8 เทคนิค พัฒนาทีมขายของธุรกิจให้พิชิตยอดขาย ในปี 2023

หากคุณเป็นผู้จัดการฝ่ายขายหรือผู้บริหารองค์กร หลาย ๆ ครั้งคุณอาจถูกครอบงำด้วยคำถามต่าง ๆ เช่น ธุรกิจจะเติบโตได้อย่างไร จะสร้างรายได้ให้กับองค์กรอย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือจะเพิ่มยอดขายอย่างไร? คำตอบของคำถามเหล่านี้ คือ การพัฒนาทีมขายให้มีประสิทธิภาพ ฝึกอบรมให้ทีมขายได้ค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการขายของทีมตนเอง ขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าด้วยทักษะของพนักงานในองค์กรที่คอยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและธุรกิจ ในปี 2023 นี้ การพัฒนาทีมขายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจพิชิตยอดขายและบรรลุเป้าหมายได้นั่นเอง

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

 

การพัฒนาทีมขาย คืออะไร?

การพัฒนาทีมขาย คือ การพัฒนาทักษะของพนักงานขายให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมการตลาดและการขายได้ เพราะในยุคปัจจุบันกลยุทธ์การขายนั้นพัฒนาไปไกลมากกว่าการมีแค่พนักงานขายใช้เทคนิคต่าง ๆ มาเพื่อสร้างยอดขายให้มากสุด แต่ยังมีกลยุทธ์อื่น ๆ อีกมากมายเพื่อทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น การนำ แพลตฟอร์ม CRM มาใช้เพื่อดูแลติดตามการขายกับลูกค้า กลยุทธ์การขายแบบใหม่หรือนวัตกรรมใด ๆ ที่อาจจะไม่เคยมีมาก่อนในตลาดแต่สามารถช่วยกระตุ้นการขายได้ เป็นต้น ดังนั้น ทีมขายจึงต้องเรียนรู้ทักษะการใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้และทักษะใหม่ ๆ เพื่อค้นหากลยุทธ์ที่เหมาะสม เพื่อจะได้ดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

 

ทีมขาย

 

ทำไมธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมขาย?

ในปี 2023 สภาพแวดล้อมของการตลาดและการขายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าก็เปลี่ยนไปทุกวัน ดังนั้นการพัฒนาทีมขายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อองค์กร หรือแม้แต่ทีมผู้บริหาร ที่ต้องเตรียมพร้อมทีมขายให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ เพราะการมีกลยุทธ์ใหม่ ๆ หรือการนำเทคโนโลยีสำหรับใช้ในการบริหารทีมขายเข้ามาใช้ เช่น Readyplanet R-CRM จะช่วยให้มีการยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามการตั้งเป้าของธุรกิจและนำไปสู่การสร้างรายได้ ผลกำไรให้กับองค์กรได้สำเร็จ

 

8 เทคนิค พัฒนาทีมขายของธุรกิจให้พิชิตยอดขาย ในปี 2023

1. พัฒนาเทคนิคการตั้งเป้าหมายและกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพ

 

เป้ายอดขาย

 

การกระตุ้นให้ทีมขายสามารถตั้งเป้าหมายและกลยุทธ์ให้ตัวเองได้ปรับปรุงและเพิ่มพูนทักษะใหม่ ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความท้าทายให้กับตัวเอง ซึ่งวิธีการตั้งเป้าหมายการขายในระดับบุคคลและทีมอาจดูเหมือนเป็นงานหนักแต่พนักงานขายจะได้รับแรงจูงใจที่ต้องการทำให้ประสบความสำเร็จ

 

เทคนิคการตั้งเป้าหมายและกลยุทธ์สำหรับการบริหารทีมขาย สามารถทำได้ ดังนี้

1.1 คำนวณเป้าหมายการขายรายเดือนของแต่ละบุคคลและทีมขายให้สอดคล้องกับการขายรายเดือนและรายปีจากเป้าหมายของบริษัทเพื่อแบ่งแยกว่าพนักงานขายแต่ละคนต้องได้รับยอดขายเท่าไหร่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น

1.2 กำหนดเป้าหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น

1.3 จัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย พิจารณาว่าเป้าหมายใดสำคัญและมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในสร้างการเติบโตและผลกำไรให้กับองค์กร

1.4 กำหนดเป้าหมายกิจกรรมในเชิงพฤติกรรม เช่น การสร้างกระแสเงินสด การเพิ่มผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า และการปิดการขาย เพื่อให้พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่งได้ง่ายขึ้น

1.5 สร้างแรงจูงใจเมื่อไปถึงเป้าหมาย เช่น โบนัส ค่าตอบแทน หรือแม้กระทั่งการรักษางานไว้ เพื่อให้ทีมขายยอมรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และผลักดันตัวเองให้ไปถึงเป้าหมายได้ไวขึ้น

1.6 ติดตามความคืบหน้าอยู่เสมอผ่านเครื่องมือเทคโนโลยีอย่าง ระบบ R-CRM ที่สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายรายบุคคลและรายทีม เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตรวจสอบความคืบหน้าในกระบวนการขายก่อนที่จะมีการพูดคุยกับพนักงาน และคอยให้คำแนะนำได้เสมอเมื่อมีอุปสรรคในการทำงาน

 

2. การนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพของทีมขาย

เทคโนโลยีมีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานของพนักงานขายหรือเซลส์ รวมถึง ผู้บริหาร และธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความต้องการในโลกดิจิทัล การพัฒนาทีมขายให้ใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่วช่วยให้ทีมขายทำงานได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การเลือกใช้ระบบ CRM  มาช่วยในการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าและรักษาลูกค้าได้อย่างยาวนานมากขึ้น เป็นระบบที่ช่วยให้ทั้งผู้บริหารและทีมขายสามารถเข้าถึงกระบวนการทำงานและข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

 

ระบบ CRM

 

3. พัฒนาทักษะการบริหารเวลาเพื่อเพิ่ม Productivity

ในแต่ละวันพนักงานขายต้องเจอสิ่งรบกวนมากมายที่เหนือความคาดหมายตลอดเวลา บ่อยครั้งพวกเขาหมดเวลาไปกับสิ่งที่วุ่นวายและตระหนักได้ว่าการบริหารจัดการเวลาที่ดีและจัดลำดับความสำคัญจะช่วยให้พวกเขามีเวลามากขึ้น การทำงานมี Productivity และเพิ่มการบริหารจัดการการขายได้มืออาชีพ

การนำเครื่องมือการบริหารอย่าง R-CRM เข้ามาช่วยในการบริหารทีมขาย ,จัดการ Workflow ในขั้นตอนงานขาย ด้วยฟีเจอร์ การแจ้งเตือน ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ไม่พลาดทุกกิจกรรมใน R-CRM ทั้งการได้รับ Lead ใหม่, การติดตาม Lead, การอนุมัติใบเสนอราคา รวมถึงการติดตามรายการสั่งซื้อ ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้พนักงานมีเวลาโฟกัสงานที่สำคัญ ๆ ได้ก่อน ติดตามลูกค้าได้อย่างไม่ตกหล่น ช่วยจัดการลูกค้าสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญได้โฟกัสการขายได้มากขึ้น จนเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้นอีกด้วย

 

ตารางงาน

 

4. คอยให้คำปรึกษาและชี้แนะแนวทางที่มีคุณค่า

ทีมขายที่มีผู้นำที่ดีจะพัฒนาตัวเองได้เร็วและรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองได้ดี บทบาทที่สำคัญของผู้จัดการฝ่ายขายหรือผู้บริหารองค์กรคือการฝึกสอน ให้คำปรึกษา และวางแผนพัฒนาความสามารถของทีมขายให้สามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้ โดยผู้จัดการฝ่ายขายหรือผู้บริหารองค์กรสามารถใช้ โปรแกรม CRM มาช่วยในการบริหารทีมขาย ทั้งการจัดการ การพัฒนา การติดตามการขายและดำเนินการ เพื่อคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ หรือตรวจสอบผลงานของทีมขายเพื่อให้รางวัล แรงจูงใจ หรือคำแนะนำเพิ่มเติมให้ทีมขายได้พัฒนาศักยภาพตนเองได้ดีมากยิ่งขึ้น

 

5. การสร้างทีมขายให้มีความหลากหลาย

การสร้างทีมขายต้องคำนึงถึงความรู้และทักษะที่มีของพนักงานขายแต่ละคนในทีม เพื่อการดูแลลูกค้าที่ครอบคลุม พนักงานขายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น มีประสบการณ์มาก ก็สามารถแบ่งปันความคิด ไอเดีย หรือกรณีศึกษาต่าง ๆ เพื่อช่วยทีมขายคนอื่น ๆ ที่อาจจะยังใหม่ได้กระตุ้นให้คิดนอกกรอบ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนภายในทีม เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากขึ้น

 

พัฒนาทีมขาย

 

6. สร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีม

การทำงานเป็นทีม จะช่วยให้พนักงานขายรู้สึกถึงความมั่นคง การได้รับการสนับสนุนของคนในทีมและพร้อมที่จะช่วยกันทำงานให้ออกมาดีที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและกระตุ้นให้พวกเขาอยากมีส่วนร่วมในการทำงานได้ดีที่สุด และยังช่วยให้พนักงานรู้สึกว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ผูกพัน และรู้สึกสำคัญต่อองค์กรทำให้ขับเคลื่อนธุรกิจไปได้นั่นเอง

การบริหารทีมขาย โดยที่ให้พนักงานได้รู้สึกมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนขององค์กร จะเป็นเหมือนฟันเฟืองในการทำงานที่ดำเนินไปพร้อมกันได้อย่างเต็มกำลัง มีปัญหาก็พร้อมเผชิญและแก้ไขเพื่อให้ปัญหาคลี่คลาย และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในที่สุด

 

7. พัฒนาทักษะการขายให้เชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน

ปัจจุบันกลยุทธ์การขายขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าของโลกดิจิทัล จะเป็นตัวกำหนดเส้นทางการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ ของพนักงานขาย ที่จะช่วยให้ทำงานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น การเตรียมความพร้อมให้พนักงานขายสามารถคุ้นเคยกับเครื่องมือใหม่ ๆ ระบบใหม่ ๆ หรือ กลยุทธ์ที่หลากหลายท้าทาย ความรู้รอบตัวต่าง ๆ จะช่วยให้พนักงานขายมีทักษะรอบตัว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้มากมาย มีความเชี่ยวชาญในการขาย พร้อมรับมือกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ และยังช่วยพัฒนากระบวนการขายให้เข้าถึงผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าและเจาะลึกตลาดได้ครอบคลุมอีกด้วย

 

สรุป

การพัฒนาทีมขายให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2023 การเตรียมความพร้อม การพัฒนาทักษะทีมขายให้มีทักษะที่หลากหลาย พร้อมรองรับการดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมจะช่วยสร้างยอดขาย ขับเคลื่อนการเติบโตและความสำเร็จให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมขายให้มีการเติบโตที่ยั่งยืน ที่สำคัญคือมีการเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างระบบ R-CRM มาใช้ในการบริหารทีมขาย ซึ่ง ระบบ R-CRM เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ มีฟีเจอร์ต่าง ๆ การใช้งานที่สอดคล้องกับการใช้งานของคนไทย ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกหรือสถิติสำคัญต่าง ๆ เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้

 

 

สมัครใช้งาน Readyplanet R-CRM 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

 

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี


 

 


 

 

บทความที่น่าสนใจ

 

 

ประโยชน์ของ CRM