หลักการออกแบบเว็บไซต์เบื้องต้นที่ควรรู้
ในวันนี้ที่โซเชียลมีเดียได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน ก็คงไม่แปลกที่ธุรกิจและร้านค้าส่วนใหญ่จะเน้นทำการตลาดบนช่องทางอย่าง เฟสบุ๊กแฟนเพจ อินสตาแกรม และ ทวิตเตอร์ ฯลฯ จนอาจหลงลืมหรือไม่ให้ความสำคัญกับการทำเว็บไซต์ไป ซึ่งความจริงแล้วเว็บไซต์มีความสำคัญมาก นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ เป็นที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ให้ลูกค้าเลือกดูได้ง่าย ในรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจและมีลูกเล่นมากกว่า ยังเป็นช่องทางของเราจริง ๆ ไม่ต้องยืมจมูกใครหายใจ ฉะนั้น ตอนนี้ทุกคนคงสนใจอยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองกันแล้วใช่ไหม วันนี้ Readyplanet มีความรู้เรื่องหลักการออกแบบเว็บไซต์มาแชร์ทุกคนกัน
1. ความเรียบง่าย เข้าใจง่าย
หมดยุคไปแล้วกับเว็บไซต์ที่มีกราฟฟิคเยอะ ๆ ตัวอักษรวิ่ง ๆ เทรนด์ปัจจุบันนี้คือเว็บไซต์มินิมอล รูปแบบเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน การสร้างเว็บไซต์ที่ดีควรมีเนื้อหาที่ไม่เยอะจนเกินไป นำเสนอเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ในส่วนของกราฟฟิก ฟ้อนท์ สี ภาพเคลื่อนไหว ต้องเลือกให้เหมาะสม ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป และไม่ควรมีสีฉูดฉาดจนเกินไปจนรบกวนสายลูกค้า หรือทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญใจ และต้องมีการวางแผนกำหนดโครงสร้างเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ชมเว็บเกิดความเข้าใจได้ง่ายที่สุด โดยรูปแบบโครงสร้างเว็บไซต์นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบย่อย ๆ ดังต่อไปนี้
โครงสร้างแบบเรียงลำดับ
เป็นโครงสร้างที่นิยมใช้กันมาที่สุด มีการลำดับเนื้อหาในรูปแบบเส้นตรง ใช้แนวคิดเดียวกันกับหนังสือ นำเสนอเรื่องราวตามลำดับได้เป็นอย่างดี เหมาะกับเว็บไซต์ขนาดเล็ก เนื้อหาไม่ซับซ้อน ลักษณะการเชื่อมต่อของเนื้อหา จะเชื่อมไปทีละหน้า ๆ ข้อดีคือ ทำให้การใช้งานง่าย แต่ข้อเสียคือ ทำให้ผู้ใช้งานเสียเวลาในการเข้าสู่เนื้อหาที่ต้องการ
โครงสร้างแบบลำดับขั้น
โครงสร้างประเภทนี้มีรูปแบบคล้ายกับต้นไม้ หรือ Mind Map คือ มีหน้า Home Page เป็นจุดเริ่มต้นแล้วจึงค่อยแยกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบ มีการนำเสนอรายละเอียดย่อย ๆ ลดหลั่นกันไป นิยมใช้กับเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนของข้อมูล ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถทำความเข้าใจโครงสร้างเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
โครงสร้างแบบตาราง
โครงสร้างประเภทนี้จะมีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ก็มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง เชื่อมโยงในแต่ละเว็บเพจแบบไม่เป็นเส้นตรง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนทิศทาง หรือกำหนดทิศทางในการเข้าสู่เนื้อหาด้วยตัวเองได้ ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเปลี่ยนทิศทางการเข้าชมได้ นอกจากจะทำให้ไม่เสียเวลา ยังทำให้เว็บไซต์ดูมีความทันสมัยมากขึ้นอีกด้วย
โครงสร้างแบบใยแมงมุม
โครงสร้างประเภทนี้เป็นโครงสร้างที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยทุกหน้าจะมีการเชื่อมโยงถึงกันหมด ทำให้สามารถเข้าถึงหน้าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย กล่าวคือ สามารถเชื่อมโยงไปสู่เว็บไซต์ภายนอกได้ดี
2. สร้างความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์
เป็นปกติเมื่อเราต้องการหาข้อมูลหรือต้องการจะซื้อสินค้าใด ๆ ก็ตาม เราต้องเข้าไปสืบค้นจากหลาย ๆ เว็บไซต์ บางครั้งอาจเข้าเป็นสิบ ๆ เว็บ จนบางครั้งอาจเกิดอาการหลงลืมว่าเคยเข้าเว็บไซต์ไหนไปบ้าง ในฐานะเจ้าของธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น เราจะทำยังไงล่ะให้ลูกค้าจดจำเว็บไซต์ของเราได้ แม้จะออกไปเข้าเว็บไซต์อื่นต่อ ดังนั้น ความโดดเด่น จึงเป็นเรื่องที่ผู้ออกแบบควรให้ความสำคัญ โดยเว็บไซต์ที่ดีควรแสดงออกถึงตัวตนของแบรนด์อย่างชัดเจน เช่น แบรนด์ของเราใช้สีแดงเป็นสีหลัก เมื่อไปปรากฏบนสื่อต่าง ๆ เพราะฉะนั้นที่เว็บไซต์ก็ควรเป็นสีแดงด้วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงรูปแบบของฟอนต์ และโลโก้ด้วย
3. เนื้อหาต้องดี
เนื้อหา นับว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเว็บไซต์เลยก็ว่าได้ เป็นสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์มีชีวิตชีวา ดังนั้น เว็บไซต์ควรมีการอัพเดทเนื้อหาให้ทันสมัย มีการลงเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ เนื้อหาถูกต้องและครบถ้วน ในส่วนของปริมาณ ไม่ควรสั้นหรือยาวจนเกินไป ควรมีเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ให้ความรู้ทั่วไป และแบบที่สอดแทรกสินค้าและบริการของร้านแบบเนียน ๆ หากลูกค้าเข้ามาชมแล้วถูกใจในเนื้อหา ก็อาจทำให้เขาอยากกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกหรือบอกต่อคนรอบข้าง และเกิดความรู้สึกที่ดีต่อธุรกิจของเรา นำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายขึ้นด้วย
4. เว็บไซต์ใช้งานง่าย
เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ลูกค้า เว็บไซต์ที่ดีไม่ควรมีข้อจำกัดมากจนเกินไป เช่น ไม่ควรจำกัดว่าจะต้องเป็น Browser ใดเท่านั้น ควรแสดงผลได้ทุกหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอมือถือ หน้าจอคอม รองรับทุกระบบปฏิบัติการ โหลดไว ไม่ปล่อยให้ผู้เข้าชมรอนาน และนอกจากนี้ เว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายยังรวมไปถึง การรองรับการใช้งานกับทุกเพศทุกวัย มีส่วนของ Navigation ที่เปรียบเสมือนป้ายบอกทาง เพื่อให้ลูกค้าหาข้อมูลได้ง่าย กดง่ายด้วย ควรแบ่งเนื้อหาออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ทั้งส่วนหัว (Page Header) ซึ่งคือส่วนบนสุด ที่แสดงชื่อเว็บไซต์และโลโก้ ส่วนเนื้อหา (Page Body) ที่แสดงเนื้อหาภายในเว็บ ประกอบไปด้วยข้อความ ข้อมูล ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ และส่วนท้าย (Page Footer) ที่อยู่บริเวณด้านล่างสุด มักจะมีชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลติดต่อกับเว็บไซต์ต่าง ๆ
5. คุณภาพของเว็บไซต์
เว็บไซต์ที่จัดว่าเป็นเว็บที่มีคุณภาพดีในปัจจุบัน คือ เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างระบบต่าง ๆ ตรงตามที่ Search Engine กำหนดไว้ มีการทำ SEO ทำให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดี เมื่อลูกค้าค้นหาคำ Keyword ที่เกี่ยวกับร้านค้า ก็สามารถพบเว็บไซต์ได้ง่าย เพราะอยู่ในหน้าแรกๆ เสมอ โดยการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นั้น ต้องให้ความละเอียดกับทุก ๆ ส่วนของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อของเว็บไซต์ การวางโครงสร้างเว็บ เนื้อหาภายในเว็บไซต์ก็ควรมีการเน้นคำ Keyword มีการอัปเดตเนื้อหาให้ถูกต้องสมบูรณ์ และมีรูปภาพประกอบอย่างเหมาะสม
สำหรับตัวช่วยที่จะทำให้คุณทำ SEO ได้ง่ายขึ้น การใช้บริการจากทาง Readyplanet ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยประสบการณ์จากการทำ SEO ให้กับบริษัทมากมาย จากทีมผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ รับรองว่าเว็บไซต์ธุรกิจของคุณจะถูกเข้าถึงได้โดยง่าย สร้างความได้เปรียบในธุรกิจแล้ว ช่วยให้คุณประหยัดค่าโฆษณาได้อีกด้วย
6. มีข้อมูลติดต่อครบถ้วน
การมีข้อมูลช่องทางติดต่อที่ชัดเจน ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ จะทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าร้านค้าของเรามีตัวตนอยู่จริง เพิ่มความน่าเชื่อถือ ให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายเมื่อสนใจในตัวสินค้า ทั้งนี้ จะดีกว่ามั้ยถ้ามีเครื่องมือที่เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าติดต่อได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น เพียงแค่คลิกเดียวอย่าง R-Widget จาก Readyplanet รองรับช่องทางการติดต่อทั้ง เบอร์โทร, แบบฟอร์มติดต่อ, ฝากเบอร์โทรกลับ, Facebook Messenger, LINE, Skype, Whatsapp, Skype, Zalo, แผนที่ และระบบแชทบนเว็บไซต์ ช่วยให้คุณใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้สูงขึ้น
จะเห็นได้ว่าการออกแบบเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียด ในแต่ละส่วนก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป สำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง และต้องการคำปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์ การใช้เครื่องมืออย่าง R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ที่มาพร้อมระบบ Smart Theme สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากจะง่าย แค่เลือกรูปแบบที่ต้องการ อัปโหลดรูปภาพ ใส่ข้อความก็สามารถแสดงผลได้ทันที ยังมาพร้อมเครื่องมือการตลาดครบวงจร All-in-One ครอบคลุมทั้งการทำโฆษณา เว็บไซต์ และระบบลูกค้าสัมพันธ์ เชื่อมต่อกับ R-Shop ได้ รองรับระบบร้านค้าออนไลน์ แสดงผลได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น
Updated: 01 June 2021 | Produced by: Ploynaphat Wattanachodjirachai