10 วิธีหาลูกค้าใหม่จากช่องทางออนไลน์และออฟไลน์

ในยุคที่เกิดการแข่งขันสูง สถิติการจดทะเบียนนิติบุคคลก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจ ช่วงสถานการณ์ Covid-19 ทำให้ผู้ประกอบการหลาย ๆ รูปแบบธุรกิจพลิกแพลงการตลาดทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ปรับตามพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า สมัยนี้ทุกอย่างมักดำเนินการผ่านออนไลน์ เพราะง่ายและสะดวก แต่ในขณะเดียวกัน การตลาดแบบออฟไลน์หรือลูกค้าที่ชอบเลือกซื้อผ่านออฟไลน์ก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้นผู้ประกอบการอย่ามองข้ามเด็ดขาด เพราะนั่นคือโอกาสในการเพิ่มยอดขายด้วย 

 

 

วันนี้ Readyplant อยากแบ่งปันวิธีการหาลูกค้าเพื่อให้ผู้ประกอบกิจการ ลองนำไปปรับใช้ให้เข้ากับรูปแบบธุรกิจของคุณ ดังนี้

 

1. ช่องทางการค้นหาผ่าน Google

 

 

Google คือ Search Engine อันดับ 1 ของโลก สามารถเชื่อมต่อกับทุกแพลตฟอร์ม และทุกคนบนโลกแบบไร้พรมหมแดน และในด้านของธุรกิจหลาย ๆ ธุรกิจได้ทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ Google Ads ยังคงเป็นอันดับต้น ๆ ที่นักธุรกิจเลือกทำโฆษณา เหตุผลที่นักธุรกิจเลือกทำเว็บไซต์ ก็เพราะว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ก่อนจะติดสินใจเลือกสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริการต่าง ๆ ต้องเสิร์ชข้อมูล ค้นหารีวิวเปรียบเทียบกับแบรนด์คู่แข่ง โดยลูกค้าจะค้นหาข้อมูลรีวิว รายละเอียดสินค้าจาก Google ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้การมีเว็บไซต์ของแบรนด์ จึงสำคัญต่อการเรียกลูกค้าเพิ่มโอกาสการสร้างยอดขายอีกด้วย Readyplanet ขอแนะนำ R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One ไม่ว่าจะเป็น ระบบ SEO, Chatday (ระบบแชทโต้ตอบกับลูกค้า) สะดวกไม่แพ้ Messenger ของ Facebook แถมรองรับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน PC หรือแท็บเล็ตได้ ที่สำคัญทดลองใช้ฟรี

 

2. นามบัตร

 

การที่เรามี Connection นามบัตรกัน จะทำให้คุณมียอดขาย เนื่องจากเคยพูดคุยกันมาบ้างแล้ว ต้องมีความสนใจในเบื้องต้นถึงแลกนามบัตรไว้ ส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ทักษะการปิดการขายของทีมเซลส์แล้วว่าจะมีสกิลมากน้อยเพียงใด (ยุคนี้กลุ่มคนที่พกนามบัตร จะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับผู้บริหารหรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เช่น ระดับผู้จัดการ) ส่วนเราก็ควรจะมีนามบัตรกิจการที่ชัดเจน ชื่อที่อยู่เบอร์โทรติดต่อ เพื่อให้ติดต่อกลับได้ง่าย

 

3. ป้ายหน้าร้าน

 

 

ในหนึ่งวันเราเดินผ่านผู้ประกอบการไม่รู้กี่ร้อยราย เพียงแค่สละเวลามองหาข้อมูลติดต่อ เช่น ป้ายหน้าร้าน เบอร์โทรที่แปะอยู่ ผนวกกับการที่คุณเคยเห็นกิจการคร่าว ๆ แค่ทำการบ้านในบทสนทนาโน้มน้าว เท่านี้ก็ไม่อยากในการคว้ายอดขายได้อย่างภาคภูมิใจ และการที่ป้ายหน้าร้านอย่างชัดเจนก็จะทำให้โดดเด่นและเป็นภาพจำสะดุดตา

 

4. ออกบูธ-งานอีเว้นท์

 

การออกบูธตามงานอีเว้นท์ต่าง ๆ เหมือนเป็นธรรมเนียมของทุก ๆ บริษัท แต่การเลือกงานอีเว้นท์ที่จะไปออกบูธ เราควรมีการคัดกรองกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาเดินในงานหรือวันเวลาที่กลุ่มลูกค้าเราจะเข้าชมงานมากที่สุด เพราะวิธีนี้นอกจากเราจะได้ลูกค้าคุณภาพเกรด A แล้วยังช่วยจัดการเรื่องงบประมาณการออกบูธและการจัดแจงบุคคลากรที่ต้องดูแลบูธอีกด้วย ผู้จัดการที่มีสกลิและความรอบขอบแบบนี้แหละที่จะนำทัพองค์กรและทีมเซลส์ของคุณไปถึงเป้าหมายในแต่ละไตรมาสสำเร็จ

 

5. Linkedin.com

 

เป็นแหล่งรวมข้อมูลขนาดใหญ่ ที่บุคคลวัยทำงาน ผู้มีอำนาจตัดสินใจและผู้ประกอบการอยู่ในแพลตฟอร์มนี้ เพื่อประกาศหาพนักงานเป็นจำนวนมาก  เพียงคุณ Sign in และปรับแต่งโปรโฟล์เป็นภาษาอังกฤษเพื่อความมืออาชีพ วิธีนี้ก็เป็นอีก 1 วิธีที่น่าสนใจ พาตัวเองเข้าไปอยู่ในเเพลตฟอร์มที่มีแต่นักธุรกิจ ผู้ประกอบการเป็นส่วนใหญ่ และเป็นวิธีที่ง่ายในการได้ Contact ของเหล่านักธุรกิจ

 

6. ลูกค้าเก่าคือแหล่งบอกต่อลูกค้าใหม่ได้

 

ลูกค้าเก่าที่เคยมีประสบการณ์ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราเคยนำเสนอขาย เรามี Contact กันอยู่แล้ว ซึ่งพวกเขาจะไม่ปฎิเสธที่จะสนทนา เพียงคุณเพิ่มคุณสมบัติ “เซลส์มือทอง” มีบริการหลังการขายที่ดี สอบถามความพึงพอใจ ให้เขารู้สึกประทับทั้งก่อน-หลัง การซื้อขาย และพวกเขายังเป็น เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ที่เรียกลูกค้าใหม่มาให้คุณ หรือที่เรียกว่า “Word of mouth” การบอกต่อเพื่อน ๆ หรือคู่ค้าธุรกิจ ข้อนี้ลูกค้าจะวิ่งเข้าหาคุณเองแบบไม่ทันตั้งตัวแน่นอน

 

7. แอปพลิเคชั่น “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า”

 

อีก 1 แหล่งลูกค้าคุณภาพ เพราะข้อมูลในแอปนี้ ลูกค้ามีการจดทะเบียนการค้า จดบริษัทแบบถูกกฎหมาย เหมาะสำหรับเซลส์ประเภท B2B กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีทั้งรูปแบบแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ www.dbd.go.th แค่เสิร์ชคีย์เวิร์ด ก็จะเจอแหล่งข้อมูลธุรกิจมากมาย คราวนี้แหละคุณก็สามารถติดต่อทำนัด เพื่อเข้าไปนำเสนออย่างมืออาชีพ แอปพลิเคชั่นนี้ยังมีฟีเจอร์ดูงบการเงินย้อนหลังของลูกค้า ในจุดนี้เราสามารนำมาเป็นขอมูลในการเสนอโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าได้ เนื่องจากเราทราบงบการเงินของลูกค้า ก็สามารถคัดกรอกเบื้องต้นได้ว่า ถ้าร่วมงานกันแล้วจำมีกำไรหรือไม่

 

8. แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์

 

ผู้บริหาร หรือคนที่มีอำนาจการตัดสินใจ และวัยทำงาน สาวออฟฟิศ มักชอบหาข้อมูลในสิ่งที่ตนเองสนใจ ผลิตภัณฑ์ รีวิว จากทางเว็บไซต์มากกว่า Facebook เนื่องด้วยเหตุนี้ที่ยังอยากให้ เซลส์ทุกคนห้ามมองข้ามการให้ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ เซลส์บางคนมีมัลติสกิลอยู่ในตัว เปิดเว็บไซต์ (เพราะสมัยนี้แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์มีบริการฟรีเยอะมาก ของ Readyplanet ก็มีนะคะ) ทั้งทำ Content ออกแบบ Artwork ได้ด้วยตัวเอง ก็ใช่ฟังก์ชันความสามารถที่มีทำลงในเว็บไซต์ ยุคนี้คือยุคดิจิทัล เซลส์ยุคใหม่ต้องหันใช้เทคโนโลยีให้คล่อง เมื่อข้อมูลในเว็บไซต์เราพร้อมเหมือนมีเซลส์มาบริการถึงหน้าจอ ลูกค้าก็จะกรอกข้อมูลหน้าเว็บพร้อมวัตถุประสงค์ที่สนใจ เพื่อให้เราติดต่อกลับนั้นเอง

 

9. Social media

 

 

 

แน่นอนว่าทุกคนใช้ Social Media เป็นหลัก ทั้ง Facebook Instragram ซึ่งใน Social Media เหล่านี้ มีลูกค้าในหากหลายกลุ่มประเภท ดังนั้นจุดนี้อยากให้ทุกคนคัดกรอกลูกค้าที่ดี ไม่เพียงแต่คุณจะเสิร์ชหาเท่านั้น คุณยังสามารถมีไอเดียเข้าไปแลกเปลี่ยนใน Facebook group ต่างๆ และที่ทุกคนต้องเคยเจอเป็นประจำ คือ การยิงแอดโฆษณา หรือเรียกอีกอย่างว่าการบูสโพสต์ ตัวนี้จะเป็นอีก  1 รายจ่ายที่มหาศาลขององค์กร ลองผิดลองถูกกว่าจะเจาะ Insight ที่ถูกต้องของกลุ่มลูกค้า นอกจากมียังมีการบอร์ดแคสข้อความผ่านโปรแกรม LINE แม้แต่ Instagram ก็สามารถยิงโฆษณาได้ รวมการทำคอนเทนต์ร่วมกับเพจ Publisher ให้กลุ่มลูกค้าได้เสพข้อมูลผลิตภัณฑ์แบบบันเทิง มากกว่าการฮาร์ดเซลส์ ซึ่งในระบบ R-CRM ของ Readyplanet ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่เรียกว่า R-Insights ที่จะทำการบริหารทีมขายของคุณง่ายขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยทำ Sales Report วัดประสิทธิภาพของทีมเซลส์ได้อย่างแม่นยำ

 

10. สถิติยอดขายเก่า

 

Report ยอดขายเก่า ๆ เราสามารถเอามาเล่าใหม่ได้ เช่น เมื่อ 3 เดือนก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 ธุรกิจผลิตหน้ากากอนามัยเกิดขึ้นมาก เราก็เช็คว่าสถิติ ณ 3 เดือนที่แล้วยังได้รับความสนใจเท่าตอนนี้ไหม หรือเทรนด์เมื่อปีก่อนช่วงเดือนธันวาคมกลุ่มลูกค้าธุรกิจเสื้อกันหนาว ในปีนี้เราสามารถใช้กลุ่มลูกค้าเดียวกันนี้ในช่วงเดือนธันวาปีนี้ได้หรือไม่ แต่อีก 1 ปัญหาก็คือเจ้า Report ไม่ว่าจะย้อนหลัง 3 เดือน 12 เดือน ข้อมูลก็อาจจะสูญหายบ้าง ไม่ครบถ้วนบ้าง ทาง Reayplanet จึงมีระบบ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ตอบโจทย์ Painpoint หลาย ๆ อย่างของเซลส์ เรียกง่าย ๆ ก็คือ ระบบแบบ One Stop Service ที่ระดับผู้บริหาร หรือ Manager Team ใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ทีมเซลส์ไม่ว่าจะดู Report ยอดขายรายได้ ย้อนหลังก็ดูได้ ติดตาม Leads หรือลูกค้าได้อย่างมีระเบียบ ไหมว่าจะเซลส์คนไหนดูแลสานต่อ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที จุดนี้ถือว่าเป็นไม้ตายให้ลูกค้าประทับใจในการบริการได้อีกด้วย หรือการสร้าง Quotation , Invoice ระบบ R-CRM ก็ครอบคลุมในฟีเจอร์นี้ด้วย

 

หลังจากที่ท่านได้รู้จักเทคนิคในการหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลน์ก็ดี หรือออฟไลน์ก็แล้วแต่ สิ่งที่ต้องคำนึงเพิ่มคือการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม สื่อ หรือสถานที่ที่เรากำลังจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากได้รายชื่อลูกค้า หรือมีลูกค้าติดต่อหาคุณแล้ว คือการบริหารจัดการ และบันทึกข้อมูลของลูกค้าได้อย่างเป็นระบบ เพราะจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถวัดผลได้แม่นยำขึ้น ดังนั้นหากธุรกิจของคุณสามารถลงทุนนำแพลตฟอร์ม CRM ไปใช้กับธุรกิจของคุณได้ ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า และสามารถเป็นแต้มต่อสำคัญต่อธุรกิจได้ในระยะยาว

 

R-CRM หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของ Readyplanet All-in-One Platform 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

 

R-CRM ทดลองใช้ฟรี


Updated: 5 January 2021 | Produced by: Dujnapa Chauthamcharoen

 

 


 

 

บทความที่น่าสนใจ

 

 

CRM