รวมเทคนิคการ Go Online สำหรับธุรกิจร้านขายวัสดุก่อสร้าง
ในสถานการณ์ที่ผู้คนออกจากบ้านกันน้อยลง หลายธุรกิจจึงต้องปรับตัวโดยการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปที่ออนไลน์กันมากขึ้น วัสดุก่อสร้างก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ปรับตัวไปขายออนไลน์ แต่ด้วยมูลค่าของสินค้าต่อออเดอร์ที่สูง มีเรื่องสเปคเข้ามาเกี่ยวข้อง การจัดส่งสินค้าที่ไม่ง่ายดายเหมือนสินค้าทั่วไป และเป็นสินค้าที่ผู้ซื้อต้องใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนาน ทำให้เป็นเรื่องที่ท้าทายของธุรกิจนี้อย่างมาก แต่ก็มีหลายบริษัทที่สามารถทำได้สำเร็จ มัดใจลูกค้าและสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น และวันนี้ Readyplanet จะมาแบ่งปันเคล็ดลับนั้นให้ทุกคนฟังกัน
1. ให้ความสำคัญกับหน้าเว็บไซต์
แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของการออกแบบเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ คือ การทำให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เกิดความสนใจในตัวสินค้า และตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด ดังนั้นเพื่อให้ผู้เข้าชมใช้เวลาบนเว็บไซต์ของเราให้ได้นานที่สุด ทางที่ดีควรออกแบบให้เรียบง่าย ผู้เข้าชมสามารถเลือกชมสินค้าได้สะดวก แบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน มีเนื้อหาในปริมาณที่เหมาะสม ให้ความสำคัญกับภาพตัวสินค้า รวมไปถึงกราฟฟิกต่าง ๆ เพราะจะช่วยแสดงความเป็นมืออาชีพของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี สำหรับร้านขายวัสดุก่อสร้างอาจมีการเพิ่มหมวดหมู่ให้ความรู้เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง ผ่านการทำเนื้อหาที่น่าสนใจ โดยการใช้เครื่องมืออย่าง R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้เว็บไซต์ดูดีได้อย่างง่ายดาย ยังสามารถทำการตลาด ทำ SEO ได้ด้วย เมื่อลูกค้าเสิชหาสินค้าบนกูเกิ้ล ก็จะเจอเว็บไซต์ของเราเป็นอันดับต้น ๆ สร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้สูงขึ้น
2. ใช้ระบบ Online Shopping ช่วยเรื่องการขายสินค้า
การนำระบบ Online Shopping มาใช้ในเว็บไซต์ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของเว็บไซต์ ในการบริหารจัดการออเดอร์ จัดการโปรโมชั่น หรือจัดการสต๊อกสินค้าแล้ว ยังทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ยิ่งสินค้าเป็นวัสดุก่อสร้างที่ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนาน ต้องมีการเปรียบเทียบสินค้าหลาย ๆ ตัวเพื่อประกอบการตัดสินใจ การมีระบบ Online Shopping จะช่วยทำให้ลูกค้ากดเลือกชมสินค้า กดเลือกสี อ่านคุณสมบัติของแต่ละตัวได้ง่ายขึ้น และยังสามารถสั่งซื้อเวลาไหนก็ได้ตลอด 24 ชม. ตัวช่วยอย่าง R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี มีระบบ Order Management ให้เจ้าของร้านจัดการรายการสั่งซื้อได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ใส่คุณสมบัติของสินค้าได้ละเอียด แบ่งหมวดหมู่สินค้าได้อย่างชัดเจน รองรับการชำเงินได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ สามารถเชื่อมต่อกับระบบสะสมแต้ม PointSpot ที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย กระตุ้นให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำ เริ่มใช้งานฟรี
3. ใช้ระบบ CRM เข้ามาช่วยในกรณีที่มีลูกค้าจำนวนมาก
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินหรือคุ้นหูกับคำว่า CRM หรือ Customer Relationship Management กันมาก่อน เพราะเป็นเรื่องสำคัญในวงการธุรกิจ ยิ่งในปัจจุบันที่ธุรกิจมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด มีการทำโฆษณาหรือตัดราคากันเพื่อแย่งชิงลูกค้ากันอยู่ตลอดเวลา หัวใจของสำคัญของการทำธุรกิจ คือ ความเข้าใจลูกค้า เมื่อเราเข้าใจลูกค้า รู้ว่าลูกค้าต้องการสินค้าแบบไหน สินค้าของเราก็จะขายได้ โดยการที่เราจะเข้าใจลูกค้าได้นั้น ต้องอาศัยข้อมูลของลูกค้า และเพื่อที่จะได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านั้น จะต้องมีการวางแผนการขายที่ดี มีการเก็บข้อมูลของลูกค้าอย่างเป็นระบบ ทั้งชื่อ เบอร์โทรศัพท์ลูกค้า บันทึกการซื้อของลูกค้า รายงานปัญหาจากลูกค้า และเพื่อให้ทีมขายสามารถจัดการข้อมูลลูกค้า และทำงานกันเป็นทีมได้อย่างประสบความสำเร็จ การใช้ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย จาก Readyplanet สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าลูกค้าจะเยอะแค่ไหน การจัดการ Lead, บันทึกรายงาน, สร้างใบเสนอราคา, ส่งอีเมล, ตั้งแจ้งเตือนเพื่อติดต่อหาลูกค้าในครั้งต่อไป ไปจนถึงจัดการ Sales Pipeline ก็ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริหาร และ Sales Manager สามารถติดตามการทำงานของเซลส์ได้อย่างเป็นระบบ
สำหรับสินค้าวัสดุก่อสร้างซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง เพื่อการสร้างฐานลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นการเก็บข้อมูลไปในตัว หลังจากลูกค้าซื้อไป 2-3 วัน เซลล์ควรโทรไปสอบถาม ว่าตัวสินค้าติดปัญหาใดมั้ย และหากสินค้ามีความผิดพลาด ควรรีบแก้ไขและรายงานความคืบหน้าให้กับลูกค้าทราบเพื่อสร้างความประทับใจ
4. ใช้เทคนิค Retargeting เพิ่มยอดขาย
หลังจากลูกค้าเข้ามาชมเว็บไซต์ของเรา มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะยังไม่ตัดสินใจซื้อในทันที ยิ่งเป็นสินค้าวัสดุก่อสร้าง ต้องมีการเปรียบเทียบราคากันหลายเจ้า เพราะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าต่อออเดอร์ค่อนข้างสูง การทำ Retargeting ให้ลูกค้าเห็นโฆษณาของแบรนด์ผ่านช่องทางอื่น ๆ ด้วยจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้ลูกค้าจำเว็บไซต์ของเราได้ และกลับเข้ามาทำการซื้ออีกครั้งในภายหลัง
ใครที่ไม่เคยทำ Retargeting มาก่อน ก็ไม่ต้องกังวล สามารถใช้ตัวช่วยอย่าง R-Dynamic หรือเครื่องมือสร้างโฆษณาแบบ Dynamic Retargeting เหนือกว่า Retargeting แบบทั่วไป เพราะสามารถสร้างโฆษณาติดตามรายบุคคลแบบอัตโนมัติ (Automated Personalized Ads) ไปยังเป้าหมายที่เคยเข้ามาดูสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ ด้วยโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ ทำให้เป้าหมายแต่ละคนจะเห็นโฆษณาที่แตกต่างกัน แต่ตรงใจมากขึ้น รับรองว่ายอดขายสูงขึ้นอย่างแน่นอน
กลไกลการทำงานของ R-Dynamic
5. สร้างตัวตนให้ตัวเองด้วยการใช้ Google My Business
เพื่อให้ร้านค้าของเราถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้นบน Google Search และ Google Map การทำ Google My Business จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรถูกมองข้ามเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยร้านค้าสามารถอัพเดทรายละเอียดต่างๆ ของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ ตำแหน่งร้านค้า เวลาเปิด-ปิดทำการ ข่าวสารโปรโมชั่น และช่องทางการติดต่อร้านค้าที่สามารถทำให้ลิงค์ไปที่หน้าเว็บไซต์ของร้านได้เลย เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการโปรโมทและทำให้ลูกค้ารู้จักร้านของเรามากขึ้น นอกจากนี้ Google My Business ยังมีความพิเศษ คือ ลูกค้าสามารถให้คะแนนรีวิวกับร้านของเราได้ด้วย หากเราได้รับคะแนนที่ดีก็จะมีลูกค้าใหม่ ๆ ตามมาอีกแน่นอน
6. เขียนบทความ SEO เพื่อให้หน้าเว็บไซต์ติดหน้าแรกของ Google
การเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน เพื่อให้ติดหน้าแรกของ Google คือ หนึ่งในวิธีที่สามารถเพิ่มโอกาสให้คนรู้จักเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของเรามากขึ้น ทำให้ยอดขายของร้านสูงขึ้นได้ ซึ่งเราเรียกการทำสิ่งนี้ว่าการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization โดยการสร้างคอนเทนต์ SEO ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การใส่ Keyword ลงไปในหัวข้อบทความ และตัวบทความ ความสดใหม่ของเนื้อหา ความเร็วในการดาวน์โหลดเว็บ รวมไปถึงรูปภาพ และวิดิโอในกนหน้าเว็บ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการคำนึงถึงการแสดงบนหน้าจอมือถือด้วย ยิ่งคอนเทนต์น่าสนใจมีคนเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้นเท่าไหร่ เว็บไซต์ของเราก็จะยิ่งไปอยู่หน้าแรกมากขึ้นเท่านั้น
สำหรับร้านค้าวัสดุก่อสร้างออนไลน์ สามารถเลือกทำคอนเทนต์ SEO ได้หลากหลายมาก โดยอาจจะพูดถึงคุณสมบัติของวัสดุก่อสร้างแต่ละตัว หรือทำเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของวัสดุก่อสร้างแบบตรงๆ เลยก็ได้ หรืออาจเพิ่มความน่าสนใจโดยการปรับคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายคลิกมากขึ้น เช่น Renovate บ้านอย่างไรให้ทันสมัย สไตล์ LOFT หรือ ทาสีห้องแบบไหนให้ถูกหลักฮวงจุ้ย เป็นต้น สามารถอ่านการเขียน Content เพิ่มเติมได้ที่ คลิก
7. ทำโฆษณาออนไลน์
นอกจากการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้น ๆ ของการค้นหาใน Google แล้ว การทำโฆษณาออนไลน์ให้กับเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้ลูกค้ารู้จักเว็บไซต์ของเรามากขึ้น และเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เข้าชมเกิดการตัดสินใจซื้อ โดยการทำโฆษณาออนไลน์ในปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางให้เราได้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็น ทาง E-Mail โดยอาจส่งอีเมลเป็นโค้ดลด 20% สำหรับการซื้อวัสดุออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์ให้กับกลุ่มเป้าหมาย หรือจะเป็นทางโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook และInstagram ที่มีช่องทางให้เราซื้อโฆษณาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีช่องทาง Google Ads ที่มีทั้งการลงโฆษณาสินค้าและบริการของเราผ่านการแสดงผลในระบบค้นหา Search Engine หรือการทำ Google Display Network ที่เป็นการโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์หรือกล่องโฆษณาที่เรามักพบเจอเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งนี้ จะเลือกทำโฆษณาออนไลน์ทางช่องทางไหน เราควรคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของกลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ
หากจะเลือกใช้ Google Ads ในการทำโฆษณาออนไลน์ สามารถขอคำปรึกษากับทาง AdPro Advisor Plus บริการให้คำปรึกษาบน Google Ads ของทาง Readyplanet ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษมามากกว่า 10 ปี ให้คุณสามารถจัดการโฆษณา ภายใต้งบประมาณที่จำกัด ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เคล็ดลับทั้ง 7 ข้อที่กล่าวไปข้างต้น จะทำให้ยอดขายร้านค้าวัสดุก่อสร้างออนไลน์ หรือธุรกิจอื่น ๆ วางกลยุทธ์โกออนไลน์ได้อย่างประสบความสำเร็จ ตรงใจลูกค้า ยอดขายปังแน่นอน และถ้าหากใครลองทำทั้ง 7 ข้อแล้วยังต้องการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก เครื่องมือการตลาดออนไลน์ครบวงจรที่ครอบคลุมการโฆษณา เว็บไซต์ และระบบลูกค้าสัมพันธ์อย่าง Readyplanet Marketing Platform หรือ RMP สามารถช่วยได้ ด้วยประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูลมหาศาลเทียบเท่าแพลตฟอร์มของต่างประเทศ และทีมงานที่จะคอยให้คำแนะนำ คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง รับรองว่าธุรกิจของคุณจะเติบโตได้อย่างแข็งแรง และยั่งยืนแน่นอน
พร้อมหรือยัง? ที่จะเริ่มสร้างเว็บไซต์ในแบรนด์ของคุณ
สร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ของคุณวันนี้ เริ่มต้นง่ายด้วย R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ทำเว็บไซต์ง่าย ได้เว็บสวย มาพร้อมระบบแชทบนเว็บไซต์ และเครื่องมือการตลาดดิจิทัลแบบครบครัน รองรับทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ ช่วยให้คุณเริ่ม Go Online ได้อย่างครบครัน และไร้กังวล
Updated: 11 May 2021 | Produced by: Ploynaphat Wattanachodjirachai