แนวทางการทำ Content Marketing เพิ่ม Organic Traffic แบบยั่งยืน
ปัจจุบันนี้ใคร ๆ ก็รู้ว่า Content Marketing มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการทำ การตลาดออนไลน์ แต่การสร้าง Content ทั่วไปที่บอกเพียงว่าคุณคือใคร ขายอะไร ราคาเท่าไหร่ หรือแม้กระทั่งสาระความรู้โดยทั่วไปก็อาจจะไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่จะทำให้ Content ของคุณโดนใจลูกค้าจนเกิด Action บางอย่างกับแบรนด์หรือสินค้าของคุณได้นั้นจะต้องเป็นเรื่องที่ลูกค้าของคุณอยากรู้และมีประโยชน์ที่ตรงใจพวกเขาด้วย
Content Marketing คืออะไร
Content Marketing คือ แนวทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณค่า ที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกัน เพื่อดึงดูดและรักษากลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน เพื่อท้ายที่สุดก็เพื่อขับเคลื่อนการทำกำไรให้ธุรกิจ” - ที่มา : https://contentmarketinginstitute.com/what-is-content-marketing/
จากคำนิยามของ contentmarketinginstitute.com แสดงให้เห็นว่า Content Marketing คือสิ่งสำคัญทางการตลาดที่จะช่วยส่งเสริมผลักดันยอดขายหรือกำไรให้เกิดแก่ธุรกิจได้ ซึ่งคุณต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า Content ไม่ใช่ Text (ตัวอักษร), ภาพหรือVDO แต่หมายรวมถึง ราคา , โปรโมชั่น และการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่มีองค์ประกอบของวัตถุประสงค์ในการทำ Content พร้อมกับการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนด้วย
ฟังดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหม?... แต่ Readyplanet ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการตลาดแบบ All-in-One กำลังจะบอกกับคุณว่า เพียงแค่คุณรู้วิธีการทำที่ถูกต้อง ก็ไม่มีอะไรยากอย่างที่คิด! แต่ก่อนที่เราจะมาดูวิธีการสร้าง Content Marketing ที่ช่วยเพิ่มยอดขายหรือเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญของ Online Marketing ของคุณ เรามาดูประโยชน์ในมิติอื่น ๆ ของ Content Marketing ว่ามีอะไรอีกบ้าง
ประโยชน์ของการทำ Content Marketing มีอะไรบ้าง?
1. สร้างคุณค่าและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือบริษัทของคุณ
หนึ่งในปัจจัยที่มีผลกับการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของกลุ่มผู้บริโภค คือ “ความน่าเชื่อถือในสิ่งที่คุณขาย” ฉะนั้นการสร้าง Content ที่มีประโยชน์หรือแม้กระทั่งตอบคำถามที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกำลังสงสัยหรือกังวลใจอยู่ นับเป็นการสร้างคุณค่าและความน่าเชื่อให้แบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง เพราะสินค้าหรือบริการบางธุรกิจต้องอาศัยคุณค่าและความน่าเชื่อถือของแบรนด์เป็นจุดขายหลัก
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า Content แบบไหนจะมีประโยชน์กับลูกค้าของคุณ? ก่อนอื่นคือคุณต้องรู้ก่อนว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร? หรือคุณต้องการสื่อสาร Content นี้กับใคร? ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร? มีความต้องการหรือกำลังเจอกับปัญหาอะไรอยู่บ้าง?... ลองตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ ก่อนจะเริ่มทำ Content Marketing
เครื่องมือสำคัญในการที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ถูกต้องมากที่สุด ก็คือ “ข้อมูลลูกค้า” ถ้าคุณคือนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจที่เคยคร่ำหวอดมาแล้วในโลกออฟไลน์ หรือทำออนไลน์มาบ้างแล้วสักระยะนึง ก็ลองนำข้อมูลลูกค้าเก่า ๆ ที่มีอยู่มาวิเคราะห์ดูเพื่อตอบคำถามที่เรากำหนดให้ในเบื้องต้นกันดู… แต่ถ้าหากคุณคือเจ้าของธุรกิจมือใหม่ที่กำลังเริ่มที่จะอยากสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะกลายมาเป็นลูกค้าในอนาคตแล้วล่ะก็ คุณก็อาจจะต้องทำการบ้านเยอะหน่อย
โดยเริ่มจากตั้งคำถามและตอบคำถามต่อไปนี้ คือ “ใครบ้างที่มีความต้องการสินค้าหรือบริการของคุณ” เพศอะไร อายุเท่าไหร่ มีความชอบ ความต้องการหรือปัญหาอะไรบ้าง ซึ่ง Readyplanet ขอแนะนำว่าลองทำกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการไว้สัก 2-3 กลุ่มตัวอย่าง แล้วลองทดลองสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ แล้ววัดผลว่ากลุ่มไหนกลับมาเป็นยอดขายมากที่สุด
2. ช่วยเพิ่ม Traffic จำนวนผู้คนเข้ามายังเว็บไซต์หรือ Social Media ของคุณ
จริงอยู่ที่การทำโฆษณาออนไลน์ ทั้งทำ Google Ads หรือ Facebook Ads จะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนผู้คนให้เขามายังเว็บไซต์หรือ Social Media ต่าง ๆ ของคุณได้ แต่การทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นในระยะยาวได้นั้น ต้องทำควบคู่ไปกับ Content ที่สามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ด้วย แน่นอนว่าหากคุณสามารถสร้าง Content Marketing ที่ตรงใจกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายกำลังมองหาอยู่ ย่อมนำมาซึ่ง Traffic ของจำนวนผู้คนที่เข้ามายังเว็บไซต์หรือ Social Media ของคุณได้แน่นอน
ข้อดีของการมี Traffic เข้าเว็บไซต์เยอะ ก็คือการทำ Retargeting Ads หรือบางครั้งเรียกว่า Remarketing Ads นั่นเอง เมื่อคุณมีเว็บไซต์ที่ช่วยให้คุณสร้าง Content Marketing ที่ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายได้แล้ว การทำ Retargeting Ads จะช่วยให้คุณสามารถส่งสินค้าและบริการ หรือแม้กระทั่ง Content Marketing ใหม่ ๆ ไปยังกลุ่มคนที่เคยเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้ เพื่อการปฏิสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องจนกลุ่มเป้าหมายจดจำแบรนด์ได้ ไปจนกระทั่งเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ
3. ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์
เพราะในยุคปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจหรือการค้าขายบนโลกออนไลน์มีจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังมีความซับซ้อนยุ่งยากของระบบอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มโซเชี่ยมมีเดียต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง อาจทำให้ธุรกิจของคุณสะดุด การทำ Content Marketing กระจายไปยังช่องทางการตลาดออนไลน์บนเว็บไซต์หรือช่องทางอื่น ๆ จะช่วยให้ลดความเสี่ยงจากการเพิ่งพาธุรกิจของคุณจากช่องทางการขายเพียงช่องทางเดียว
อย่างที่ Readyplanet ที่กล่าวไปแล้วในบทความ กลยุทธ์การทำโฆษณาออนไลน์ให้ตรงใจผู้บริโภคปี 2021 อ่านบทความคลิกที่นี่ ว่าหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของปี 2021 นี้ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้มองเห็นและรู้จักกับแบรนด์หรือสินค้าของคุณได้มากขึ้น นั่นก็คือ การทำ Multi-Channel Marketing หรือการมีช่องทางการขายที่หลากหลายมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนอกจากช่องทางการขายผ่านโซเชี่ยลมีเดีย อย่าง Facebook, Instagram และ LINE แล้ว การมีเว็บไซต์ขายของออนไลน์ของตนเอง หรือร้านค้าออนไลน์ของตนเองบน Marketplace ชื่อดังต่าง ๆ ก็นับเป็นช่องทางการขายที่เป็นทางเลือกที่ดีให้กับธุรกิจของคุณ
4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO บนเว็บไซต์ของคุณในระยะยาว
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า SEO คือหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณแสดงใน Google หน้าแรกได้ ซึ่งนั่นก็คือการเพิ่มโอกาสในการมองเห็นเว็บไซต์ธุรกิจของคุณโดยกลุ่มเป้าหมายที่ต้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
“คนไทยใช้ Search Engine เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการเยอะที่สุด คือ 99% นอกจากนั้นยังใช้ Social Media เป็นเครื่องมือในการค้นพบแบรนด์ใหม่ ๆ อยู่ที่ 55.5%” - ที่มา : รายงานสถิติ Thailand Digital Stat 2021 จาก We Are Social ฉบับล่าสุด
โดยวิธีการที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณแสดงในหน้าแรกของ Google ได้ มีด้วยกัน 2 วิธีคือ
1. การทำ Google Ads ซึ่งคุณจะต้องจ่ายค่าโฆษณาให้กับ Google เมื่อมีคนคลิกเข้าเว็บไซต์ของคุณ
2. คือการทำ SEO ในเว็บไซต์ของคุณโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนการทำโฆษณา
ซึ่งการทำ SEO นั้น ผู้ประกอบการ หรือนักการตลาดสามารถศึกษาวิธีการทำได้ด้วยตนเองผ่านการอ่านบทความ หรือเรียนรู้ผ่านวีดีโอต่าง ๆ แต่หากธุรกิจหรือองค์กรใดไม่สามารถทำเองได้ อันเนื่องมาจากปัญหาด้านบุคลากร หรือไม่มีเวลาเรียนรู้และทำเอง ทาง Readyplanet ขอแนะนำ Smart SEO บริการ SEO วิถีใหม่ ยกระดับคุณภาพเว็บไซต์ในภาพรวม โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่
แล้วจะทำแค่ SEO ได้ไหม?
Readyplanet แนะนำว่าให้ทำ SEO ควบคู่กับการทำ SEMเพราะเพื่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ที่ดีที่สุด คุณควรที่จะทำควบคู่กับไป เพราะจุดด้อยของเว็บไซต์นั้นเป็นช่องทางที่ไม่สามารถเรียกคนเข้าเว็บไซต์ได้เอง ฉะนั้นการทำ Google Ads จึงเสมือนเป็นตัวช่วยเรียกลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้น และเมื่อเว็บไซต์ของคุณมีการใช้ Keywords กลุ่มเดียวกับที่ใช้ใน Google Ads มาทำ SEO ร่วมด้วย ก็ยิ่งจะช่วยเสริมให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการเสิร์ชติดหน้าแรกของ Google มากยิ่งขึ้น
โดยสิ่งสำคัญของทั้งการทำ Google Ads และ SEO ก็คือ Keywords ที่เป็นคำหรือกลุ่มคำที่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับธุรกิจหรือสินค้าและบริการของคุณ ซึ่งเทคนิคการเลือก Keywords ให้ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณนั้น Readyplanet จะขอกล่าวในลำดับถัดไปในหัวข้อของ 7 แนวทางการทำ Content Marketing ดังนี้
แนวทางการทำ Content Marketing เพิ่ม Organic Traffic แบบยั่งยืน มีดังนี้
1. กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการทำ Content Marketing ทุกครั้งให้ชัดเจน : โดยวัตถุประสงค์ของการทำ Content Marketing สามารถแบ่งประเภทตามการใช้งานบนช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้ เช่น
1.1 Content Marketing สำหรับใช้บน Social Media : โดยปกติแล้วการทำ Content Marketing บน Social Media สามารถแบ่งประเภทของวัตถุประสงค์เดียวกับ Ads Objective ได้เลย เช่น
Awareness คือ Content ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ระหว่างแบรนด์ของคุณกับกลุ่มเป้าหมาย โดยทั่วไปแล้วลักษณะการทำ Content Marketing ที่มีวัตถุประสงค์นี้ จะเป็นการบอกเล่าประวัติที่มาของแบรนด์ สินค้าและบริการที่ขายดีอย่างไร มีความน่าเชื่อถือ และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะเชื่อมั่นได้อย่างไร เป็นต้น
Consideration คือ Content ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย (Engagement) ฉะนั้นความคิดสร้างสรรค์ของ Content ที่ชวนให้เกิดการ Comment , Like, Share หรือดู VDO Content ให้ได้จนจบ สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงก่อนจะสร้าง Content Marketing ที่มีวัตถุประสงค์ประเภทนี้คือ “อะไรคือสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายของคุณสนใจจนอยากจะมี Action อะไรบาง อย่างกับ Content นี้?” , “Content แบบไหนที่กลุ่มเป้าหมายอยากแชร์ อยากบอกต่อ หรืออยากจะแสดงความเห็น ? ” เป็นต้น
Conversion คือ Content Marketing ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้กลุ่มเป้าหมายกระทำอะไรบางอย่างที่เข้มข้นขึ้น และตรงเข้าสู่เป้าหมายที่ต้องการอย่างชัดเจน เช่น การลงทะเบียน , การทักแชท หรือการดาวน์โหลด เป็นต้น
1.2 Content Marketing สำหรับการทำ SEO : เป้าหมายหลักของการทำ SEO คือการช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาบน Google แบบไม่เสียค่าโฆษณา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถทำ SEO ได้ตั้งแต่เว็บไซต์ ซึ่งมีความซับซ้อนและหลายขั้นตอนที่ต้องอาศัยการวางแผน Site Map และการใส่ Keywords ลงไปในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ไปจนถึงการทำบนหน้าเว็บเพจเพียงหน้าเดียวก็ได้
“จากการสำรวจบริษัททั่วโลกพบว่า 39% ของบริษัทที่ใช้การทำ SEO สามารถประหยัดงบประมาณการทำการตลาดได้จริง” ที่มา : http://mashable.com/2011/10/30/inbound-outbound-marketing/
ซึ่งในครั้งนี้ Readyplanet จะขอ อธิบายเพียงการทำ Content Marketing ที่เอื้อต่อ SEO บนเว็บเพจหนึ่งหน้า โดยอาจจะมีเทคนิคเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย (นอกจากเหนือการนำเสนอเนื้อหาที่ลูกค้ากำลังหาคำตอบหรือสนใจอยากจะรู้) ดังนี้
- เลือก Keywords ที่มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณ : เพราะหัวใจของการทำ SEO คือ Keywords ซึ่งนอกจากการหาคำหรือวลีที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณแล้ว ก็จะต้องเป็น Keywords ที่คุณคาดว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณจะใช้คำนั้นเสิร์ชหาด้วยถึงจะได้ผลดีที่สุดซึ่งการเลือก Keywords นั้นสามารถทำได้ทั้งการเลือกใช้เป็น คำ (Words) หรือวลี (Longtail Keyword) เช่น รองเท้า ราคาถูก , รองเท้าxxx (ชื่อแบรนด์) มือสอง ราคาถูก เป็นต้น
โดยมีเครื่องมือที่สามารถช่วยคุณหา Keywords ได้เหมาะสม คือ Google Keywords Planner เครื่องมือนี้จะช่วยบอกคุณได้ว่า คำหรือวลีที่คุณต้องการใช้นั้นมีปริมาณการเสิร์ชมากน้อยแค่ไหนบน Google พร้อมบอกราคาของคำนั้นๆ ต่อคลิก รวมถึงคำที่ใกล้เคียงกับ Keywords ที่คุณต้องการเพื่อเป็นแนวทางการปรับเปลี่ยนคำเพิ่มเติมให้อีกด้วย
เมื่อคุณได้ Keywords ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณแล้ว ให้นำคีย์เวิร์ดมาใส่ในส่วนต่าง ๆ ของ Content Marketing บนหน้าเว็บไซต์ อาทิ Headline (หัวข้อบทความ) วางคีย์เวิร์ดไว้ใน 100 คำแรกของหน้า Content นั้น ๆ และอย่าลืมใส่ Internal link เพื่อลิงก์ไปบทความอื่น ๆ บนหน้าเว็บไซต์ของคุณด้วย นอกจากนั้นยังมีการใส่ Keywords ที่เป็นเทคนิคหลังบ้านอีกนิดหน่อย เช่น การใส่ Meta Description , ลิงก์ URL หรือรูปภาพ ดังนี้
- ใส่ Meta Tag และ Meta Description : Meta Tag คือตัวอักษรที่ช่วยอธิบายกับระบบของ Google ว่าเว็บไซต์หรือเว็บเพจนี้เกี่ยวกับอะไร โดยจะปรากฏเฉพาะหน้า Source code ของเว็บไซต์เท่านั้น แต่ไม่ได้ปรากฏอยู่ภายในหน้าเว็บไซต์แต่อย่างใด ซึ่งวิธีการใส่นั้นขึ้นอยู่กับระบบของเว็บไซต์ที่คุณใช้ด้วย
เมื่อคุณได้ Keywords มาแล้วก็ควรใส่เข้าไปใน Meta Tag นี้ด้วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเสิร์ชบน Google ได้ดียิ่งขึ้น
โดย Meta Tag สามารถแบ่งได้ 2 ส่วนใหญ่ ๆ ก็คือ Meta Tag ที่เป็น Headline และ Meta Description คำอธิบายเพิ่มเติม ดังภาพ
- ความยาวของ Content Marketing และใน Alt ให้รูปภาพประกอบ : ความยาวของเนื้อหานั้น Google เองชอบบทความที่เยอะและยาว แต่ในขณะเดียวกันคุณต้องใส่ใจถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณด้วยว่าจะทนอ่านบทความของคุณได้ยาวขนาดไหนด้วย ซึ่งเทคนิคการทำให้ Content Marketing ของคุณดูน่าอ่านและไม่ยืดยาวจะน่าเบื่อเกินไป สามารถใช้การแบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆ 1 2 3 4 หรือการใช้ Bullet Point ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้บทความของคุณน่าอ่านขึ้น
โดยแต่ละย่อหน้าควรใส่ 1 Keywords ที่เลือกในแต่ย่อหน้าไปเรื่อย ๆ ก็จะช่วยให้ SEO บนหน้าเว็บเพจของคุณดีขึ้น นอกจากนั้นการใส่ Keywords ยังสามารถทำได้บนรูปภาพ (ที่หลายคนทราบว่า Google ไม่สามารถอ่านรูปภาพได้ โดยคุณสามารถใส่ Alt ที่รูปภาพได้ โดยปกติแล้วเวลาเราสร้างบทความหรือ Content Marketing ที่ต้องการอัพโหลดรูปภาพลงไปในบทความ จะมีช่องให้เราสามารถใส่ Alt ของรูปภาพประกอบได้ ซึ่งวิธีการทำอาจแตกต่างไปในแต่ละระบบของเว็บไซต์ที่คุณใช้ด้วย ดังนี้
ซึ่งหากคุณกำลังสนใจเรื่อง การทำ SEO แบบลึกซึ้ง สามารถอ่านเพิ่มเติมจากบทความ สรุปแนวทางพื้นฐานทำ SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก Google ได้ที่นี่
1.3 Content Marketing สำหรับประชาสัมพันธ์ : การเขียน Content Marketing ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการประชาสัมพันธ์นั้น ก็เหมือนการทำ Awareness บนสื่อ Social Media คือการสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมาย
หลักการเขียน Content ประเภทนี้มีเนื้อหาเพียงแจ้งข่าวสารที่มีรายละเอียดของ “ใคร - ทำอะไร - ที่ไหน - อย่างไร” คล้ายกับการเขียนข่าวประชาสัมพันธ์นั่นเอง โดยช่องทางการส่ง Content Marketing สำหรับประชาสัมพันธ์นี้ ส่วนใหญ่ที่นิยมทำกันคือ การส่ง E-Mail ไปยังกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ ไปจนถึงการแนะนำสินค้าหรือบริการ เพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดย Readyplanet มีเทคนิคที่ช่วยให้ E-Mail ของคุณดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ดังนี้
- ตั้งชื่อหัวข้ออีเมลให้น่าสนใจ : โดยคุณต้องคิดในมุมของลูกค้าว่า อะไรที่ทำให้ลูกค้าอยากคลิกอ่านอีเมล ซึ่งนั่นก็กลับไปที่หัวใจเบื้องต้นของการทำ Content Marketing เลยก็คือ “อะไรที่กลุ่มเป้าหมายกำลังมองหา” , “อะไรที่มีประโยชน์ต่อพวกเขาจนต้องสละเวลาคลิกอ่านอีเมลของคุณ” เป็นต้น
- วาง Layout และรูปภาพในอีเมลให้น่าสนใจ : อย่างที่ทราบกันดีว่าคนส่วนน้อยมากที่จะชอบอ่านตัวหนังสือเยอะ ๆ ฉะนั้น เพื่อให้สาระสำคัญส่งถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครบถ้วน ก่อนที่พวกเขาจะเห็นตัวอักษรจนลายตาแล้วก็ออกจากอีเมลของคุณไปโดยไม่เกิดผลอะไร การใช้รูปภาพหรือ Infographic ประกอบเพื่ออธิบายข้อมูลให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น จะช่วยให้อีเมลของคุณน่าอ่านมากขึ้นนั่นเอง
ใส่ Call To Action ในอีเมล : อยากให้กลุ่มเป้าหมายทำอะไร ก็ใส่ปุ่ม Call To Action ไปด้วย เช่น สอบถามเพิ่มเติม, สั่งซื้อสินค้าที่ Facebook Messager, LINE OA , โทรสอบถามรายละเอียดที่เบอร์ XX-XXXX-XXXX หรือคลิกเพื่อรับโปรโมชั่น เป็นต้น
2. ตั้งชื่อหัวข้อบทความให้ดูน่าสนใจ : เพราะหัวข้อของบทความเป็น Sale คนแรกที่จะต้องเปิดการขายแก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย...ถ้าผลีผลามจั่วหัวไปไม่ดี พูดอะไรที่ไม่ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า พวกเขาก็พร้อมจะเดินหนีโดยไม่ฟังรายละเอียดใดๆ แม้ทันอยากจะเป็นสิ่งที่พวกเขาอยากรู้หรือมีประโยชน์กับเขาก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่า Readyplanet มีเทคนิคดี ๆ ในการตั้งชื่อหัวข้อบทความให้ดึงดูดและน่าสนใจมาฝากกัน แต่สิ่งสำคัญที่เป็นหัวใจของการตั้งหัวข้อบทความทุกเทคนิคที่เรากล่าวมา ที่คุณพึงระลึกไว้เสมอก็คือ “ต้องเป็นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายอยากรู้และมีประโยชน์กับพวกเขา” ด้วยนั่นเอง
- เทคนิคการตั้งคำถาม : หลายคนน่าจะคุ้นกับประโยคคำถาม ประมาณนี้ “เชื่อหรือไม่ว่า ? ” , “ทำไมต้อง ? ” “จะดีแค่ไหน ? ” เทคนิคการตั้งคำถามที่นอกจากการทำ Content Marketing ที่เป็นบทความแล้ว ในคลิป VDO Content หรือแม้กระทั่งวงการโทรทัศน์ก็นิยมใช้เพื่อดึงดูดความสนใจให้คนหยุดดูหรือคลิกอ่าน
- เทคนิคใช้ตัวเลข : อย่างบทความที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ ก็ใช้ตัวเลขดึงดูดคุณเช่นกัน โดยมีสูตรดังนี้ “ตัวเลข + สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายกำลังมองหาและอยากรู้” เช่น 5 เคล็ดลับผิวสวยสุขภาพดี, วิธีที่จะช่วยให้คุณทำงานแค่ 1% แต่เพิ่มประสิทธิภาพได้ 99% เป็นต้น
- เทคนิคใช้สัญลักษณ์ ! : สัญลักษณ์นี้ มีหน้าที่ที่ช่วยในการเร้าอารมณ์ให้คนตื่นเต้น อยากรู้ เช่นเดียวกับเทคนิคการสีแดงที่ใช้บนป้ายโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ฟรี! , ลดสูงสุด 80% !!! ห้ามพลาด! ซึ่งการเพิ่มสัญลักษณ์นี้กับพวก Content Marketing ที่ก็จะช่วยดึงดูดและกระตุ้นให้คนเกิดความสนใจได้เป็นอย่างดี
3. สำรวจผู้เขียนอื่นๆ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าให้ Content Marketing ของคุณ : Readyplanet ไม่ได้มีเจตนาให้คุณไปก้อปปี้งานเขียนใครแต่อย่างใด แค่การสำรวจผู้เขียนจากที่อื่น ๆ นั้นจะช่วยให้คุณได้รู้ว่านอกจากพื้นที่ของคุณแล้ว มีใครที่ทำอะไรบ้าง มีแนวคิดอย่างไร มีจุดเด่นหรือข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง เพื่อเอามาเปรียบเทียบและมาเป็นแนวคิดเพื่อพัฒนากับเขียน Content Marketing ของคุณ
เพราะความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดการจากสร้างสิ่งใหม่จากศูนย์ดังที่ ไมเคิล เชบอน นักเขียนชื่อดังระดับโลก มีแนวความคิดในการทำงานที่ว่า “โลกนี้ไม่ม่ีสิ่งที่เรียกว่าลักษณะเฉพาะตัวที่แท้จริง กลยุทธ์ในการเขียนนิยายของเขาไม่ใช่การเขียนให้แตกต่างจากคนอื่นยังไง แต่จะเอาแนวความคิดของเขามาใช้อย่างไรมากกว่า” ที่มา : สารคดี Netflix เรื่อง Creative Brian
4. ประเมินและวัดผล Content Marketing ของคุณอยู่เสมอ : ข้อดีของโลกออนไลน์ คือการที่เราสามารถวัดผลการกระทำทุกอย่างได้อย่างชัดเจน Content Marketing ก็เช่นกัน
ซึ่งการประเมินและวัดผลว่า Content Marketing ดีหรือไม่นั้น อาจจะต้องวัดผลให้สอดคล้องกับการตั้งวัตถุประสงค์ตั้งแต่ต้น เช่น
- Awareness : ให้ดูว่า Content ไหนสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่ากัน มีจำนวนการคลิกดูมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหาก Content ไหนมีอัตราการคลิกอ่านหรือดูมากที่สุด ก็อาจบอกได้ว่า หัวข้อบทความหรือภาพปก (Cover Page, Thumbnail Picture) ของเรานั้นน่าสนใจและดึงดูดมากน้อยเพียงไร
- Consideration , Engagement : ให้ดูว่าเมื่อมีกลุ่มเป้าหมายเข้ามาคลิกดู Content Marketing นานแค่ไหน ดูหรืออ่านจนจบหรือไม่ มีการคลิกอ่านบทความเพิ่มเติม หรือมีการแชร์ , Comment เพิ่มเติมมากน้อยแค่ไหน หรือในหน้าเพจ Content Marketing นั้นมีค่า Bounce Rate สูง ก็อาจจะแสดงให้เห็นว่าบทความของคุณไม่เชื่อมโยงสัมพันธ์กับชื่อหัวข้อที่เขียน เป็นต้น
ซึ่งในส่วนนี้สามารถวัดผลได้ความน่าสนใจของบทความของคุณได้เป็นอย่างดี หรือแม้กระทั่งเปอร์เซ็นต์การดู VDO ที่สามารถดูได้ว่าคนเข้ามาดูของเรากี่วินาที กี่เปอร์เซ็นต์ของความยาว VDO และออกไปช่วงนาทีที่เท่าไหร่ หรือการใช้เวลาในการอยู่บนหน้าเว็บเพจกับ Content Marketing ของคุณ เป็นต้น
- Conversion : โดยส่วนใหญ่แล้วการทำ Content Marketing ที่มีวัตถุประสงค์เป็น Conversion มังจะมีเป้าหมายในลักษณะของ Business Value เช่น อัตราการคลิกสั่งซื้อ , ยอดคนลงทะเบียนสมัครสมาชิก หรือยอดดาวน์โหลด เป็นต้น ฉะนั้น Content Marketing ชิ้นไหนที่สามารถผลักดันให้เกิดผลของ Coversion ที่ดี คุณก็สามารถนำมายึดเป็นโครงสร้างหรือแนวทางการทำ Content Marketing ต่อไปได้เลย เพราะเป็นตัวที่บ่งชัดได้แล้วว่าทั้ง ชื่อหัวข้อบทความและเนื้อหาทั้งหมด สามารถโน้มน้าวใจจนทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกระทำในสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณได้สำเร็จตามนิยมของ Content Marketing ที่เราได้กล่าวไว้ในข้างต้น
จากหลายบทความที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันให้ประสบความสำเร็จที่ Readyplanet ได้เคยเขียนมาทั้งหมดนั้น จะเห็นได้ว่าหลักสำคัญของการทำอะไรก็ตามแต่ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจออนไลน์ , การทำโฆษณาออนไลน์ หรือการทำ Content Marketing สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญก็คือ “ คุณต้องรู้จักและรู้ใจลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณก่อนเสมอ ” เมื่อคุณวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำแล้ว สิ่งต่อมาก็คือการตั้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เพื่อการวัดผลความสำเร็จได้ตรงจุด และมั่นหาความรู้ใหม่ ๆ สำรวจผู้อื่นหรือคู่แข่งเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนามุมต่าง ๆ ธุรกิจของคุณให้ดีอยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการเลือกใช้เครื่องมือดี ๆ ที่ช่วยติดอาวุธให้เป้าหมายของคุณได้สำเร็จมากยิ่งขึ้น
อย่างการทำ Content Marketing ที่เอื้อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งแน่นอนว่าเว็บไซต์ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำ Content Marketing นี้ก็คือ เว็บไซต์ที่เอื้อต่อการทำ SEO อย่าง Readyplanet เองก็มี R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One ที่ครอบคลุมทั้ง การทำ SEO การทำโฆษณาออนไลน์และระบบลูกค้าสัมพันธ์
R-Web เป็นมากกว่าแค่เว็บไซต์ ทรงพลังด้วยเครื่องมือการตลาดครบครัน
R-Web คือหนึ่งในเครื่องมือของ Readyplanet Marketing Platform ที่นอกจากจะทำเว็บไซต์ง่ายแล้ว ยังมาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่วันแรก จนกลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำที่ผูกพันกับธุรกิจของคุณ
Updated: 20 April 2021 | Produced by: Ploynaphat Wattanachodjirachai