เปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้เป็นยอดขายมากขึ้น ด้วยการทำ Dynamic Retargeting ได้อย่างไร?

การทำ Retargeting หรือ Remarketing แบบเดิมนั้น ยังมีข้อด้อยอยู่บ้างตรงที่คุณอาจจะต้องใช้ความแม่นยำในการวิเคราะห์ความชอบและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก เพื่อส่งมอบโฆษณาสินค้าที่คาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะชอบไปให้ เพื่อเพิ่ม CTR หรือยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง และในส่วนของการออกแบบภาพโฆษณานั้น นอกจากจะต้องวิเคราะห์รูปแบบโฆษณาออนไลน์ที่ลูกค้าชอบแล้ว ยังต้องเตรียมเวลาในการเปลี่ยนภาพโฆษณาให้อัปเดตใหม่อยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อีกด้วย จนเมื่อเร็ว ๆ นี้มีเครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องและความยุ่งยากของงานออกแบบโฆษณาจาก Retargeting มาเป็น Dynamic Retargeting 

และเรายังมีข้อมูลของ “Netshoes ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์กีฬาและเครื่องแต่งกายกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีรายได้โดยรวมเติบโตขึ้น 30-40% CTR เพิ่มขึ้น 2 เท่า และ Conversion เพิ่มขึ้น 61% ด้วยการทำ Dynamic Retargeting ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีที่ผ่านมา” - ที่มา: https://www.thinkwithgoogle.com/future-of-marketing/emerging-technology/netshoes-doubles-roi-with-remarketing/

ส่วน Dynamic Retargeting คืออะไร แตกต่างจากการทำ Retargeting อย่างไรบ้าง สามารถอ่านบทความ Dynamic Retargeting เทคนิคเพิ่มผลลัพธ์โฆษณาออนไลน์ กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อมากขึ้น ได้โดย คลิกที่นี่ และ Dynamic Retargeting ดีกว่า Retargeting แบบปกติอย่างไร ได้โดย คลิกที่นี่ 

ข้อดีของการทำ Dynamic Retargeting ที่คุณต้องรู้!

• ส่งมอบโฆษณาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง : เพราะระบบ Dynamic Retargeting นี้ จะดึงสินค้าและบริการของคุณจากเว็บไซต์ของคุณ โดยพิจารณาจากความสนใจและสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายของคุณดูบนเว็บไซต์

• สามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางรูปแบบภาพโฆษณาให้เกิดประสิทธิภาพสูง : โดยระบบ Dynamic Retargeting จะเลือกภาพที่มีมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีที่สุด นำไปแสดงให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ในสถานที่ที่ใช่และตำแหน่งที่อำนวยให้เกิดการคลิกมากที่สุด

• ช่วยกระตุ้นผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์ให้กลับมาซื้อสินค้าของคุณ : โดยการส่งภาพโฆษณาสินค้าที่พวกเขาสนใจไปหรือข้อเสนอพิเศษไปให้มองเห็นเรื่อย ๆ  

กล่าวมาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะอยากรู้แล้วใช่ไหมว่าการทำงานของ Dynamic Retargeting จะช่วยเพิ่มยอดขายจากคนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไรบ้าง Readyplanet มีคำตอบ

ก่อนอื่น Readyplanet อยากให้คุณมองการทำ  Dynamic Retargeting นี้เป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำโฆษณาออนไลน์ของคุณก่อน แต่การที่คุณจะสามารถส่งโฆษณาสินค้าหรือบริการใด ๆ ของคุณให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของคุณได้ช้าหรือเร็วขึ้นนั้น กลยุทธ์  วิธีคิด เพื่อการนำเสนอขาย การวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของลูกค้า ก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญอยู่ 

ฉะนั้น สิ่งที่ Readyplanet จะบอกต่อไปนี้คือ R-Dynamic ระบบโฆษณา dynamic retargeting แบบอัตโนมัติ คือเครื่องมือการสร้างโฆษณาออนไลน์แบบ Dynamic Retargeting ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการ Retargeting ทั่วไป ที่นอกจากจะช่วยให้โฆษณาของคุณติดตามลูกค้าเป็นรายบุคคลได้แล้ว ยังสามารถช่วยสร้างโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าแบบอัตโนมัติ (Automated Personalized Ads) ให้ส่งผ่านไปได้ยัง Facebook และ Google  

เปลี่ยนคนเข้าเว็บไซต์ให้กลายเป็นยอดขายด้วย R-Dynamic ได้อย่างไรบ้าง?

1. R-Dynamic ช่วยให้โฆษณาของคุณติดตามลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มและหายช่องทาง ทั้ง กลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของคุณ (Already visited your website), กลุ่มคนที่เคยเข้ามาคลิก R-Widget เพื่อติดต่อไปยังช่องทางต่างๆ ของคุณ อาทิ Line OA, Facebook Messageหรือโทรศัพท์ เป็นต้น นอกจากนั้น R-Dynamic ยังช่วยให้คุณจัดการโฆษณาได้ทั้ง Facebook และ Google ในแพลตฟอร์มเดียวอีกด้วย

2. R-Dynamic ช่วยสร้างโฆษณาที่ตรงใจลูกค้ารายบุคคลแบบอัตโนมัติ โดย Readyplanet จะมีโค้ดให้คุณไปติดตั้งในเว็บไซต์ของคุณ จากนั้นระบบจะเข้าไปเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ของหน้านั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเพจของคุณ ข้อมูลสินค้า รวมถึงรวมภาพที่มีอยู่ มาสร้างเป็นโฆษณาแบบอัตโนมัติ โดยคุณสามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนภาพโฆษณาหรือข้อความที่เหมาะสมเข้าไปเพิ่มในระบบหลังบ้านได้

จากนั้นระบบจะนำโฆษณาที่สร้างขึ้น ส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามาดูสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ ผ่านทั้งช่องทาง Facebook และ Google โดยทั้งภาพและข้อความจะเป็นสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจจริง และตรงใจมากขึ้น

“จากการวัดผลลูกค้าจริงของ Readyplanet พบว่า เมื่อใช้ R-Dynamic แล้ว ทำให้ Display Ads และ Social Ads มีอัตราการคลิกโฆษณา (CTR) สูงขึ้น 150-300% เลยทีเดียว จนนำไปสู่การปิดการขายที่มากขึ้นอีกด้วย”

โดย R-Dynamic จะทำงานควบคู่ไปกับการทำโฆษณาออนไลน์ปกติ ที่มุ่งเน้นเพื่อการโปรโมทเว็บไซต์ให้มีคนเข้ามามากขึ้น เมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากขึ้นผ่านการลงโฆษณา Google ก็ดี หรือลงโฆษณา Facebook ก็ดี จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายของโฆษณา Dynamic Retargeting ใหญ่ขึ้น R-Dynamic ก็จะส่งโฆษณาไปติดตามได้มากขึ้น จึงทำให้มีโอกาสสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม ชื่อ Shop A ทำโฆษณาทั้ง Google และ Facebook เพื่อโปรโมทให้คนเข้ามาดูสินค้าต่างๆ บนเว็บไซต์ที่คุณทำการติดระบบ R- Dynamic ไว้แล้ว เมื่อกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นออกจากเว็บไซต์ของคุณไป แล้วอาจจะไปเข้า Facebook หรือเว็บไซต์ที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ Google ต่อ โฆษณาของสินค้าในหน้านั้น ก็จะถูกส่งไปยัง  Facebook หรือเว็บไซต์นั้นๆ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ลูกค้าของคุณกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้งในที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าการหาลูกค้าใหม่จะไม่สำคัญ คุณจะต้องทำควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน เพียงแต่อาจจะลงแรงและลงเงินในส่วนของลูกค้าใหม่น้อยกว่า แล้วหันมาโฟกัสการรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อสินค้าและบริการของคุณบ่อยขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ จะดีกว่า อย่างที่ทราบกันดีว่า “ขายของคนรู้จักรู้ใจยังไงก็ง่ายกว่า” 

ส่วนวิธีการหาลูกค้าใหม่ด้วยเทคนิคการทำโฆษณาออนไลน์แบบไหน Readyplanet ขอแนะนำ AdPro Dynamic บริการโฆษณาออนไลน์ที่เชี่ยวชาญด้าน optimization และ automation ที่ใช้นวัตกรรม AI อัจฉริยะและ Marketing Technology เพื่อการทำโฆษณาออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด ให้คุณได้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจที่ต้องการรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อสินค้าซ้ำ และมองหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีประสิทธิภาพให้กับคุณ ด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะ Readyplanet

และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้คู่กับ R-Dynamic ระบบโฆษณา dynamic retargeting แบบอัตโนมัติ ที่สร้างความแตกต่าง แต่ตรงใจ ให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น R-Dynamic เครื่องมือแสดงโฆษณาติดตามอัตโนมัติแบบรายบุคคล ในรูปแบบของ Automated Personalized Ads ที่สามารถช่วยเพิ่ม CTR ของ Display Ads และ Social Ads ได้เพิ่มขึ้น 150-300%