ทำความรู้จักกับ Conversion แบบเจาะลึก และเหตุผลที่ต้องใช้

สำหรับการตลาดบนเว็บไซต์แล้ว ในทุก ๆ ครั้งที่มีการทำแคมเปญเพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการออกไปสู่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เหล่านักการตลาดย่อมต้องการ ‘การวัดผล’ หรือจำเป็นต้องมี ‘เครื่องมือช่วยวัดผล’ ที่มีประสิทธิภาพ แม่นยำ ให้ข้อมูลตามความจริง เพราะเมื่อคุณสามารถวัดผลในแคมเปญการตลาดนั้น ๆ ได้แล้ว ย่อมทำให้ทราบถึงฟีคแบคจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณจริง ๆ สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ พัฒนา ปรับปรุงแนวทางการตลาดหรือการโฆษณาต่าง ๆ ในครั้งหน้าให้ประสบความสำเร็จ หรือตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และเพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปสร้าง Loyalty Program ให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเกิดการจงรักภักดีต่อธุรกิจ จนกลายเป็น Top of Mind ของลูกค้าในที่สุด

ในการตลาดบนเว็บไซต์ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกค้าจะกลับมายังหน้าเว็บไซต์ของคุณ ผ่านทางช่องทางใดที่ทางธุรกิจใช้มากที่สุด โดยเครื่องมือวัดผลชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมและนำมาใช้กับเว็บไซต์ออนไลน์ เรียกกันว่า ‘Conversion’

 

 

Conversion คืออะไร

 

Conversion คือ สิ่งที่สามารถแสดงให้เห็นว่ากลุ่มเป้าหมาย ได้ทำตามเป้าหมายของแคมเปญนั้น ๆ อย่างไรบ้าง วัดว่าลูกค้า Take Action กับเว็บไซต์ของคุณตามที่คุณต้องการหรือไม่ เช่น คุณกำหนดให้ลูกค้าลงทะเบียนเพื่อให้ติดต่อกลับ หรือกำหนดให้ สั่งจองล่วงหน้า สำหรับ Conversion แล้ว จะเป็นหน่วยวัดที่ไม่ใช่แค่ Impression, Reach หรือ Engagement ที่เข้ามายังเว็บไซต์เท่านั้น ทว่าต้องสามารถวัดผลได้มากกว่า หรือวัดผลได้ในเชิงลึกกว่านั่นเอง

 

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น

 

ธุรกิจสายนวดสปา เปิดจองโปรโมชั่น โดยตั้งใจว่าอยากให้มีกลุ่มคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ กดจองและสั่งซื้อล่วงหน้า 50 ออเดอร์ ทางธุรกิจจึงกระจายโปรโมชั่นออกไปในหลาย ๆ ช่องทางของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Google Ads โดยใช้ SEO รวมถึงแชร์ไปยัง Social Media ของธุรกิจ ในระยะเวลา 2 อาทิตย์ที่ทำโปรโมท มียอดสั่งจองเข้ามากว่า 100 ออเดอร์ จากหลากหลายช่องทาง นั่นแปลได้ว่าแคมเปญนี้ประสบความสำเร็จนั่นเอง โดยตัว Conversion ยังสามารถวัดผลต่อไปได้อีกด้วยว่า ลูกค้าสั่งจองเข้ามายังเว็บไซต์จากช่องทางใดมากที่สุด และสามารถเก็บข้อมูลดังกล่าว นำมาปรับใช้กับแคมเปญต่อไปในอนาคตได้

 

ทำไมต้องใช้ Conversion?

 

ในส่วนของคำถามที่ว่าทำไมธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้ Conversion นั้น มีประโยยชน์ข้อใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้

 

เพื่อวัดประสิทธิภาพของการทำการตลาด

 

ทุกธุรกิจสามารถมีเว็บไซต์ของตัวเองได้ เราสามารถดูสถิติหลังบ้านได้ว่าคนกดเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรามากเท่าไหร่ และใช้เวลาอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเราเท่าไหร่  โดยตัว Conversion จะช่วยวัดผลลงลึกเข้าไปอีกถึงผลลัพธ์ในการทำแคมเปญหรือทำสิ่งต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ ว่าอะไรที่ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมเว็บไซต์ และไม่ใช่แค่เข้ามาดูเฉย ๆ แต่เกิด Action บางอย่าง เช่น กดโหลดข้อมูล กดลงทะเบียน หรือ กดสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น

 

เพื่อปรับใช้งบประมาณการตลาดให้มีประสิทธิภาพ

 

เมื่อธุรกิจของคุณมีหน่วยช่วยวัดหรือเครื่องมือในการวิเคราะห์และได้มาซึ่งข้อมูลที่ได้ประสิทธิภาพแล้ว ย่อมก่อให้เกิดประสบการณ์ การเรียนรู้ที่มีคุณภาพตามไปด้วย ดังนั้นในครั้งหน้า คุณอาจจะเลือกเฉพาะช่องทางที่เกิด Conversion สูงลำดับต้น ๆ เท่านั้น เพื่อให้ประหยัดงบในการหว่านลงทุกช่องทาง

 

ถึงตรงนี้คงเริ่มรู้จักว่า Conversion คืออะไร และรู้จักประโยชน์ของเครื่องมือสุดเจ๋งนี้แล้ว ต่อไปเรามาดูกันว่า รูปแบบของ Conversion มีอะไรบ้างกันดีกว่า

 

รูปแบบของ Conversion มาในรูปแบบการตั้ง Call-To-Action ต่างๆ

 

 

ขออธิบายย่อ ๆ สำหรับ Call-To-Action คือหนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่สำคัญมาก สำหรับธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการที่ต้องการนำเสนอขายในออนไลน์ โดยมาในรูปแบบหลากหลาย ดังนี้

 

Shop Now

 


ปุ่มคุ้นตาที่พบได้บ่อย ในธุรกิจเว็บไซต์ ประเภท E-Commerce ปุ่มนี้สามารถนำไปสู่ขายซื้อขายสินค้าหรือบริการได้โดยตรงเลย เน้นขายของและลดภาระของลูกค้าไม่ต้องไปหาปุ่มกดสั่งตรงอื่นให้ยุ่งยาก หลายเว็บไซต์ปรับคำพูดให้หลากหลายขึ้น เช่น Order Now, Buy Now, Add to Cart, สั่งซื้อตอนนี้  หรือ ซื้อเลย เป็นต้น

 

Sign Up

 


ปุ่มสำหรับธุรกิจที่ต้องการให้ลูกค้ากดสมัครสมาชิกเพื่อให้ได้ฐานข้อมูลของลูกค้า และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ในการทำแคมเปญหรือโปรโมชั่นต่าง ๆ รวมถึง Loyalty Program ด้วย ทว่าเว็บไซต์ที่ดีควรให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัย และเป็นเป็นส่วนตัวของลูกค้าด้วยเช่นกัน

 

Download

 

ปุ่มที่เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการให้ลูกค้าได้รู้เรื่องราวหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดข้อมูลนำไปศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง จะเหมาะสำหรับธุรกิจที่ข้อมูลเยอะ ๆ เช่น สาย IT หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เป็นต้น

 

Book Now

 


ปุ่มที่มักพบได้บ่อยธุรกิจประเภทโรงแรม ตั๋วเครื่องบินหรือให้บริการ โดยเป็นการสำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้า ลูกค้าสามารถจัดการสั่งจองล่วงหน้าได้ด้วยตนเองหรือจะคลิกคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ประสานงานก็ได้เช่นกัน

 

Call Now

 

ปุ่มสำหรับกดติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ลูกค้าบางคนไม่ชอบการรอคอยหรือลูกค้าไม่สะดวกในการแชทก็จะนิยมโทร ติดต่อและให้เจ้าหน้าที่ประสานงานให้ โดยก่อนเข้าร่วมแชท เว็บไซต์จำเป็นต้องมีระบบที่ให้ลูกค้าที่สนใจกรอกเบอร์โทรศัพท์ไว้เบื้องต้น หรือมีฐานข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว ลดภาระการพิมพ์เบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าออกไปได้ หากบริการให้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังสามารถนำไปสู่การสร้างความประทับใจและปิดการขายได้อีกด้วย

 

Like, Share, Subscribe

 


สำหรับการทำ Call-To-Action สามารถสร้าง Conversion กลับมายังเว็บไซต์ได้ด้วยการตั้งปุ่มไลก์ แชร์ กดติดตามหรือปุ่มส่งข้อความส่วนตัว เพื่อให้ธุรกิจรู้ว่าลูกค้ากำลังสนใจสินค้าหรือบริการของเราอยู่ นำไปสู่การมองเห็นสินค้าหรือบริการของเราในอนาคตอีกด้วย

 

 

 

 ลักษณะปุ่ม Call-To-Actionที่ดี จำเป็นต้อง

ชัดเจน เข้าใจง่าย สะดุดตา และดึงดูดความสนใจได้ดี 

รายละเอียดเพิ่มเติม

 

นอกจากนั้นแล้วยังมีเทคนิคที่สามารถช่วยเพิ่ม Conversion ในกับเว็บไซต์หรือ Social Media ต่างๆ ของธุรกิจได้อีกด้วย

 

1. ทำคอนเทนต์บนเพจ มีคน inbox หรือการกดไลก์ กดแชร์

 

สำหรับการเพิ่ม Conversion ธุรกิจสามารถใช้ Social Media ของตนให้มีประโยชน์ในการส่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สนใจที่มาจาก Facebook Page ให้กดเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ อาจจะใช้การแชร์คอนเทนส์โปรโมชั่นเข้าไปยังหน้าเพจ และให้คนที่สนใจสินค้าหรือบริการกดสอบถามมายังข้อความส่วนตัว โดยสำหรับ Readyplanet มีเครื่องมือที่สามารถบริหารจัดการลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง ช่วยลดอุปสรรคสำคัญอย่างการตอบแชทจากลูกค้า เรียกว่า Chat Center แพลตฟอร์มบริหารแชททุกช่องทางในที่เดียว เป็นฟังก์ชั่นใหม่ของ Chatday สามารถรวบรวมข้อความแชทยอดฮิตจาก

ที่นอกจากจะสามารถพูดคุยกับลูกค้าที่แชทผ่านหน้าเว็บไซต์ได้แล้วนั้น LINE Official Account, Facebook Page มาไว้ที่เดียวกัน ทำให้สามารถบริหารจัดการข้อความแชทได้สะดวกขึ้น และมีประสิทธิภาพ แม้ว่าลูกค้าจะทักมาจากหลากหลายช่องทางก็ตาม อีกทั้งยังมีป้ายกำกับบอกสถานะ ช่วยบันทึกผู้ติดต่อ แะเชื่อมต่อกับ R-CRM  แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยเพื่อส่งรายการติดต่อไปให้กับทีมเซลส์ติดตามลูกค้าต่อได้ทันที

 

2. ทำ SEO Blog Article

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก Readyplanet "จากงานวิจัยพบว่า 71.33% ของการ Search ทำการคลิกผ่าน Organic Results ในหน้าแรก และ 5.59% คลิกไปถึงหน้าที่ 2-3 ในขณะที่โฆษณาได้รับการคลิกเพียง 15% ของผู้ทำการค้นหา ดังนั้นการทำ SEO ให้คีย์เวิร์ดสำคัญ ๆ ของธุรกิจติดอันดับที่ดี จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดการแข่งขันและสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจของคุณเหนือกว่าคู่แข่งได้เป็นอย่างดี"

 

การสร้างบทความดี ๆ สักหนึ่งบทความและใส่คีย์เวิร์ดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเข้าไป สามารถช่วยเพิ่ม Conversion จาก Organic  ได้ ก่อนอื่นขออธิบายพอสังเขปเกี่ยวกับ SEO สักเล็กน้อยให้ได้เข้าใจตรงกันมากยิ่งขึ้น

 

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือ การทำให้เว็บไซต์ของคุณมีทั้งคุณภาพ และประสิทธิภาพในระยะยาว ติดอันดับหน้าแรกหรืออันดับต้น ๆ ใน Google เมื่อลูกค้าค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ยิ่งหมั่นทำ SEO เท่าไหร่ก็จะทำให้คุณติดลำดับต้น ๆ เมื่อกลุ่มเป้าหมายมองเห็นคุณง่ายขึ้นเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้ามายังเว็บไซต์ จนเปลี่ยนเป็นยอดขายได้ในที่สุดด้วย

 

ทว่าไม่ใช่ทุก ๆ ธุรกิจจะประสบความสำเร็จเกี่ยวกับการทำ SEO ดังนั้น Readyplanet จึงมีเครื่องมือที่เรียกว่า Smart SEO แบบยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพ

 

  • ช่วยทำให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น บรรลุวัตถุประสงค์ที่ธุรกิจต้องการได้

 

  • ทำงานแบบ ROI Focused คือการวัดผล Conversions ชัดเจน

 

  • ช่วยให้ติดอันดับ SEO แบบครอบคลุมทุกคีย์เวิร์ด

 

  • มี On-Page Optimization และ Off-Page Optimization

 

รวมถึงมี Social Media Optimization และยังมี Google My Business Optimization อีกด้วย

 

ตัวอย่างผลลัพธ์ Organic Traffic จากการทำ SEO

 

3. Conversion จาก Ads ที่มาจากโฆษณา

 

 

สำหรับธุรกิจที่ต้องการให้ Conversion ตรงจุดนี้ดีขึ้น ดียิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด ขอแนะนำ R-Widget ที่รองรับการทำ Smart Conversion ช่วยให้ธุรกิจได้ลูกค้าที่ตัวจริงขึ้น สามารถเข้าไปดูได้จาก "รายงานและสถิติ" (Report & Stats) ส่วนนี้จะแสดงสถิติของ R-Widget ปุ่มติดต่ออัจฉริยะสำหรับเว็บยุคใหม่ ซึ่งสามารถดูจำนวนการเข้าชมหน้าเว็บไซต์ในแต่ละช่องทาง รวมถึงข้อมูลสถิติแคมเปญโฆษณาหากมีการเชื่อมต่อกับ Google Ads ไว้ได้อีกด้วย

 

นอกจากนั้นยังมี R-CRM ช่วยให้คุณสามารถวัด Conversion การขายจากทีมเซลส์ได้ โดยระบบ R-CRM ใช้เพื่อบริหารงานขายในองค์กรของคุณให้ง่ายขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เมื่อสามารถวัดผลจากทีมขายได้ นำไปสู่การ Make Decision เชิง Data-Driven หรือที่เรียกว่า กลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการใช้ข้อมูล

 

สำหรับการทำ Conversion บนเว็บไซต์ สรุปง่าย ๆ ก็คือ หากธุรกิจทำ Conversion ได้บรรลุเป้าหมาย แสดงว่าธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จในการทำแคมเปญต่าง ๆ ในทางกลับกัน หากธุรกิจไม่สามารถทำให้เกิด Conversion ได้ นั่นก็คือเรียกว่า ‘ความล้มเหลว’ หากไม่ต้องการให้เกิดความล้มเหลวที่ว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ธุรกิจจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับการทำ Conversion ให้มีประสิทธิภาพ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ Conversion บนเว็บไซต์แบบยั่งยืนที่เรียกว่า Smart SEO จาก Readyplanet สามารถช่วยยกระดับคุณภาพเว็บไซต์ในภาพรวม เป็นการทำ SEO วิถีใหม่ เมื่อเว็บไซต์ของธุรกิจคุณ มี SEO ครอบคลุมทุกคีย์เวิร์ด และยังมีประสิทธิภาพแบบยั่งยืน ทำให้ไม่ว่าลูกค้าจะค้นหาคำไหน (ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ) ย่อมเห็นธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน นำไปสู่การเข้าชมเว็บไซต์และโอกาสในการปิดการขายได้ในอนาคตด้วย

 

สำหรับผู้ที่สนใจบริการ SEO วิถีใหม่ ยกระดับคุณภาพเว็บไซต์ในภาพรวม

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่

Updated: 27 April 2021 | Produced by: Ploynaphat Wattanachodjirachai