9 เทคนิคใหม่ช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ขายของออนไลน์ให้ขายดีกว่าเดิม!
ในบทความนี้คงไม่ต้องพูดถึงประโยชน์ของการมีเว็บไซต์หรือเว็บขายของออนไลน์กันให้มากมายอีกต่อไป เพราะ Readyplanet เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ที่เริ่มมีร้านค้าออนไลน์เพื่อนำเสนอขายสินค้าออนไลน์และบริการต่าง ๆ ก็น่าจะพอทราบกันดีอยู่แล้วว่าการมีเว็บไซต์นั้นจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ และเป็นประโยชน์ในด้านการตลาดออนไลน์ และอื่น ๆ ซึ่งคุณสามารถอ่านบทความ 10 ประโยชน์ของการมีเว็บไซต์ธุรกิจและเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ เพิ่มเติมได้ไดย คลิกที่นี่
ในขั้นตอนเริ่มต้นการทำเว็บไซต์นั้น ผลลัพธ์ที่คาดหมายอาจจะยังไม่ได้ผลดีมากเท่าที่ควร “เว็บขายของออนไลน์ที่เปิดมาลูกค้ายังไม่เยอะเลย ทำยังไงให้ขายสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บได้มากขึ้น?”
ในบทนี้ Readyplanet จึงได้รวบรวมเทคนิคใหม่ล่าสุด! ที่จะช่วยคุณปรับปรุงเว็บขายของออนไลน์ให้ดีกว่าเดิม
9 เทคนิคใหม่ช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ขายของออนไลน์ให้ขายดีกว่าเดิม
1. เปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดา ให้กลายเป็นร้านค้าออนไลน์เต็มรูปแบบ
แน่นอนว่าการมีเว็บไซต์ไว้เพียงนำเสนอสินค้าและบริการ ที่มีแค่รูปสินค้า ราคา และรายละเอียดต่าง ๆ นั้นคงยังเพียงพอต่อการตัดสินใจซื้อเป็นแน่ ให้คุณลองจินตนาการถึงการทำการตลาดออฟไลน์แบบเก่า เช่น การแจกโบร์ชัวที่ยื่นแผ่นกระดาษที่มีรูปสินค้า ราคาและรายละเอียดสินค้าต่าง ๆ มาให้คุณคิดว่าการทำแบบนั้นยังดีอยู่หรือไม่?
ยิ่งถ้าคุณยังไม่มีระบบ Shop หรือตะกร้าสินค้า ไว้รองรับลูกค้าที่สนใจจะซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ของคุณให้ทันท่วงทีแล้วล่ะก็ นั่นคงไม่ดีแน่สำหรับการขายของออนไลน์ในยุคนี้ ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดา ให้กลายเป็นร้านค้าออนไลน์เต็มรูปแบบ จะต้องมีสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้คือ
- ระบบ Shop หรือ ระบบตะกร้าสินค้า ที่พร้อมสำหรับการจัดการรายการสั่งซื้อได้บนเว็บไซต์ตั้งแต่ต้นจนจบ
- ระบบ Payment สำหรับเป็นช่องทางการชำระเงินได้หลากหลายรูปแบบ
- ระบบสต็อกสินค้า เพื่อช่วยให้คุณสามารถจัดการสินค้าในคลังสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้น
- ระบบ Order Tracking ไว้สำหรับติดตามสถานะของสินค้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจในหารสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ของลูกค้า
หากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์สำหรับขายสินค้าออนไลน์ Readyplanet ขอแนะนำ R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One
2. แก้ไข SEO บนเว็บไซต์
สิ่งแรกที่คุณควรทำก่อนเริ่มที่จะทำการแก้ไข SEO บนเว็บไซต์ก็คือ “Keywords บนเว็บไซต์ของคุณคืออะไร?” ซึ่งในเบื้องต้นเราจะขอพูดถึงคนที่มีเว็บไซต์อยู่แล้วและมี Keywords บนเว็บไซต์อยู่แล้วก่อน
โดยเราจะขอแนะนำเครื่องมือการวัดประสิทธิภาพของ Keywords บนเว็บไซต์ของคุณแบบฟรี ๆ นั่นก็คือ Google Search Console โดยเครื่องมือนี้คือเอาไว้ใช้ดูประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณที่ไปปรากฎบนหน้าของ Google หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเว็บไซต์คุณกับ Google โดยสามารถดูรายงานประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ได้ตั้งแต่คนเข้าเว็บเราจาก keywords อะไร, อัตราการปรากฎเว็บเราบนหน้า Google เทียบกับการกดเข้ามาดู (CTR), การคลิกเข้าเว็บเราจากที่อื่น (Backlinks), รูปแบบการแสดงผลเว็บเราบน Google รวมไปถึงมีการแจ้งเตือนเมื่อเว็บเกิดปัญหา
ฉะนั้น เมื่อคุณทราบถึงปัญหาในจุดต่าง ๆ ของเว็บขายของออนไลน์ของคุณที่ได้จาก Google Search Console เช่น Keywords อันไหนดี, ไม่ดี ก็สามารถเอามาปรับแก้ไขในเรื่องของการทำ SEO บนเว็บไซต์ของคุณได้ นั่นเอง
ส่วนคนที่ยังไม่เคยมี Keywords บนเว็บไซต์เลย อันดับแรกเลย คุณต้องพิจารณาก่อนว่าเว็บไซต์สำหรับขายสินค้าออนไลน์ของคุณนั้น ขายอะไร? เป็นธุรกิจประเภทไหน? สินค้าและบริการนั้นคืออะไร? จากนั้นลองพิจารณาดูว่า คนที่เป็นลูกค้าจะค้นหาเพื่อหาสินค้าและบริการของคุณจากคำว่าอะไร? เมื่อทราบแล้วลองเลือกคำหรือ Keywords มาสัก 10 คำแล้วนำมาหาข้อมูลจากเครื่องมือที่ชื่อว่า Google Keyword Planner ซึ่งคุณสามารถ ดูวิธีการและขั้นตอนการหา Keyword ให้กับเว็บไซต์ด้วย Google Keyword Planner อย่างละเอียดทุกขั้นตอนได้โดย คลิกที่นี่
3. สร้าง Content บนเว็บไซต์ให้น่าสนใจ
Content ที่เรากำลังจะกล่าวนั้น ไม่ใช่แค่ตัวบทความที่มีเนื้อหาสาระประโยชน์เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย หรือใส่ไว้เพื่อช่วยเรื่อง SEO บนเว็บไซต์แต่อย่างเพียงเดียว เพราะเราหมายรวมถึงการสร้าง Content เพื่อสื่อสารกับลูกค้าในทุกแง่มุมบนเว็บขายของออนไลน์ของคุณ ที่ประกอบไปด้วย รูปสินค้า, รายละเอียดสินค้า, ราคาและโปรโมชั่น รวมไปถึงการวางโครงสร้างเว็บไซต์เพื่อลำดับการสื่อสารกับลูกค้าให้น่าดึงดูดมากพอที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ
องค์ประกอบของ Content บนเว็บไซต์ที่จะช่วยให้ดึงดูดใจลูกค้า มีดังนี้
- ลูกค้าเข้ามาแล้วต้องรู้เลยว่า “ขายอะไร” เพราะร้านค้าออนไลน์นั้นไม่ได้มีพนักงานขายอยู่ 24 ชั่วโมง ฉะนั้นเราต้องสื่อสารให้ลูกค้าทราบได้ทันทีเลยว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นขายสินค้าหรือบริการอะไรให้ชัดเจน รวมถึงโลโก้หรือชื่อแบรนด์ของคุณด้วย
- หมวดเมนูต้องแบ่งแยกชัดเจน เข้าใจง่าย ใช้ง่านง่าย สามารถคลิกหาได้ทันที เพราะในเว็บขายของออนไลน์ การที่ลูกค้าคลิกน้อยที่สุดเท่ากับดีที่สุด
- เสริมลูกเล่นที่น่าสนใจด้วย Content VDO อาจจะเป็น VDO แนะนำสินค้า, วิธีการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจในตัวสินค้าของเรามากขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- รายละเอียด: การใส่รายละเอียดสินค้านั้น แน่นอนว่าความครบถ้วนสมบูรณ์จะช่วยให้ลูกค้าที่เข้ามาบนเว็บไซต์ขายของออนไลน์ของคุณ ตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น แต่เราอยากให้คุณพิจารณาในการใส่รายละเอียดสินค้าเพิ่มอีกนิดในเรื่องของ “จุดเด่นหรือจุดขาย” ของสินค้าเพิ่มเข้าไป ก็จะช่วยปิดการขายได้ไวเพิ่มมากขึ้น
*หมายเหตุ: ไว้สำหรับเรื่อง “จุดเด่นหรือจุดขาย” อาจจะไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติของสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อาจหมายถึง ฟรีส่ง, ราคาพิเศษ, ลดราคา 30% -50% เหล่านี้ก็อาจเป็นจุดขายสำคัญของสินค้าก็เป็นได้
4. ปรับแต่งรูปสินค้าให้ดึงดูดใจ
- รูปสินค้า : ควรเป็นรูปที่ถ่ายจากสินค้าจริง มีภาพสินค้าในหลาย ๆ มุม เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงการหยิบจับสินค้าพลิกดูได้
- การจัดพื้นหลัง : โดยทั่วไปแล้วใช้เป็นพื้นขาวก็อาจจะดีที่สุด หรือถ้าคุณมีความสามารถในการจัดองค์ประกอบภาพของภาพให้มีความสวยงามได้ก็จะเพิ่มความน่าสนใจให้ภาพสินค้าได้ดีทีเดียว
- การติดแท็กป้ายกำกับสินค้า : ประเภทของป้ายกำกับสินค้า ที่ใช้กันโดยส่วนใหญ่ก็จะมีทั้ง สินค้าแนะนำ, สินค้าใหม่, สินค้าขายดี และป้ายลดราคาหรือโปรโมชั่นต่าง ๆ เป็นต้น
เพิ่มความน่าสนใจให้การขายสินค้าออนไลน์บนเว็บไซต์ของคุณ ด้วย Feature ใหม่ของ Readyplanet ป้ายกำกับสินค้า (Product Labels) หนึ่งในบริการของ R-Shop ที่จะช่วยสร้างการดึงดูดสายตาของลูกค้าที่เข้ามายังหน้าเว็บ ยิ่งถ้ามีราคาพิเศษประกอบด้วย ก็จะยิ่งช่วยสร้างโอกาสการขายให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณได้เป็นอย่างดี
5. สร้าง Promotion Popup แจ้งประกาศ ข่าวสาร หรือ โปรโมชั่น เพื่อแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์
การสร้าง Promotion Popup เพื่อแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแสดงโปรโมชั่นของสินค้าและบริการได้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งเครื่องมือในการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับหลาย ๆ วัตถุประสงค์ เช่น แจ้งโปรโมชั่น, แนะนำสินค้าเด่น, หรือ มาตรการการรักษาความสะอาดรับมือ COVID-19 เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ เป็นต้น
สำหรับท่านที่ใช้งานแพลตฟอร์มการตลาดแบบ All-in-One ของ Readyplanet สามารถเริ่มต้นใช้งาน Promotion Popup ได้ตั้งแต่แพ็กเกจฟรีขึ้นไป ผ่านการใช้งาน R-Widget ซึ่งท่านสามารถดูขั้นตอนในการสร้าง Promotion Popup ได้ไดย คลิกที่นี่
ลองจินตนาการดูสิว่า ถ้าคุณต้องการจะทำ Popup แบบนี้บนเว็บไซต์ต้องทำยังไง? อาจจะต้องเขียนโค้ดเอง หรือหาปลั๊กอินมาลงเพิ่ม แต่ด้วย R-Widget คุณสามารถทำเรื่องยาก ๆ อย่าง Promotion Popup ได้ในเพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น
6. เพิ่มช่องทางการติดต่อ :
อย่างที่ทราบกันดีว่า ไม่ว่ายังไงลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อพูดคุยกับร้านค้าออนไลน์โดยตรง ไม่ว่าจะช่องทางไหน ทั้ง Facebook Messenger, Line หรือแม้กระทั่ง Live Chat บนเว็บไซต์ เพราะมีความเป็นส่วนตัว สะดวกและรวดเร็วกว่าการนั่งอ่านข้อมูลสินค้าเอง
ฉะนั้น การมีช่องทางการติดต่อไว้หลาย ๆ ทาง โดยการติด Widget ปุ่มติดต่ออัจฉริยะสำหรับเว็บยุ
ส่วนใครที่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ Live Chat สามารถอ่านบทความ Live chat คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรกับร้านค้าออนไลน์ Readyplanet มีคำตอบ! ได้โดย คลิกที่นี่
7. เพิ่มเว็บขายของออนไลน์ของคุณ ให้ค้นหาเจอใน Google Map
สิ่งสำคัญในการทำให้แบรนด์หรือร้านค้าออนไลน์ของคุณถูกค้นพบได้ง่ายขึ้น ย่อมเป็นการสร้างโอกาสการขายให้ธุรกิจของคุณเป็นอย่างดี ซึ่งการเพิ่มตัวตนของธุรกิจคุณบน Google Maps ก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เช่นกัน
ซึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ของแสดงผลบน Google Maps ได้นั้น คุณจะต้องมี Google My Business เพื่อให้คุณสามารถสร้างโปรไฟล์สำหรับร้านค้าออนไลน์หรือธุรกิจของคุณได้ก่อน ส่วนวิธีการสมัคร Google My Business รวมถึงขั้นตอนการทำเว็บไซต์ให้แสดงผลบน Google Map อย่างละเอียด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่
8. ทำโฆษณาออนไลน์เพิ่มหลาย ๆ ช่องทาง
เพราะไม่มีอะไรที่ทำน้อยแล้วได้มาก ฉะนั้น การเพิ่มการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมายหลาย ๆ ช่องทางจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Google Ads หรือ Facebook Ads เป็นต้น
แต่การลงทุนที่มากขึ้น ต้องมาพร้อมกับการชี้วัดผลลัพธ์ที่ดีได้มากขึ้นด้วย เมื่อคุณตัดสินใจจะเพิ่มช่องการทำโฆษณาออนไลน์ให้มากขึ้น คุณควรมีเครื่องมือที่ช่วยเข้าไปติดตามพฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามายังเว็บไซต์ขายของออนไลน์ของคุณ อย่าง Google Tag Manager ที่ช่วยเก็บข้อมูลว่าลูกค้าเข้ามาที่หน้าไหนบ้าง สนใจสินค้าและบริการอะไรบ้าง ออกไปหน้าไหนบ้าง เข้ามาเว็บแล้วไปไหนต่อบ้าง เช่น Facebook Page เป็นต้น
ซึ่งพอคุณทราบข้อมูลเหล่านี้ ก็จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์เพื่อพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการ จนถึงการสร้างเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้
แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มประสิทธิภาพในการทำโฆษณาออนไลน์ เพื่อนำไปสู่การปิดการขายให้ประสบความสำเร็จได้มากขึ้นได้นั้น Readyplanet ขอแนะนำ R-Dynamic ระบบโฆษณา dynamic retargeting แบบอัตโนมัติ
9. รู้จักและรู้ใจลูกค้าของคุณให้มากขึ้น
หัวใจสำคัญสำหรับการขาย นั่นก็คือ “การรู้ใจลูกค้า” เพราะใคร ๆ ก็อยากเป็นคนพิเศษ ฉะนั้น การมีข้อมูลของลูกค้าเก็บไว้ทุกมิติ ทั้ง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล สินค้าหรือบริการที่ลูกค้าซื้อไป แม้กระทั่งการเข้ามาสอบถามที่แสดงความสนใจในสินค้าต่าง ๆ ก็ถือเป็นหัวใจหลักในการเสนอขายสินค้ากับลูกค้าในครั้งต่อไป
ยิ่งในธุรกิจนั้นต่างต้องให้ความสำคัญกับข้อมูลลูกค้ามาก จึงต้องหาเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยจัดการข้อมูลและบริหารทีมขายอย่างที่เรียกว่า ระบบ CRM ซึ่งระบบ CRM นั้นคืออะไร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่ เพราะนอกจากจะช่วยเก็บข้อมูลลูกค้าได้แล้ว ยังสามารถเป็นอีกหนึ่งในกระบวนการสร้างความประทับและบริการที่ดี เพราะสามารถเข้าใจปัญหาและความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย
และนี่คือ 9 เทคนิคใหม่ ที่ Readyplanet รวบรวมไว้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับปรุงเว็บไซต์ขายของออนไลน์ให้ขายดีกว่าเดิม ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างปัจจุบันนี้
และถ้าหากคุณสนใจอยากมีเว็บไซต์สำหรับขายของออนไลน์ที่รวมทั้ง 9 เทคนิคและมี Feature ใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น Readyplanet ขอแนะนำ R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One
พร้อมหรือยัง? ที่จะเริ่มสร้างเว็บไซต์ในแบรนด์ของคุณ
สร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ของคุณวันนี้ เริ่มต้นง่ายด้วย R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ทำเว็บไซต์ง่าย ได้เว็บสวย มาพร้อมระบบแชทบนเว็บไซต์ และเครื่องมือการตลาดดิจิทัลแบบครบครัน รองรับทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ ช่วยให้คุณเริ่ม Go Online ได้อย่างครบครัน และไร้กังวล
Updated: 02 November 2020 | Produced by: Dujnapa Chauthamcharoen