7 เทคนิคช่วยให้เซลส์พรีเซนต์งานและให้ปิดการขายได้รวดเร็ว
ปัจจุบันลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น เพราะมีช่องทางที่ให้ข้อมูล และอำนวยความสะดวกมากมายที่ลูกค้าสามารถค้นหาในสิ่งที่ต้องการทราบได้ อีกทั้งการเกิดขึ้นและคู่แข่งรายใหม่ที่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น ก็ทำให้การแข่งขันสูงขึ้นตามเช่นกัน ทำให้ธุรกิจในยุคนี้ สามารถปิดการขายได้ยากขึ้นและในเมื่อลูกค้ามีทางเลือกที่เยอะขึ้น ขั้นตอนการขายก็ยิ่งซับซ้อนมากกว่าเดิมเช่นกัน ทำให้ทีมขายและเซลส์ในตอนนี้ มีความท้าทายในการนำเสนอขายในมุมมองที่ต้องสร้างความแตกต่างกันออกไป ทั้งในมุมที่ว่าสินค้าและบริการของเราจะสามารถให้ประโยชน์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างไรบ้าง หรือเราสามารถส่งมอบสิ่งที่ลูกค้าไม่สามารถหาได้จากที่อื่นได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งว่า ทำไมเซลส์จึงต้องมีอาวุธหรือเทคนิคที่จะช่วยในการโน้มน้าวใจของลูกค้า ซึ่งเทคนิคการพรีเซนต์ หรือการนำเสนอขายสินค้าและบริการให้ดีและมีประสิทธิภาพ ก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถปิดการขายได้รวดเร็วมากขึ้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- การพรีเซนต์งาน หรือการเสนอขาย มีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจการขาย
- การพรีเซนต์ที่ดี มีประโยชน์อะไรบ้าง?
- 7 เทคนิคพรีเซนต์งานอย่างไร ให้ปิดการขายได้รวดเร็ว
- 1. ทำความเข้าใจลูกค้า และฝึกฝนสคริปต์ให้คล่องแคล่ว
- 2. เปิดตัวให้น่าสนใจด้วยข้อมูล Insights บุคลิกที่น่าประทับใจ น้ำเสียงที่น่าตื่นเต้น
- 3. สร้างบรรยากาศให้มีลักษณะเป็นการสนทนามากกว่าการนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
- 4. นำเสนอด้วย Presentation ที่เข้าใจง่าย และกระชับ
- 5. นำเสนอด้วยทางเลือกที่ตอบโจทย์ และความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับ
- 6. ตอบคำถามด้วยความเชี่ยวชาญ จัดการกับข้อโต้แย้งได้อย่างมืออาชีพ
- 7 . ปิดการขายให้น่าตื่นเต้น พร้อมช่องทางการติดต่อ
- สรุป
การพรีเซนต์งาน หรือการเสนอขาย มีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจการขาย
การพรีเซนต์ หรือการเสนอขายเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญ สำหรับทีมขายและเซลส์ เมื่อทำการนำเสนอได้ดีก็สามารถเข้าถึงผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า (Leads) ได้ การเสนอขายก็ง่ายขึ้น ทำให้ธุรกิจมีความแตกต่างจากคู่แข่ง สามารถผลักดันให้ลูกค้าสนใจในธุรกิจของเราได้
ในการสร้างโอกาสในการขาย เซลส์จะต้องใช้เทคนิคที่เหมาะสมในการนำเสนอการขายที่น่าสนใจ เริ่มต้นด้วยการสร้างเนื้อหาการขายที่ผลักดันให้ลูกค้ารู้สึกท้าทาย อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใหม่ ๆ เนื่องจากลูกค้าจะมีข้อกังวลที่แตกต่างกัน จึงต้องนำเสนอข้อความในรูปแบบที่ยืดหยุ่นเพียงพอต่อการครอบคลุมปัญหาที่หลากหลาย ให้คุณค่ากับธุรกิจของตัวเอง และมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ประโยชน์ของการพรีเซนต์ หรือนำเสนอขายที่สมบูรณ์แบบ
การนำเสนอการขาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการงานขาย ของเซลส์ที่เป็นโอกาสหนึ่งในการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้านอกจากการติดตามและเสนอขายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ เซลส์ที่มีเทคนิคการพรีเซนต์ที่ดี มีทักษะในการนำเสนอที่แพรวพราว และสามารถตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าได้ ก็อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อีกด้วย และยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ให้กับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการขายครั้งถัด ๆ ไปได้มากขึ้น
7 เทคนิคพรีเซนต์งานให้ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
หากเซลส์น้องใหม่หรือใครที่กำลังมองหาเทคนิคใการนำเสนอ หรือพรีเซนต์งาน เพื่อช่วยให้สามารถปิดการขายได้รวดเร็วนั้น ลองไป 7 เทคนิคต่อไปนี้พร้อมกันได้เลยค่ะ ว่ามีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจและสามารถนำไปใช้อย่างได้ผลอย่างไรบ้าง
1. ทำความเข้าใจลูกค้า และฝึกฝนสคริปต์ให้คล่องแคล่ว
เมื่อเซลส์รู้ว่าต้องมีการไปนำเสนอขายสินค้าและบริการให้ลูกค้า อย่างแรกเลยที่ควรต้องทำคือ การวางแผน ศึกษาข้อมูลของลูกค้าก่อนเข้าไปนำเสนอ นอกจากการที่ได้พูดคุย รับทราบความต้องการเบื้องต้นของลูกค้าแล้ว การศึกษาและทำความเข้าใจในข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ก็จะเป็นข้อได้เปรียบให้กับการขาย ข้อมูลดังกล่าว นอกจากข้อมูลของลูกค้าแล้ว ก็อาจจะดูไปถึงรูปแบบธุรกิจ สิ่งที่เป็นข้อกังวลของธุรกิจ และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ลูกค้าจำเป็นต้องรู้จัก การเตรียมพร้อม จะช่วยให้เราสามารถนำเสนอขายสินค้าและบริการได้อย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น ลูกค้าก็รู้สึกเชื่อถือ และสนใจในการขายของเรามากยิ่งขึ้น
2. เปิดตัวให้น่าสนใจด้วยข้อมูล Insights บุคลิกที่น่าประทับใจ น้ำเสียงที่น่าตื่นเต้น
ในการนำเสนอขาย ลูกค้าอาจจะเป็นผู้ที่เข้าใจในสถานการณ์ตลาดของตนเองมากกว่าผู้เสนอขาย แต่ลูกค้าก็ยังต้องการข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เซลส์จึงต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ทราบ เพื่อแสดงให้ลูกค้าประทับใจว่าเซลส์เรียนรู้จักผลิตภัณฑ์ของเขาเป็นอย่างดี และเข้าใจสินค้าก่อนนำเสนอขายบริการใด ๆ
การเข้าถึง Customer Insights หรือข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ผ่าน R-CRM ที่มีระบบบันทึกข้อมูลลูกค้า ทำให้เห็นได้ว่าที่ผ่านมาลูกค้ามีรายการสั่งซื้ออะไรไปบ้าง ปริมาณการซื้อ รายการสินค้าที่ลูกค้าซื้อบ่อยที่สุด ระยะเวลาการตัดสินใจซื้อ และการเก็บรวบรวมข้อมูลการติดต่อระหว่างเซลส์กับลูกค้า ทำให้เราเห็นพฤติกรรม ข้อกังวลที่เซลส์มักจะเจอบ่อย ๆ และสามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปนำเสนออ้างอิง หรือเตรียมสำหรับการตอบคำถามที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการนำเสนอได้
นอกจากการมีข้อมูลเชิงลึกในการสนับสนุน และช่วยให้การนำเสนอมีเนื้อหาที่เข้มข้น สร้างความเป็นมืออาชีพแล้ว เซลส์ก็ต้องอย่าลืมในเรื่องการวางบุคลิกที่น่าประทับใจ น้ำเสียงการบรรยายที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ เพื่อในการนำเสนอน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ บางครั้งหากมีบุคลิกที่ดูดี น้ำเสียงที่น่าฟัง เนื้อหาก็อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าก็เป็นได้
3. สร้างบรรยากาศให้มีลักษณะเป็นการสนทนามากกว่าการนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
การนำเสนอขาย เซลส์อย่าเพียงเอาแต่เป็นฝ่ายพูดอย่างเดียว ควรมีช่วงเวลาที่ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับเราบ้าง อาจจะมีการสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือการสอบถามพูดคุยเรื่องราวที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ นอกจากจะสร้างบรรยากาศให้เป็นกันเองแล้ว เซลส์เองก็จะรู้สึกผ่อนคลาย และสามารถนำเสนอการขายได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4. นำเสนอด้วย Presentation ที่เข้าใจง่าย และกระชับ
การนำเสนอขายด้วย Presentation เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้ปิดการขายได้ง่าย เพราะลูกค้าสามารถเห็นเรื่องราว รูปภาพ วีดีโอไปพร้อม ๆ กับวิธีการนำเสนอขายที่น่าติดตาม เข้าใจง่าย นำไปสู่การปิดการขายได้มากขึ้นอีกด้วย และเมื่อเซลส์ต้องมีการนำเสนองานขายในเชิงธุรกิจแล้วนั้น ก็ต้องมีการ เตรียมไฟล์นำเสนอให้ดูดี ควรต้องมีการปรับการสร้างสรรค์งานสำหรับนำเสนอ ให้ดูมีความเป็นมืออาชีพและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น สำหรับท่านใดที่ต้องการเรียนรู้ เทคนิคการใช้ PowerPoint ในเชิงธุรกิจ ปิดการขายอย่างได้ผล สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
5. นำเสนอด้วยทางเลือกที่ตอบโจทย์ และความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับ
การนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าด้วยการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด หรือเสนอข้อเสนอที่น่าสนใจ สิทธิพิเศษ รวมถึงคุณค่าต่าง ๆ ที่ลูกค้าจะได้รับจากสินค้าของเรา สิ่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยปิดการขายให้ได้ง่ายมากขึ้น เคล็ดลับในการนำเสนอการขายแบบนี้ต้องอาศัยความซื่อสัตย์ ให้ลูกค้าเห็นว่าเซลส์พยายามจะช่วยเขาอย่างแท้จริง อยากมอบสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ลูกค้าจริง ๆ และเซลส์เองก็ต้องมีความมั่นใจต่อทางเลือกที่เราได้นำเสนอให้ แสดงความกระตือรือร้นให้ลูกค้าเห็นว่าเซลส์ได้ช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสได้เติบโตมากเพียงใด และสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้ารู้สึกคล้อยตาม
โดยเมื่อการนำเสนอขายด้วยการพรีเซนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เซลส์อาจจะมีการส่งเอกสาร ที่ระบุข้อมูลแนวทางหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมลงในเอกสารให้ลูกค้าพิจารณาต่อได้ ซึ่งหากธุรกิจที่มี R-CRM ใช้ในการบริหารจัดการงานขาย เซลส์ก็สามารถส่งอีเมล และแนบเอกสารสำคัญ พร้อมใส่รายละเอียดลงในอีเมลได้เลย ส่งได้ง่ายผ่านระบบทันที และสามารถติดตามลูกค้าต่อได้โดยดูจากสถานะการเปิดอ่านอีเมล
6. ตอบคำถามด้วยความเชี่ยวชาญ จัดการกับข้อโต้แย้งได้อย่างมืออาชีพ
เทคนิคนี้ถึงแม้จะอาศัยความชำนาญในการขาย แต่จะดีที่สุดถ้าเซลส์สามารถจัดการกับคำถาม หรือปัญหาที่เกิดระหว่างการนำเสนอการขายได้ทันที คอยพูดโน้มน้าวลูกค้าให้เข้าใจสิ่งที่กำลังจะเสนอขายให้ และเซลส์ควรจำไว้เสมอว่า เซลส์และลูกค้ามีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่ต้องการให้ธุรกิจของลูกค้าประสบความสำเร็จ การนำเสนอขายเป็นเพียง 1 ในวิธีที่จะได้แชร์ไอเดียร่วมกันระหว่างเซลส์และลูกค้าเท่านั้น
7. ปิดการขายให้น่าตื่นเต้น พร้อมช่องทางการติดต่อ
การปิดการขาย มักเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในกระบวนการขาย เพราะมีปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อความสำเร็จในการปิดการขาย การนำเสนอขายอาจจะไม่ได้ดำเนินเพียง 2-3 วัน แต่อาจนานถึง 2-3 เดือน แต่อย่างไรก็ตามการจัดการงานขายเพื่อให้สามารถปิดการขายอย่างได้ผล มักจะต้องใช้เวลาที่เหมาะสม การแก้ไขข้อกังวลของลูกค้า และมีทางเลือกที่ดีพอและตอบโจทย์ต่อความต้องการของลูกค้า จึงจะปิดการขายได้โดยสมบูรณ์ แต่หลังจากการปิดการขายแล้วการติดตามช่วยเหลือ หรือคอยซัพพอร์ตลูกค้าอย่างต่อเนื่องก็ถือเป็นอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เซลส์สามารถปิดการขายได้ในครั้งถัดไปอีกด้วย เพราะลูกค้ามีความไว้เนื้อเชื่อใจทั้งในตัวเซลส์เองและตัวสินค้าบริการด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อนำเสนอขายแล้ว อย่าลืมวางแผนติดตามลูกค้าให้ถูกจังหวะ อย่างเช่น การใช้ Sales Pipeline ใน R-CRM เพื่อติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายให้ได้รวดเร็วมากขึ้น
สรุป
การพรีเซนต์หรือการนำเสนอขายที่ดี และมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เซลส์สามารถปิดการขายได้รวดเร็วขึ้นมากขึ้น ดังเช่นเทคนิคง่าย ๆ เพียง 7 ข้อที่เรานำมาฝากทุกท่านในบทความนี้ เทคนิคที่หากท่านได้ลองนำไปใช้ จะทำให้การพรีเซนต์หรือนำเสนอดูเป็นมืออาชีพ และโน้มน้าวลูกค้าได้มากขึ้นอย่างแน่นอน และทุกครั้งที่มีการนำเสนอการขาย ทีขายหรือเซลส์ก็อย่าลืมพกความมั่นใจและน่าเชื่อถือมาด้วยนะคะ
เทคนิคต่างๆ ข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยยกระดับการทำงานขายให้มีความโดดเด่น ช่วยทำให้ลูกค้าประทับใจ และอย่าลืมมองหาเทคโนโลยีมาช่วยบริหารทีมขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย เพื่อมาช่วยเสริมทัพการทำงานขายได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น สามารถสานความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอ และได้ยอดขายบรรลุตามเป้าอย่างแน่นอน
สมัครใช้งาน Readyplanet R-CRM
R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement
ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี
บทความที่น่าสนใจ
ระบบ CRM
-
เผื่อท่านใดกำลังอยากรู้ หรือกำลังก้าวเข้าสู่ตำแหน่งงานนี้ องค์ประกอบที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนธ...
-
Lead คืออะไร? ทำไมในยุคนี้ใคร ๆ ก็พูดถึง Lead และทำไมต้องเก็บ Lead?เชื่อว่าหลายคนที่ทำธุรกิจ หรืออยู...
-
ทำไมการขายตรง ๆ ถึงไม่ได้ผลเหมือนเดิม หรือทำไมลงรูปขายของบนโซเชียลมีเดียทุกวัน แต่ยอดขายก็ยังไม่มาสั...
-
เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ในอดีตการตลาดอาศัยการพยายามทำให้ "ลูก...