Dynamic Retargeting ดีกว่า Retargeting แบบปกติอย่างไร

หัวใจของการทำโฆษณาออนไลน์ คือโฆษณาอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายกับธุรกิจของคุณได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยใช้งบโฆษณาที่คุ้มค่าและเกิดผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด ยิ่งบรรดาคู่แข่งทั้งเก่าใหม่ต่างก็เข้ามาทำการตลาดออนไลน์กันมากขึ้น การทำโฆษณาที่นอกเหนือจากโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ในตัวของสินค้าและบริการที่ดึงดูดให้น่าสนใจด้วยแล้วนั้น สิ่งสำคัญคือโฆษณาของคุณเหล่านี้ได้ไปแสดงได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือกลับมาซื้อซ้ำใหม่ได้ 

 

แล้วการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกลุ่มและแม่นยำขึ้นต้องทำอย่างไร? งบโฆษณาเท่าไหร่หรือรูปแบบโฆษณาอย่างไร Readyplanet มีคำตอบ

อย่างที่กล่าวมาแล้วเบื้องต้นหากธุรกิจของคุณมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจหรือตรงกับใจลูกค้าแล้วนั้น สิ่งสำคัญของการโฆษณา คือคุณจะสื่อสารอย่างไรเพื่อให้เข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดกับการลงทุนค่าคลิกในการโฆษณาในแต่ละครั้ง การกำหนดกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกลุ่มคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับการซื้อหรือใช้สินค้าและบริการของคุณมาก่อน หรือเพียงแค่เเวะเข้ามาชมสินค้าหรือบริการของคุณบนเว็บไซต์เท่านั้น คุณจะเรียกผู้คนเหล่านี้ให้กลับมาตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการคุณอีกครั้งได้อย่างไร ซึ่งในแง่ของการทำโฆษณาลง Facebook หรือ Google เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อหรือกลับมาซื้อใหม่ เป็นเครื่องมือที่เรียกว่า “Retargeting” หรือ “Remarketing” นั่นเอง


การทำ “Retargeting” หรือ “Remarketing” นั้น สามารถทำได้ทั้ง Facebook และ Google ดังนี้

 

  • Facebook Retargeting Ads คือการทำโฆษณาออนไลน์สินค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามาคลิกดูหรือเคยสนใจ โดยคุณสามารถเลือกได้ ตั้งแต่ คนที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์, แอพพลิเคชั่น, คนที่เคยเข้ามาดูวิดีโอ, คนที่เคยเข้ามาที่ Facebook Page หรือเข้าร่วมอีเว้นท์ ไปจนกระทั่งคนที่เคยซื้อสินค้าและบริการของคุณ

 

 

  • Google Remarketing Ads คือการทำโฆษณาแบบติดตามคนที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์แต่อาจจะยังไม่ซื้อสินค้าของคุณ โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะได้เห็นโฆษณาออนไลน์ของคุณในลักษณะของ ข้อความ หรือ Banner ที่ไปปรากฏตามเว็บไซต์พันธมิตรต่าง ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google ซึ่งจะช่วยตอกย้ำและกระตุ้นความสนใจให้กลุ่มคนเหล่านี้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง ส่วนการทำ “Retargeting” หรือ “Remarketing” จาก Google อีกแบบก็คือ Google RLSA (Remarketing List for Search Ads) คือ การทำโฆษณาในหน้าการค้นหาของ Google Search โดยจะเป็นโฆษณารูปแบบ Text Ads ที่ติดตามกลุ่มผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์ของคุณบนหน้าการค้นหา เมื่อคนกลุ่มนี้กลับมาค้นหาด้วย Keyword ที่คุณได้ซื้อไว้อีกครั้ง ก็จะเห็นโฆษณาของคุณเป็นการย้ำเตือน

 

การทำ “Retargeting” หรือ “Remarketing” แบบทั่วไปก็ยังมีข้อด้อยอยู่บ้าง ตรงที่ภาพโฆษณาสินค้าและบริการที่เราสร้างไว้อาจจะยังไม่ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายบางคน จึงเกิดการพัฒนาเครื่องมือการทำโฆษณาแบบใหม่ที่ช่วยปิดข้อบกพร่องตรงนี้ และยังมีความแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย นั่นก็คือ Dynamic Retargeting ที่สามารถสร้างโฆษณาให้แสดงสินค้าหรือบริการของหน้าเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันที่ลูกค้าเคยเข้าไปเยี่ยมชมแล้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณนำเสนอโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนได้ตรงใจกับลูกค้าของคุณมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

 

Dynamic Retargeting ต่างกับ Retargeting แบบปกติอย่างไร?

ประโยชน์ของการทำ Dynamic Retargeting

 

  • เข้าถึงผู้ซื้อมากขึ้น : เพราะแสดงสินค้าที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

 

  • ปิดการขายได้มากขึ้น : กำหนดเป้าหมายเว็บไซต์หรือผู้ซื้อบนแอพพลิเคชั่น เพื่อกระตุ้นเตือนให้พวกเขาได้เห็นสินค้าที่พวกเขาสนใจ แต่ยังไม่ได้ซื้อ

 

  • ค้นหาผู้คนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าใหม่ : เข้าถึงผู้คนใหม่ ๆ ที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์ของคุณ (หรือผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับของคุณ) ผ่านช่องทาง  Google และ Facebook แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณก็ตาม

 

  • ช่วยปรับเปลี่ยนโฆษณาของคุณอัตโนมัติ : ด้วยโฆษณาที่ไม่ซ้ำใคร โดยไม่ต้องสร้างแคมเปญโฆษณาใหม่ หรือกำหนดค่าโฆษณาแต่ละรายการใหม่อีกครั้ง

 

  • เข้าถึงผู้คนได้ทุกที่ : แสดงโฆษณาได้ทั้งบนมือถือ คอมพิวเตอร์หรือแทปแล็ต

 

  • แสดงโฆษณาไปในเวลาที่ใช่และสินค้าที่สนใจ : เพราะเพียงตั้งค่าโฆษณาเพียงครั้งเดียว โฆษณาจะแสดงผลสู่ลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม และเป็นสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้ประหยัดค่าโฆษณาออนไลน์ได้มากขึ้น 

 

จะเลือกใช้ Retargeting ทั่วไป หรือ Dynamic Retargeting เมื่อไหร่และอย่างไรดี?

 

“Retargeting” หรือ “Remarketing” คือหนึ่งในกลยุทธ์พื้นฐานสำหรับการทำโฆษณาออนไลน์ โดยจะแสดงโฆษณาติดตามเป้าหมายอีกครั้ง ด้วยโฆษณาที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เป้าหมายคน ๆ นั้น ที่เคยเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ แคมเปญโฆษณาไม่มีความซับซ้อน สามารถทำได้ง่ายทั้งบน Google และ Facebook เหมาะสำหรับธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว การโฆษณาเพื่อการลงทะเบียนการโปรโมทงานอีเว้นท์ หรือต้องการที่จะเพิ่มจำนวนผู้ติดต่อเข้ามายังเว็บไซต์ เป็นต้น เพราะการทำ “Remarketing” จะได้ผลดีสำหรับการโฆษณาที่ไม่จำเป็นต้องเลือกสินค้าหรือบริการให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย 

 

ส่วน Dynamic Remarketing เครื่องมือสร้างโฆษณาที่เหนือกว่า Retargeting แบบทั่วไปอีกระดับ โดย R-Dynamic จะช่วยสร้างโฆษณาติดตามรายบุคคลแบบอัตโนมัติ (Automated Personalized Ads) ไปยังเป้าหมายที่เคยเข้ามาดูสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ ด้วยโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ ทำให้เป้าหมายแต่ละคนจะเห็นโฆษณาที่แตกต่างกัน แต่ตรงใจมากขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจที่เป็น E-Commerce เต็มตัว เป็นธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการหลากหลายชนิดอยู่บนเว็บไซต์หลาย ๆ หน้าเพราะข้อดีของการทำ Dynamic Retarketing คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบของโฆษณาแบบอัตโนมัติ เพื่อนำส่งสินค้าและบริการที่เหมาะสมให้แก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ 

 

 

จากตัวอย่างในรูป คุณจะเห็นว่า Retargeting แบบปกติ กลุ่มเป้าหมายทุกคนของคุณจะเห็นโฆษณาในรูปแบบเดียวกันหมด แต่ Dynamic retargeting แบบอัตโนมัติ ลูกค้าคนที่ 1 มีพฤติกรรมที่สนใจหรือเข้าค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับรถคันสีเหลือง โฆษณาก็ตามไปปรากฏที่เป็นรถคันสีเหลืองให้ลูกค้าคนที่ 1 เห็น เป็นต้น 

 

จากตารางข้อสุดท้ายที่ว่าต้องศึกษาเรื่อง HTML5 หลายคนน่าจะกังวลเรื่องการศึกษาและทำความเข้าใจ HTML5 ที่น่าจะยากและซับซ้อนเอาการ ซึ่งหากคุณไม่มีเวลาศึกษาก็คงต้องอาศัย Programmer ให้ช่วยสร้างข้อมูล Feed ตามเงื่อนไขที่ Google และ Facebook กำหนด เพื่อสร้างโฆษณาได้ นอกจากนั้น คุณต้องเตรียมรูปสินค้าจำนวนมากใส่เข้าไปใน Facebook Shop และเว็บไซต์ของคุณ Readyplanet จึงพัฒนานวัตกรรม Marketing Technology ใหม่ล่าสุด R-Dynamic ระบบโฆษณา Dynamic Retargeting เพื่อช่วยเหลือนักธุรกิจและร้านค้าออนไลน์ และเรายังพบว่าเมื่อใช้ R-Dynamic ควบคู่กับการทำโฆษณาออนไลน์ สามารถช่วยเพิ่ม CTR ของ Display Ads และ Social Ads ได้ถึง 150-300%

 

สำหรับผู้ที่สนใจบริการ R-Dynamic ระบบโฆษณาแบบ Dynamic Retargeting
 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่

 

Updated: 02 November 2020 | Produced by: Dujnapa Chauthamcharoen