น

 

การตั้งเป้ายอดขายของทีมขาย

 

 

2. เลือกระบบ CRM ที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ

ในปัจจุบันมีระบบ CRM มากมายให้ธุรกิจได้เลือกใช้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ธุรกิจจะต้องเลือกระบบ CRM ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ เป้าหมายและรูปแบบในการทำธุรกิจรวมไปถึงควรต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ประกอบด้วย เช่น ขนาดธุรกิจ ประเภทธุรกิจ งบประมาณ ฟีเจอร์ของระบบที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณได้หรือไม่ (อ่านบทความเรื่อง 8 วิธีเลือกระบบ CRM อย่างไร ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ คลิก)

 


3. ออกแบบกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับระบบ CRM

ระบบ CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงควรออกแบบกระบวนการทำงานจริงของทีมขายให้สอดคล้องกับระบบ CRM จัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ที่จะนำเข้าระบบหรือวางแผนแนวทางการจัดการกระบวนการขายต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจอาจจะต้องออกแบบกระบวนการทำงาน โดยให้พนักงานขายมีการกรอกข้อมูลลูกค้าลงในระบบ CRM ทุกครั้งที่มีลูกค้าใหม่ หรือมีการปิดการขาย จากนั้นระบบ CRM จะวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เพื่อช่วยให้พนักงานขายสามารถระบุลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าได้ในอนาคต

อย่างเช่น ระบบ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขายของ Readyplanet ธุรกิจสามารถสร้าง Sales Pipeline เพื่อใช้ในการจัดการกระบวนการขายและติดตามความคืบหน้าในการติดต่อพูดคุยกับ Lead แต่ละรายได้อย่างเป็นระบบ สามารถสร้าง Pipeline ให้สอดคล้องกับกระบวนการทำงานจริงได้ หรือสร้าง Pipeline แยกตามทีมขายได้เพื่อที่ข้อมูลจะได้ไม่ทับซ้อนหรือปะปนกัน

 

r-crm lead inbox and sales pipeline

 รูปภาพ: R-CRM Lead Inbox และ Sales Pipeline 

 


4. ฝึกอบรมพนักงานให้ใช้ระบบ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ

ทีมขายเป็นเสมือนฟันเฟืองสำคัญหนึ่งที่ช่วยในการสร้างยอดขายและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปได้ ดังนั้นหากธุรกิจมีการนำระบบ CRM มาใช้ในกระบวนการขาย ซึ่งอาจจะเป็นระบบที่พนักงานยังไม่เคยใช้หรือไม่เคยเรียนรู้มาก่อน ดังนั้นจึงควรต้องมีการสื่อสารถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ระบบ มีการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้ระบบ CRM ได้อย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุด และอย่าลืมต้องให้เวลาในการทดลองใช้งาน เพื่อที่สุดท้ายแล้วทีมขายหรือเซลส์จะได้ใช้ระบบนี้ในการติดตามข้อมูลลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

sales team discuss 

 


5. วิเคราะห์ข้อมูลและรายงานจากระบบ CRM เป็นประจำ

ระบบ CRM สามารถสร้างรายงานที่เป็นประโยชน์มากมายให้กับธุรกิจ ใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและปรับปรุงประสิทธิภาพการขายและการตลาด การวิเคราะห์รายงานเป็นประจำ จะช่วยให้ธุรกิจเห็นถึงข้อมูลเชิงลึกในมุมต่าง ๆ เห็นถึงแนวโน้มและโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการขายด้วย โดยตัวอย่างรายงาน เช่น

 

  • รายงานยอดขาย

    รายงานที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับยอดขายของธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง รายงานนี้สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ยอดขายรวม ยอดขายแยกตามผลิตภัณฑ์หรือบริการ ยอดขายแยกตามช่องทางการขาย ยอดขายแยกตามลูกค้า เป็นต้น รายงานยอดขายสามารถนำไปใช้เพื่อติดตามประสิทธิภาพการขายของธุรกิจ ระบุแนวโน้มการขาย ระบุโอกาสในการขาย และกำหนดกลยุทธ์การขาย

r-insights annual sales report

 

  • รายงานกิจกรรมการขาย

    รายงานที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของธุรกิจ รายงานนี้สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น วันที่ เวลา กิจกรรม รายละเอียดกิจกรรม เป็นต้น รายงานกิจกรรมสามารถนำไปใช้เพื่อติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้า และกำหนดกลยุทธ์การแก้ไข เช่น รายงาน Lead Activities, รายงาน Sales Check-in เป็นต้น

 

 r-insights lead activities report

 

นอกจากรายงานที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีรายงานอื่น ๆ อีกมากมายที่ธุรกิจที่ใช้ระบบ CRM สามารถเข้าดูข้อมูลได้ทันทีแบบเรียลไทม์ เช่นหากเป็นในระบบ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ก็จะมีแดชบอร์ดภาพรวมกิจกรรมการขายและการตลาด, รายงานเหตุผลการเลิกติดตาม, รายงานอัตราการปิดการขาย เป็นต้น รายงานต่าง ๆ เหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของธุรกิจได้ โดยที่รายละเอียดต่าง ๆ ของรายงานเหล่านี้ สามารถนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์กับธุรกิจได้หลายประการ เช่น

  • ติดตามประสิทธิภาพการขายของธุรกิจ
  • กำหนดกลยุทธ์การติดตามลูกค้า
  • ระบุลูกค้าที่มีศักยภาพ
  • ระบุลูกค้าที่มีความเสี่ยง
  • ระบุแนวโน้มการขาย
  • ระบุโอกาสในการขาย
  • ระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้า
  • กำหนดกลยุทธ์การขายและแนวทางการแก้ไขต่าง ๆ
  • วางแผนการขายและข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนงานขาย

 


6. เรียนรู้และปรับปรุงการใช้งานระบบ CRM อย่างต่อเนื่อง

ระบบ CRM ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถของระบบมากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรศัพท์สมาร์ทโฟน เป็นต้น สามารถเชื่อมต่อกับระบบโฆษณาได้อย่างง่ายดายพร้อมเก็บข้อมูล เพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นธุรกิจก็ควรมองหาระบบ CRM ที่มีการพัฒนาคุณสมบัติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสามารถปรับปรุงปัญหา แก้ไขข้อบกพร่องที่ผู้ใช้งานพบเจอได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อระบบมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทีมขายหรือเซลส์เองก็ต้องมีการเรียนรู้ เพิ่มทักษะการใช้งานระบบประกอบไปกับมีเทคนิคในการขายต่าง ๆ ประกอบด้วย ก็จะยิ่งช่วยทำให้โอกาสสร้างยอดขายได้สำเร็จมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 


สรุป

ระบบ CRM เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้สำเร็จมากขึ้น การใช้ระบบ CRM ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องเลือกระบบ CRM ที่เหมาะสมกับธุรกิจ กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการใช้งานระบบ CRM อย่างชัดเจน กำหนดกระบวนการทำงานภายในองค์กรให้สอดคล้องกับระบบ CRM มีการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้ระบบ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ข้อมูลและรายงานจากระบบ CRM เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เชื่อว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้เห็นศักยภาพของการใช้งานและประโยชน์ของระบบ CRM ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

 

 

สมัครใช้งาน Readyplanet R-CRM 

R-CRM คือ แพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี


 

 


 

 

บทความที่น่าสนใจ

 

 

ระบบ CRM