9 แนวทางการเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยี CRM

การเพิ่มยอดขาย เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกธุรกิจต้องให้ความสำคัญ แค่ยอดขายที่คุ้มทุนอย่างเดียวอาจจะยังไม่โต หากอยากให้ธุรกิจอยู่รอด และเติบโตขึ้น การเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องนั้น จะช่วยให้มีต้นทุนไปพัฒนาสินค้า ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น หรือขยายกิจการออกไป เพิ่มโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเราด้วยอัตราการเติบโตทางรายได้ที่เห็นได้ชัด

แต่การเพิ่มยอดขายในยุคสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้ทุกคนต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ การใช้วิธีการ หรือกลยุทธ์การขายเดิม ๆ อาจจะไม่ได้ผลแล้ว วันนี้เราจึงมี 9 แนวทางเพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย ผ่านการใช้เทคโนโลยี CRM มาพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้กับธุรกิจของคุณกันค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

 

9 แนวทาง เพิ่มยอดขายอย่างได้ผลและประสบความสำเร็จ

การเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องนั้น แต่ละธุรกิจต่างมีกลยุทธ์ วิธีและเทคนิคต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกเทคนิคจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของเราไปได้อย่างประสบความสำเร็จเสมอไป แต่ธุรกิจต้องมีการประยุกต์ใช้หลาย ๆ องค์ประกอบร่วมกัน ทั้งความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงเครื่องมือ ระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับการทำงานของทีมขายและสามารถเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ในบทความนี้ เราเลยรวบรวมเทคนิคพร้อมกลยุทธ์เด็ด ๆ ที่ควรค่าในการลงมือทำ ผ่านระบบ CRM มาฝากให้ทุกท่านได้ลองอ่านดูค่ะ

 

1. ตั้งเป้ายอดขาย (Sales Target) ให้ท้าทายเข้าไว้ ให้ทีมขายกระหายความสำเร็จ

การทำงานขายอย่างไร้เป้าหมาย อาจทำให้ทีมขายทำงานไปแบบไม่รู้จุดหมายปลายทาง ไม่มีแผนการหรือเป้าหมายที่มองเห็นชัดเจน ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ประสบความสำเร็จที่ดีแล้วหรือยัง และสิ่งที่ตามมาคือ ทุกคนจะทำงานอย่างเรื่อย ๆ ไร้แรงกระตุ้น ส่งผลต่อ Performance ของทีม ที่ทำงานไปเท่าไหร่ ยอดขายก็ไม่เพิ่มขึ้นจากเดิมสักที

ดังนั้น เราเลยขอแนะนำอีกวิธีที่ช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้ทีมงาน ก็คือ การตั้งเป้ายอดขาย (Sales Target) ให้ท้าทายมากกว่าเดิม แต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตและผล เพื่อเป็นการสร้างความท้าทายให้กับทีม เช่นอาจจะตั้งเป้ายอดขายในไตรมาสแรกของปี ค่อนข้างสูงเพราะลูกค้าหลาย ๆ รายอาจจะกำลังเป็นช่วยตั้งงบประมาณใหม่ หรือหากยิ่งเป้าท้าทายแล้วได้รับผลตอบแทนที่ดี ก็จะยิ่งทำให้ทีมขายกระหายความสำเร็จมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน  และทุกคนจะพุ่งไปที่เป้าหมายเดียวกัน เมื่อทีมขายเห็นเป้าหมายใหม่ ๆ ตัวเลขที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็จะเกิดแรงกระตุ้น พร้อมลุยสร้างยอดขายให้ได้มากกว่าเดิม

 

sales target

 

 

2. มองทุกอย่างเป็นภาพรวมเสมอ เพื่อให้ครอบคลุมการทำงาน เข้าใจเป้าหมายตรงกัน

หากทุกวันนี้ เรายังง่วนอยู่กับงาน Operation หรืองานการจัดการต่าง ๆ และใช้เวลามากไปกับงานภาพเล็ก ๆ มากจนเกินไป ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะขยับมามองงานในภาพรวม เพราะการมองงานในภาพรวมจะช่วยให้เราเห็นการทำงานของทีมได้อย่างครอบคลุม รู้ได้ว่า ตอนนี้อะไรคือจุดบอดที่ต้องแก้ อะไรคือจุดเด่นที่ต้องเสริม เพื่อให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับงานขาย การมองออกว่า ถ้าตอนนี้ยอดตก เป็นเพราะปัจจัยอะไรบ้าง และจะสร้างกลยุทธ์แก้เกมอย่างไร ก็จะช่วยผลักดันยอดขายได้ โดยเราสามารถเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ง่าย ผ่านการดูข้อมูลรายงานการขายที่ผ่านมา ดังนั้น จะมีประโยชน์มากหากวันนี้เราเริ่มให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเอื้อให้ทีมขายสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

3. ทีมขายหรือเซลส์มีการติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ

การสร้างยอดขายกับลูกค้าเก่านั้นใช้ต้นทุนที่น้อยกว่าลูกค้าใหม่ และมีอัตราการตัดสินใจซื้อที่มากกว่าอีกด้วย นอกจากเราจะมีกลยุทธ์ในการหาลูกค้าใหม่แล้ว เรายังควรต้องเพิ่มอัตราซื้อซ้ำกับลูกค้าเก่าด้วย เพื่อให้เกิดยอดขายที่เพิ่มขึ้น

อย่างเช่น ฟีเจอร์ Sales Pipeline  ใน R-CRM ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีการแบ่งขั้นตอนการขายของธุรกิจไว้อย่างชัดเจน ซึ่งทีมขายหรือเซลส์จะใช้ฟีเจอร์นี้ในการติดตามลูกค้า โดยขั้นตอนที่ว่านี้ จะมีมากมีน้อยหรือกับการตั้งค่าของธุรกิจได้เลย ว่าต้องการให้มีขั้นตอนใดบ้าง ต้องมีกี่ Pipeline เพื่อให้เซลส์ทำงานติดตามลูกค้าได้อยางมืออาชีพ อีกทั้งผู้บริหารหรือผู้จัดการฝ่ายขายก็สามารถตรวจสอบหรือติดตามการทำงานของเซลส์คนนั้น ๆ ได้แบบเรียลไทม์

 

rcrm lead pipeline

 

rcrm sales pipeline lead inbox

 

 

แต่สิ่งสำคัญที่ทีมขาย จะละเลยไม่ได้เลยก็คือ เซลล์ต้องมีการติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้ว่าลูกค้าแต่ละคนติดอยู่ในขั้นตอน (Stage) ไหน เพื่อที่จะได้เข้าไปพูดคุย สอบถามได้อย่างเหมาะสม ซึ่งลูกค้าแต่ละราย ก็จะใช้วิธีการขายที่แตกต่างกันเพื่อที่จะแยก Stage ลูกค้าได้อย่างชัดเจน เข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละ Stage มากขึ้น 

นอกจากนี้ เมื่อมีการติดตามลูกค้าโดยอาศัยเครื่องมือ Sales Pipeline แล้ว อีกอย่างหนึ่งที่จะยกระดับความมืออาชีพในงานขายของคุณ ก็คือก่อนการติดตามงานขายทุกครั้ง ควรมีการทำการนัดหมายลูกค้าก่อนเสมอ และเตรียมพร้อมในเรื่องของข้อมูลหรือรายละเอียดสินค้าบริการก่อนหน้าที่เคยคุยกันไว้ เพื่อจะได้เปิดเรื่องคุยกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและเพื่อไม่ให้สูญเสียลูกค้าคนสำคัญไป หากมีโปรโมชั่นพิเศษ หรือสินค้าใหม่ๆ การนำเสนอกับลูกค้าเก่า จะมีเปอร์เซ็นต์ได้รับความสนใจที่ง่ายและมากกว่าลูกค้าใหม่ ซึ่งการนัดหมายสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่าน  R-CRM ที่สามารถใส่วัน เวลา Agenda ในการนัดหมาย

 

rcrm remider

 

 

4. การเพิ่มยอดขายก็คือการเพิ่มกำไรให้บริษัท

หลายคนอาจจะเจอปัญหาว่า ทีมไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงจำเป็นต้องหาวิธีการต่าง ๆ มาเพิ่มยอดขาย หากในตอนนี้ไม่ได้เผชิญกับสภาวะขาดทุน หรือจะเพิ่มยอดขายให้ได้ในแต่ละเดือนไปเพื่ออะไร เราอาจจะสื่อสารกับทีมเราให้เข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้จากการเพิ่มยอดขายเพิ่มเติมให้ทีมได้เข้าใจว่า การเพิ่มยอดขายสามารถช่วยเพิ่มกำไรให้กับบริษัทได้ เป็นเป้าหมายที่สร้างอิมแพ็คขนาดใหญ่ให้กับองค์กร หากสามารถเพิ่มยอดขายได้ ก็จะทำให้บริษัทได้กำไร สร้างท่อหล่อเลี้ยงทั้งบริษัทให้แข็งแรงและก้าวต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด การสร้างแนวคิดนี้ก็จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้ทุกคนอยากหันมาลงมือเพิ่มยอดขายกันอย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น

 

5. ทีมผู้บริหารและผู้จัดการฝ่าย ใช้ฟีเจอร์อนุมัติใบเสนอราคา เพื่อความถูกต้องของข้อมูล

 rcrm quotation approval

 

ใบเสนอราคา ถือว่าเป็นเอกสารสำคัญสำหรับธุรกิจที่มีการซื้อ-ขายอย่างมาก เพราะใช้เป็นเหมือนเอกสารอ้างอิง หรือเอกสารสำคัญที่ประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญมากมาย เช่น ราคา รายละเอียดสินค้าหรือบริการ ข้อกำหนดและเงื่อนไขสำคัญต่าง ๆ ที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายควรต้องรับรู้ร่วมกัน ดังนั้นความถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะหากข้อมูลผิดพลาด อาจจะส่งผลเสียต่อธุรกิจก็เป็นได้ หากไม่มีใบเสนอราคาให้กับลูกค้า ก็จะทำให้การตกลงซื้อ-ขาย เป็นไปได้ยาก และในขณะเดียวกัน หากมีความล่าช้าในการอนุมัติใบเสนอราคา ก็จะส่งผลให้การเพิ่มยอดขายของเราช้าลงไปอีก

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้อง แม่นยำของใบเสนอราคา และสามารถส่งถึงลูกค้าได้อย่างไม่ตกหล่น ทีมขายหรือเซลส์สามารถสร้างใบเสนอราคาได้ง่ายและรวดเร็วด้วยระบบ R-CRM จากนั้นทำการส่งขออนุมัติใบเสนอราคากับผู้บริหารหรือผู้จัดการฝ่ายขายได้ทันที เพราะแอดมินหรือผู้เกี่ยวข้อง ได้มีการตั้งค่า Flow การอนุมัติไว้ก่อนแล้ว ทำให้ผู้บริหารหรือผู้จัดการฝ่ายขายสามารถตรวจสอบใบเสนอราคาและเซ็นอนุมัติออนไลน์ได้ทันทีผ่านอีเมลหรือผ่านระบบ R-CRM โดยตรงได้เช่นกัน

 

rcrm การขออนุมัติใบเสนอราคา

 

rcrm อนุมัติใบเสนอราคา

 

6. ธุรกิจควรมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย

หากธุรกิจเรามีจำนวนช่องทางการขายที่หลากหลาย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการขายได้มากขึ้น หากวันนี้เรายังเปิดช่องทางออนไลน์สำหรับการขายเพียง 1 ช่องทาง แนะนำว่าควรเปิดเพิ่มมากขึ้น เช่น Facebook Page, LINE shop, รวมถึงเว็บไซต์ ด้วยเช่นกัน แต่หลายคนก็อาจมองว่า เมื่อมีหลายช่องทาง งบค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้น และอาจจะทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง จะตอบลูกค้าที ก็ต้อง Log-in เข้าระบบหลาย ๆ แพลตฟอร์ม แต่ปัญหาหนักใจเหล่านี้จะหมดไปค่ะ หากเรามีการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการบริหารแชททุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook Messenger, LINE OA หรือเว็บไซต์ ก็สามารถจัดการได้ง่ายและสะดวกขึ้น ในหน้าจอเดียวด้วย Chat Center ที่ไม่ต้องเสียเวลาสลับแพลตฟอร์มแชทไปมาให้วุ่นวาย สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าเข้า ระบบ CRM ได้อีกด้วย นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ธุรกิจยุคนี้ควรนำเข้ามาใช้เป็นอย่างมาก

chat center บริหารแชททุกช่องทางในจอเดียว

 

7. ธุรกิจควรเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานให้ดียิ่งขึ้น

ในยุคปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก การทำงานและจัดการทุกอย่างด้วยตัวเราเองเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เราไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีเหมือนแต่ก่อนแล้วก็เป็นได้ อีกทั้งยิ่งทำให้เราไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที ในเมื่อต้องทำงานแข่งกับเวลา และช่วงชิงลูกค้าที่มีคู่แข่งมากมายในปัจจุบัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ธุรกิจควรเปิดรับแนวคิด และมองหาระบบหรือเครื่องมือทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดงานที่ซับซ้อนบางส่วนออกไป เพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น และได้มีเวลาไปโฟกัสงานที่จำเป็นมากกว่าได้  ดังเช่น R-CRM แพลตฟอร์มบริหารจัดการงานขาย ที่เข้ามาช่วยให้ทีมขายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือ Pointspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร เครื่องมือทำ Loyalty Program เพื่อรักษาฐานลูกค้าประจำและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มาเป็นสมาชิกของธุรกิจ เป็นต้น

 

8. วิเคราะห์รายงานการขายเพื่อหาแนวทางในการพัฒนาสินค้าและการบริการที่ดีขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

 

rcrm sales report lead conversion

 

นอกจากการทำงานที่ดี เป็นขั้นเป็นตอน มีระบบแบบแผนที่ดีแล้ว สิ่งที่จะบอกได้ว่า ที่ผ่านมาผลงานดีหรือไม่ดี หรือมีอะไรที่ต้องปรับปรุงก็คือ รายงานการขายนั่นเอง ตัวเลขและข้อมูลต่าง ๆ สามารถสะท้อนได้ว่า อะไรคือจุดเด่นของธุรกิจที่ต้องเสริม อะไรคือจุดด้อยที่ควรปรับปรุง แต่ข้อเสียของการทำรายงานก็คือ ทำให้เราต้องเสียเวลาจำนวนมากในการรวบรวมข้อมูล จนแทบไม่เหลือเวลามาคิดวิเคราะห์ที่มีอยู่ ซึ่งปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีมาช่วยเก็บข้อมูล อย่างเช่น R-CRM ที่มีการเก็บข้อมูลการขายต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ และสามารถดูรายงานสถิติต่าง ๆ ได้ทันทีผ่าน R-Insights ที่ประมวลผลออกมาในรูปแบบข้อมูลที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นตารางสรุปผล หรือแผนภูมิภาพ ที่จะช่วยให้เรามองข้อมูลได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารวมข้อมูลลงไฟล์ Excel แล้วมานั่งทำสไลด์ แต่ใช้เครื่องมือนี้ก็สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ทันที มีเวลาเหลือไปคิดแนวทางพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น

 

9. การประสานงานในองค์กรมีความเป็นระบบ ส่งต่อข้อมูลหากันได้ง่าย

ความล่าช้าในการทำงาน ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการเดินไปสู่เป้าหมาย ลองนึกภาพดูว่า แทนที่เราจะปิดการขายได้ภายใน 2 อาทิตย์เป็นอย่างช้า แต่ยังติดเรื่องการส่งเอกสาร หรือการสื่อสารกับหัวหน้าที่มีสิทธิในการอนุมัติใบเสนอราคา ก็จะทำให้ปิดการขายไม่ได้ ส่งผลให้ล่าช้ามากยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าเรานำ ระบบ CRM มาใช้ในการขาย ก็จะช่วยเรื่องการสื่อสารภายในองค์กรเป็นไปอย่างราบรื่น ประสานงานต่าง ๆ ได้ในระบบเดียว ส่งต่อข้อมูลได้ง่าย สามารถตรวจสอบได้ว่า ลูกค้าแต่ละคนอยู่ในขั้นตอนไหน ใครกำลังรับผิดชอบดูแลอยู่ หรือในกรณีที่เราอยากเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดูแลงานลูกค้า ก็สามารถ Assign ผ่านระบบได้ทันที ข้อมูลก็ถูกส่งต่อไปอย่างครบถ้วน ไม่ตกหล่นไม่สูญหาย เป็นต้น

 

สรุป

ในยุคที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบมากมายจากสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดโควิด-19 ภาวะเงินเฟ้อ และอีกมากมายที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ของไทยไม่มาก ก็น้อย แต่ธุรกิจก็ต้องดำเนินต่อไปและเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด จึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์และวิธีการ ที่ช่วยผลักดันยอดขาย ให้บริษัทก้าวเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งการเดินไปในวิธีการที่ถูกต้องและทำได้จริง จะช่วยให้ก้าวถึงความสำเร็จได้อย่างแม่นยำ และนี่คือ 9 แนวทาง พร้อมการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยี ที่จะช่วยติดปีกให้ธุรกิจคุณ ให้พุ่งทะยานไปได้ไกลกว่าเดิม

หากคุณอยากหาตัวช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับสร้างโอกาสการขายให้ได้มากขึ้นอย่างเดิม R-CRM แพลตฟอร์มบริหารจัดการงานขาย จะสามารถช่วยพัฒนาเรื่องการขายของคุณได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งสามารถจัดการและบริหารระบบการขายได้ตรงกับแผนธุรกิจคุณได้ในหน้าจอเดียว

 

 

 

สมัครใช้งาน Readyplanet R-CRM 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

 

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี


 

 


 

 

บทความที่น่าสนใจ

 

 

CRM