4 ขั้นตอน เก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบด้วย R-CRM เซลส์ติดตามได้ครบ ไม่ตกหล่น
ในยุคที่การตลาดแข่งขันกันอย่างดุเดือด ฐานข้อมูลลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญก็จริง ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ เพราะสมองมนุษย์คงจดจำอะไรไม่ได้ทั้งหมด เราจึงต้องมีการจดบันทึก แต่สำหรับยุคนี้เป็นยุคที่ข้อมูลต่าง ๆ มากมายมหาศาลและเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง แน่นอนว่าคงไม่มีเซลส์คนไหนที่อยากจะทำข้อมูลลูกค้าหล่นหาย เพราะนั่นหมายความว่าโอกาสที่จะปิดการขายได้หลุดมือไปแล้ว ดังนั้น Readyplanet R-CRM จึงเป็นระบบที่เข้ามาช่วยรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้าไว้ในที่เดียว ที่ธุรกิจไม่ควรพลาด
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ข้อมูลลูกค้า สำคัญอย่างไรกับธุรกิจ?
- ธุรกิจควรจัดการกับข้อมูลลูกค้าอย่างไร? ให้ทีมขายสามารถติดตามลูกค้าจนปิดยอดขายได้สำเร็จ
- 4 ขั้นตอน เก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ด้วย R-CRM
- สรุป
หากย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่เทคโนโลยียังไม่ได้มีบทบาทมากเท่ากับในปัจจุบัน การเข้าถึงข้อมูล ต่าง ๆ ของลูกค้ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีที่เห็นกันได้ชัด ๆ ก็คือจำนวนของลูกค้าไม่มากเหมือนยุคนี้ เพราะช่องทางในการติดต่อกับธุรกิจยังน้อย ทำให้การจัดการข้อมูลลูกค้าง่าย ไม่ซับซ้อน หรือในบางธุรกิจที่มีลูกค้ามาก สัดส่วนทีมขายกับจำนวนลูกค้าต่างกัน คงไม่ง่ายที่จะจำข้อมูลได้ทั้งหมด ซึ่งวิธีที่นิยมใช้เก็บข้อมูลลูกค้าในอดีต จะใช้วิธีจดบันทึกในกระดาษบ้าง จำเอาบ้าง จากใบลงทะเบียนของลูกค้า หรือบันทึกใส่ไฟล์ Excel ข้อมูลเหล่านั้นอาจจะหล่นหาย พลาดลบ และมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียลูกค้า
ข้อมูลลูกค้าสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ?
นักการตลาดมักจะถูกสอนเสมอว่า “ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่สูงกว่าต้นทุนในการรักษาลูกค้าเก่าไว้” ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุก ๆ ด้านเช่นนี้ด้วยแล้ว ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและหลากหลายช่องทาง นั่นแปลว่าลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งธุรกิจต่างต้องเอาชนะใจลูกค้าและได้มาซึ่ง “ข้อมูลลูกค้า” เพราะนี่จะเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ทางธุรกิจที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรได้ ยิ่งธุรกิจมีข้อมูลลูกค้าในมือมากเท่าไร ก็ยิ่งได้เปรียบตลาดมากเท่านั้น ซึ่งธุรกิจจะต้องมีการเก็บข้อมูลลูกค้าไว้เป็นเครื่องมือในการวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพได้ ไม่ว่าจะนำไปวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า, ปรับปรุงการบริหารทีมขาย, รู้จักและเข้าใจลูกค้าเพื่อที่จัดทำแคมเปญที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
ธุรกิจควรจัดการกับข้อมูลลูกค้าอย่างไร? ให้ทีมขายสามารถติดตามลูกค้าจนปิดยอดขายได้สำเร็จ
ด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยี ทำให้การเก็บข้อมูลลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะมีเครื่องมืออัจฉริยะให้เลือกใช้อย่างระบบ CRM แพลตฟอร์มสำหรับการบริหารทีมขาย ที่มาพร้อมฟีเจอร์สำหรับเก็บข้อมูลทั้งหมดที่มีความเชื่องโยงสัมพันธ์กับการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในมิติต่าง ๆ ที่จะนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ของธุรกิจ ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามลูกค้าได้อย่างไม่ตกหล่น จึงเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้สำเร็จ
4 ขั้นตอน เก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ด้วย R-CRM
ธุรกิจจะเติบโตไม่ได้เลย หากขาดข้อมูลลูกค้า ดังนั้นการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง Readyplanet ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้และสร้างเครื่องมือพร้อมพัฒนาฟีเจอร์ที่จะตอบโจทย์ธุรกิจให้ครอบคลุมในทุกมิติ และล่าสุดกับฟีเจอร์ Lead Management และการแสดงผลข้อมูล Lead บนระบบ R-CRM ที่จะช่วยให้การจัดการข้อมูลลูกค้าทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น เราจะไปเรียนรู้พร้อมกันค่ะ
1. ขั้นตอนการเพิ่ม Lead หรือการสร้าง Lead ใหม่
หากธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย Readyplanet R-CRM ในหน้าของ Lead ที่จากเดิมจะบอกรายละเอียดเพียงข้อมูลผู้ติดต่อ, การบันทึกล่าสุดที่เซลส์ได้ทำการบันทึกข้อความเอาไว้ และติดป้ายกำกับเพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ง่ายต่อการจัดการและการค้นหา ซึ่งหาก Lead เป็นนิติบุคคลจะยังไม่ีข้อมูลแสดง ทำให้เซลส์ค้นหาได้ลำบาก เนื่องจากข้อมูลชื่อบริษัทไม่ได้ปรากฏขึ้นในหน้ารายการ Lead ปัญหานี้จะหมดไปเพราะล่าสุดฟีเจอร์นี้ได้รับการอัปเดต ให้แสดงชื่อบริษัทให้เห็นอย่างชัดเจน อีกทั้งระบบยังมีการตรวจสอบข้อมูลซ้ำในระบบโดยใช้ อีเมล, เบอร์โทร และ Tax ID เพื่อป้องกันการเพิ่มข้อมูลซ้ำซ้อนหรือข้อมูลที่ตกหล่นให้อีกด้วย
รูปภาพ : การแสดงผลข้อมูล Lead ในรูปแบบเดิม
การแสดงผลหน้ารายการ Lead แบบใหม่ของ R-CRM
สำหรับการแสดงผลในหน้ารายการ Lead ที่มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงใหม่นั้น มีรายละเอียดดังนี้
- ชื่อ Lead : สามารถตั้งค่า Lead Intro ที่ต้องการได้ เช่น ชื่อ Project หรือชื่อโครงการ, ชื่อสินค้าหรือบริการ โดยจากเดิมจะแสดงเพียงรายละเอียดของผู้ติดต่อเข้ามาเท่านั้น แต่หากต้องการดูทะเบียนลูกค้า จำเป็นต้องคลิกเลือกข้อมูลทะเบียนลูกค้าแล้วจึงกลับมายังหน้า Lead อีกครั้ง ซึ่งการแก้ไขข้อมูลส่วนนี้ จะทำให้เซลส์สามารถทราบได้ทันทีว่า Lead รายนี้ ใช้บริการอะไร โดยคลิก “+” เพื่อสร้าง Lead ใหม่ และระบุชื่อ Lead ได้เลย แต่ข้อจำกัดตรงนี้ จะยังไม่สามารถแก้ไขชื่อ Lead ได้ หากต้องการเปลี่ยนชื่อ
- ข้อมูลผู้ติดต่อ : แสดงชื่อ-นามสกุลของผู้ติดต่อ
- ชื่อบริษัท : ในกรณีที่ Lead เป็นนิติบุคคล ระบบจะแสดงชื่อบริษัทในหน้ารายการ
- บันทึกล่าสุด : ทีมขายสามารถดูรายละเอียดที่บันทึกเพื่อติดตามงานได้
รูปภาพ : รายละเอียดข้อมูล Lead ในรูปแบบใหม่
2. ขั้นตอนการติดป้ายกำกับ
ระบบ R-CRM เพิ่มความสะดวกสบายให้เซลส์ในการค้นหาข้อมูล Lead จากป้ายกำกับ โดยผู้ใช้สามารถติดป้ายกำกับให้ Lead แต่ละรายได้ เช่น แยกตามแหล่งที่มา, แยกตามกลุ่มลูกค้า, แยกตามยอดขาย ฯลฯ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและติดตาม โดยคลิกที่สามจุดด้านหลังเวลา > เลือกติดป้ายกำกับ > กดเลือกป้าย > บันทึก
รูปภาพ : ระบบแสดงหลังจากติดป้ายกำกับ
3. ตรวจสอบรายละเอียด Lead ที่ปรากฏ
เมื่อเราบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ของ Lead ครบถ้วนแล้ว ทุกครั้งที่มีการบันทึกจัดเก็บข้อมูลลูกค้า ผู้ใช้ควรตรวจสอบรายละเอียด Lead ที่ปรากฏหลังการบันทึกเสมอ โดยตรวจสอบตามรายละเอียดดังนี้
- การแสดงข้อมูลผู้ติดต่อและข้อมูลบริษัทในผลการค้นหา
วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า ข้อมูลของ Lead จะไม่หล่นหายไป คือการตรวจสอบจากช่องค้นหา ซึ่งเราสามารถกรอกได้ว่าจะเลือกหาด้วยชื่อ, อีเมล, เบอร์โทร, ชื่อบริษัท, รหัสใบเสนอราคา/ใบแจ้งหนี้ ฯลฯ
เมื่อกรอกแล้ว หากข้อมูลถูกบันทึกแล้วจะปรากฏผลลัพธ์เป็นข้อมูล Leads, Orders และทะเบียนลูกค้า
- มีการแสดงข้อมูล Lead ที่ปรากฏในหน้า Lead inbox ครบถ้วน ดูง่าย ปรับแต่งได้
ข้อมูล Lead ที่ครบถ้วนสมบูรณ์จะต้องปรากฏขึ้นในหน้า Lead inbox โดยระบบ CRM จะแสดงผลที่เป็นระบบ ชัดเจน ดูง่าย และยังสามารถปรับแต่งได้เองแบบง่าย ๆ อีกด้วย ซึ่งระบบที่ง่ายจะช่วยลดระยะเวลาในการติดตามลูกค้า โดยเฉพาะธุรกิจที่มีรายชื่อ Lead จำนวนมาก และยังมี Lead ใหม่ ๆ เข้ามาในทุกวัน ดังนั้นการบริหารจัดการข้อมูลที่สามารถค้นหาได้ง่าย จะช่วยทำให้ทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น ยิ่งเราเสียเวลาน้อยเท่าไร เรายิ่งมีโอกาสสร้างยอดขายได้มากเท่านั้น
- ดูข้อมูลทั่วไปของ Lead ได้
เมื่อเซลส์ต้องการจะดูข้อมูลทั่วไปของ Lead เพื่อให้รู้รายละเอียดว่าลูกค้าสั่งซื้อสินค้า/บริการอะไร, จากแหล่งที่มาอะไร และนำเข้าข้อมูลด้วยวิธีไหน สามารถทำได้โดยการคลิกที่ชื่อ Lead > เลือกที่รูปตัว “i” ด้านซ้ายมือ เพื่อดูรายละเอียด Lead
- ดูข้อมูลเชิงลึกของ Lead หรือ Lead insights
อีกหนึ่งวิธีตรวจสอบว่าข้อมูลของ Lead จะไม่ตกหล่นอย่างแน่นอน คือการตรวจดูข้อมูลเชิงลึกของ Lead ซึ่งอยู่บนฟีเจอร์ R-Insights บนระบบ CRM โดยระบบจะแสดงออกเป็น 2 พาร์ท ได้แก่ แบ่งตามแคมเปญ และ แบ่งตามคีย์เวิร์ดในการค้นหา ซึ่งจะกรองจากระยะเวลาและ Sales Pipelineทีมขาย
4. เลือกดูข้อมูลการขายของ Lead ได้อย่างรวดเร็ว
ระบบ R-CRM สามารถเลือกดูรายการ Lead พร้อมกันได้มากกว่า 1 ขั้นตอน เพื่อวางแผนการขายที่ดีขึ้น ซึ่งจากเดิมจะดูข้อมูลการขายได้เพียง 1 ขั้นตอนเท่านั้น แต่ทาง Readyplanet ได้พัฒนาส่วนนี้ให้สามารถดูได้มากกว่า 1 ขั้นตอน เพื่อดู process การขาย ว่าในขั้นตอนที่เลือก มี Lead ไหนที่อยู่ในขั้นตอนนั้นบ้าง ตรงนี้เองหากพบว่าในบางขั้นตอน เช่น ต่อรอง มี Lead อยู่ในนี้เยอะ ผู้จัดการฝ่ายขายสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อจะช่วยให้การปิดการขายเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยคลิก “4 steps” (อยู่เหนือ “ตัวกรอง”)
สรุป
การเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ เป็นสิ่งสำคัญที่จะชี้ชะตาธุรกิจของคุณได้ ว่าเซลส์จะสามารถติดตามลูกค้าได้อย่างง่ายดาย สะดวกและรวดเร็วหรือไม่ เพราะหากข้อมูลลูกค้าตกหล่น โอกาสที่จะปิดการขายและสร้างผลกำไรคงไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วเครื่องมือที่เป็นตัวช่วยอย่าง Readyplanet R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่เข้าใจธุรกิจไทย และยังช่วยให้ทีมขายทำงานได้อย่างราบรื่น เก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน จึงตอบโจทย์ธุรกิจเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ
สมัครใช้งาน Readyplanet R-CRM
R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement
ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี