แนะนำเครื่องมือ Marketing Tech ให้ธุรกิจปรับตัว รับมือได้ทุกวิกฤต
นับตั้งแต่ที่ธุรกิจทุกประเภทถูกผลักให้เข้าสู่ระบบออนไลน์ เพื่อความอยู่รอดในช่วงวิกฤตการณ์โรค COVID-19 ระบาด ที่แทบทุกบริษัทและองค์กรต้องปรับเปลี่ยนทั้งรูปแบบการทำธุรกิจ รวมไปถึงวิถีการทำงานของคนในองค์กรที่ต้องทำงานแบบ Work from Home เป็นต้น และการปรับตัวที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือ การเรียนรู้และรับเอาเทคโนโลยีหรือเครื่องมือดี ๆ อย่าง Marketing Tech มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้การทำการตลาดของธุรกิจมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิมหรือแม้กระทั่งการบริหารทีมขายหรืออำนวยความสะดวกในการทำงานให้พนักงานของคุณเมื่อต้อง Work from Home ได้อีกด้วย
Readyplanet จึงมีเทคนิคดี ๆ ในการใช้ Marketing Tech เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณนำมาปรับใช้ และปรับตัวให้คุณรับมือได้ทุกวิกฤตไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคตก็ตาม
เครื่องมือ Marketing Tech ที่สำคัญ ๆ มีดังนี้
1. ใช้ Marketing Tech ช่วยทำโฆษณาออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
อย่างที่ Readyplanet ได้เคยกล่าวไปในบทความ กลยุทธ์การทำโฆษณาออนไลน์ให้ตรงใจผู้บริโภคปี 2021 (อ่านเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่) ว่ากลยุทธ์ที่จะช่วยให้ ทำโฆษณาออนไลน์ ในปี 2021 นี้มีประสิทธิภาพสำหรับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นนั่นคือ การทำ Multi Channel Marketing เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและพวกเขาพร้อมจะซื้อเลยทันทีในขณะนั้น
“Social media will become a top channel for purchase, instead of just discovery” คุณ Massimiliano Tirocchi, CMO and co-founder Shapermint.com เว็บไซต์ขายเสื้อผ้าแฟชั่นชื่อดังได้กล่าวไว้ในบทความของ Forbes.com ว่าโซเชียลมีเดียจะกลายเป็นช่องทางอันดับต้น ๆ สำหรับการซื้อขาย แทนที่จะเป็นเพียงแค่การค้นพบสินค้าหรือบริการ เช่น Facebook ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถค้นพบสินค้าหรือบริการที่พวกเขาต้องการได้และสามารถนำไปสู่การซื้อได้เลยทันที โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม เป็นการสร้างเส้นทางสู่การซื้อที่ง่าย และโซเชียล คอมเมิร์ซที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2021 นี้ ซึ่งแบรนด์ค้าปลีกจะต้องปรับตัวให้เข้าแพลตฟอร์มเหล่านี้ ด้วยกฎใหม่ ๆ เช่นเดียวกับหลายธุรกิจ
ฉะนั้นการใช้ Social Media อย่าง Facebook เพื่อสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมาย จนนำไปสู่การปิดการขายได้นั้น แน่นอนว่าคุณจะต้องทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads ด้วยนั่นเอง
1.1 การทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Facebook Ads
ก่อนอื่นเลยคือคุณต้องรู้ว่าวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาออนไลน์ในครั้งนั้นคืออะไร? เพราะ Facebook Ads มีวัตถุประสงค์ให้คุณเลือกทำโฆษณาได้ 3 แบบคือ
- Awareness คือ การมุ่นเน้นเพื่อสร้างการรับรู้ของธุรกิจคุณ
- Consideration คือ การมุ่งหาคนที่มีความสนใจในมิติต่าง ๆ เช่น Traffic (หาคนเข้าไปยังช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น) Engagement (หาคนที่สนใจการปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจเรา), Video Views (คนที่สนใจการดูวิดีโอ), Lead Generation (หาคนที่สนใจการให้รายชื่อ), Messages (หาคนที่ชอบ inbox เข้าไปพูดคุยสอบถาม)
- Conversion คือ การมุ่งหาคนที่เคยคลิกสั่งซื้อบนเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Tips: การเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงจะช่วยให้คุณทำโฆษณาออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้จริง และสามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำและตรงจุดมากขึ้น
แล้วควรจะเลือกทำวัตถุประสงค์อะไรดี?
ถ้าคุณคือกลุ่มธุรกิจ B2B เทคนิคที่ Readyplanet เลือกใช้คือ Brand Awareness ควบคู่กับกับ Traffic เพื่อช่วยในเรื่องของการดึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการทำ Retargeting Ads ที่แม่นยำขึ้นในครั้งต่อไป
ส่วนกลุ่มธุรกิจ B2C ที่มีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นการขายและยังไม่มีเว็บไซต์ เราแนะนำให้เลือก Engagement และ Messages โดยไม่มีความจำเป็นต้องทำ Brand Awareness ก็ได้ถ้าแบรนด์หรือธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แต่ถ้าเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เราแนะนำให้ทำ Brand Awareness คู่กันไปด้วยก็จะได้ผลดีกว่า
1.2 การทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Google Ads
การทำ Google Ads นั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์ โดยในปี 2021 นี้ไม่ว่าจะเป็นประเภทธุรกิจแบบ B2B หรือ B2C ก็ควรที่จะมีเว็บไซต์ของตนเองไว้เช่นกัน ซึ่งในกลุ่มธุรกิจ B2C ควรเลือกเว็บไซต์ที่มีระบบ Shop ที่สามารถจัดการใส่สินค้า ระบบตะกร้าสินค้าและระบบการจ่ายเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่เข้ามายังเว็บไซต์สามารถสั่งซื้อสินค้าของคุณได้เลยทันที
แต่สำหรับช่องทางของเว็บไซต์นั้น คล้ายกับการมีหน้าร้านแบบออฟไลน์เพราะเป็นช่องทางที่ไว้คอยตั้งรับและรอให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาเพียงอย่างเดียว ข้อดีสำหรับการมีเว็บไซต์คือ คุณสามารถทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Google Ads ที่ทำได้ทั้งซื้อ Keywords เพื่อให้ลูกค้าของคุณเสิร์ชหาคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ แล้วเจอเว็บไซต์คุณในหน้าแรกของ Google หรือการทำ Google Display Ads ที่จะนำส่งโฆษณาสินค้าของคุณไปแสดงในหน้าเว็บไซต์ที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ Google
1.3 การทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Youtube Ads
อย่างที่ทราบกันดีว่า Youtube เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนไทยเข้าใช้งานมากที่สุดไม่แพ้กับ Facebook Intragram หรือ Line ฉะนั้นการทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Youtube Ads จะช่วยขยายการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมายคุณได้มากขึ้นนั่นเอง โดยการแสดงโฆษณานั้นคุณก็ยังสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายตามอายุ ที่อยู่ ความสนใจและอื่น ๆ
การทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Youtube นั้นมีให้คุณเลือกได้หลายรูปแบบ ทั้ง Display Ads, Overlay in VDO Ads, Trueview in Streams Ads, Trueview in Display Ads, Trueview in Search Ads, Non-Skippable in Streams Ads, Bumper Ads และ Mastheads ซึ่งทั้งหมดนี้เราสามารถแบ่งประเภทของโฆษณาได้ 2 ประเภทก็คือ VDO Ads และ Banner Ads นั่นเอง
1.4 การทำ Retargeting / Remarketing Ads
ข้อได้เปรียบที่ดีของธุรกิจที่มีช่องทางการขายทั้งใน Social Mediaและเว็บไซต์ เพราะสามารถทำ Retargeting Ads ได้โดยการติด Facebook Pixel ไว้ที่เว็บไซต์เพื่อติดตามดูพฤติกรรมของกลุ่มคนที่เข้ามายังเว็บไซต์หรือFacebook ว่าสนใจสินค้าหรือบริการใด ระบบจะส่งโฆษณาสินค้าหรือบริการที่พวกเขาสนใจไปแสดงอีกครั้งบน Facebook หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ
“งานวิจัยจาก comScore และ Value Click Media ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดทั้งหมด 6 วิธี เพื่อค้นหากลยุทธ์ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งปรากฏว่าผลลัพทธ์การทำ Remarketing นั้น ทำให้ยอดผลการค้นหาชื่อของแบรนด์เพิ่มขึ้นถึง 1,046%”
ถ้าไม่มีเว็บไซต์ทำ Retargeting / Remarketing Ads ได้ไหม ?
คำตอบก็คือ ได้! แต่อาจจะยุ่งยากมากขึ้นมากขึ้นนิดหน่อย โดยการทำ Custom Audience ผ่าน Facebook Ads ซึ่งคุณจะต้อง Retargeting ได้จากกลุ่มคนที่เคยเข้ามา Enggage บน Facebook Page ทั้งคนที่เข้ามาคอมเม้นต์, ดู VDO Content ต่าง ๆ เป็นต้น
Tips: ในปี 2021 นี้ทุกธุรกิจไม่ว่าจะเป็นประเภทธุรกิจแบบ B2B หรือ B2C ก็ควรเพิ่มช่องทางการรับรู้ของแบรนด์คุณให้ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Social หรือ Media Website ก็ตาม และเพื่อช่วยส่งเสริมให้การทำโฆษณาออนไลน์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Readyplanet ขอแนะนำ AdPro Dynamic บริการรับทำโฆษณาออนไลน์ ที่ประสานระหว่างความเชี่ยวชาญของผู้ชำนาญการกว่า 10ปี ในการทำโฆษณาออนไลน์ ที่จะช่วยคุณวางกลยุทธ์การทำโฆษณาได้ตรงจุด ครอบคลุมทุกช่องทาง และเทคโนโลยี AI ที่เป็น Marketing Tech จาก Readyplanet อย่าง R-Dynamic ระบบโฆษณา Dynamic Retargeting เครื่องมือสร้างโฆษณาติดตามแบบอัตโนมัติ ที่แตกต่างแต่ส่งถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างอย่างตรงใจ
2. ใช้ Readyplanet Marketing Platform ช่วยให้ธุรกิจคุณ Go Online ได้ครอบคลุมแบบเต็มประสิทธิภาพ
อันดับแรกเลย Readyplanet ขออธิบายก่อนว่า Readyplanet Marketing Platform คือ แพลตฟอร์มการขายและการตลาดแบบ All-in-One ที่ไว้ทั้งการทำโฆษณาออนไลน์ เว็บไซต์และระบบลูกค้าสัมพันธ์อย่าง CRM ไว้ให้คุณสามารถจัดการได้ในแพลตฟอร์มเดียว
Readyplanet Marketing Platform ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณอย่างไร?
เพราะอย่างที่เจ้าของธุรกิจหรือเหล่านักการตลาดทั้งหลายทราบดีว่า การจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์ได้นั้น การเข้าใจลูกค้าให้ครบทุกมิติถือเป็นเรื่องสำคัญ ทั้ง Customer Journey หรือพฤติกรรมของลูกค้าตั้งแต่ Top-of-Funnel ไปจนถึง Bottom of Marketing Funnel จึงเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจออนไลน์ให้ความสำคัญ
Readyplanet จึงพัฒนา Readyplanet Marketing Platform ที่ตอบโจทย์ธุรกิจและครอบคลุมทุกช่องทาง เพื่อการเข้าถึงทุกช่องของ Marketing Funnel ในการซื้อสินค้าของลูกค้า ทั้งการทำโฆษณาออนไลน์ ช่องทางการสั่งซื้อสินค้าอย่างเว็บไซต์ หรือ CRM ที่เป็นระบบลูกค้าสัมพันธ์ โดยแต่ละเครื่องมือที่มีอยู่ใน Readyplanet Marketing Platform มีดังนี้
2.1 R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์
ที่ตอบโจทย์ทุกคุณสมบัติการใช้งานเว็บไซต์แบบครบวงจร ทั้งรองรับการทำ SEO บนเว็บไซต์, Responsive Website ที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ โดยการแสดงรูปแบบของหน้าเว็บไซต์จะถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ ที่สำคัญคือเป็นเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัยสูง เพราะได้รับการรองรับ SSL (HTTPS) ที่มีเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่ถูกพัฒนาขึ้นตามมาตรฐาน ISO 27001:2013 ซึ่งความปลอดภัยระดับโลก คุณจะมั่นใจได้ว่าทุก ๆ ข้อมูลของคุณและลูกค้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
2.2 R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์
คุณสามารถบริหารจัดการข้อมูลสินค้าได้ทั้ง รูปสินค้า ข้อมูลสินค้า รวมถึงสต็อกสินค้าระบบการจ่ายเงิน และระบบ Order Management ช่วยให้สามารถจัดการรายการสั่งซื้อได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดย R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ สามารถเชื่อมต่อกับ R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ได้เลย
2.3 R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย
ที่เป็นมากกว่าระบบลูกค้าสัมพันธ์ เพราะคุณสามารถใช้ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ที่คุณสามารถบริหารทีมขายของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา ยิ่งในช่วงที่หลายบริษัทที่อยู่ในหรือใกล้พื้นที่เสี่ยงโรคระบาดต้อง Work From Home เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณ (ทั้งที่เป็นเจ้าของธุรกิจและหัวหน้าทีมขาย) สามารถดูการทำงานของทีมขายได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถประเมินศักยภาพทีมขายได้อีกด้วย
“TDRI (สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย) เผยผลกระทบคนทำงาน Work From Home ช่วงล็อคดาวน์ ผลดีตกกับพนักงานกลุ่มตัวอย่าง 80% อีกทั้งยังช่วยให้ค่าใช้จ่ายลดลง” - ที่มา : บทความวิจัย Work From Home สร้างชีวิตสมดุลขึ้นคนทำงาน
นอกจากนั้น R-CRM ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การทำงานของทีมขายง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การ Work From Home สะดวก เพราะสามารถสร้างทั้ง Quotation และ Invoice ให้ลูกค้าได้ทันทีที่บ้าน อีกทั้งยังมีระบบ Documents ที่ช่วยรวบรวมเอกสารสำคัญไว้ที่ศูนย์กลาง ช่วยให้พนักงานขายทุกคนสามารถเข้ามาใช้งานเอกสารต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางเข้าออฟฟิศเพื่อไปหาเอกสารสำคัญอีกต่อไป
2.4 R-Widget ปุ่มติดต่ออัจฉริยะสำหรับเว็บยุคใหม่
เพราะการติดต่อสื่อสารระหว่างคุณกับลูกค้าที่รวดเร็วผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญมาก โดย R-Widget ปุ่มติดต่ออัจฉริยะสำหรับเว็บยุคใหม่ สามารถติดตั้งง่ายบนเว็บไซต์ โดยเพิ่มปุ่มติดต่อช่องทางต่าง ๆ ทั้ง Facebok , Line, โทรศัพท์ หรือติดตั้ง Map สำหรับบอกตำแหน่งที่ตั้งสำนักงานของคุณได้อีกด้วย
ที่พิเศษสุดสำหรับการทำโฆษณาออนไลน์และการวิเคราะห์ Customer Journey ก็คือสามารถเชื่อมต่อกับ Google Ads และดูข้อมูลรายงานสถิติต่าง ๆ ของ Widget ว่าเมื่อลูกค้าเข้ามายังเว็บไซต์แล้วไปที่ช่องทางไหนต่อไปได้ ซึ่งข่้อมูลตรงนี้ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดช่องทางอื่น ๆ ในธุรกิจได้ เช่น เมื่อจำนวนลูกค้าที่เข้ามายังเว็บไซต์ แล้วคลิกเลือกไป Facebook Page ต่อคุณอาจจะต้องเพิ่ม Content เพื่ออธิบายข้อมูลต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเตรียม admin เพื่อตอบคำถามลูกค้าเพิ่มเติม เป็นต้น
2.5 PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร
เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า โดยการรับแต้มผ่าน SMS โดยไม่ต้องใช้บัตรใด ๆ ยิ่งในยุคที่ทุกคนระวังตัวเรื่องการสัมผัสกับคน PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ถือเป็นเครื่องมือที่ดี เพราะเพียงแค่ให้ลูกค้าแจ้งเบอร์โทรศัพท์ ก็สามารถรับแต้ม, เช็คแต้มหรือแลกของรางวัลได้เลย
3. ใช้เครื่องมือของ Google อย่าง Google Trend และ Google Keywords Planner เพื่อช่วยวางทิศทางการวางโฆษณาและคู่แข่งในตลาด
3.1 Google Trend
คือเครื่องมือของ Google ที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มการค้นหาคำต่าง ๆ ผ่าน Google Search โดยข้อมูลจะแสดงออกมาเป็นเส้นกราฟขึ้นลงตามปริมาณาการค้นหาในแต่ละช่วงเวลา จุดสูงสุดของกราฟจะหมายถึงช่วงที่มีปริมาณการค้นหามากที่สุด ซึ่งการใช้เครื่องมือ Google Trend นี้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจของคุณ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจของคุณขายเสื้อผ้าแฟชั่นและกำลังจะทำโฆษณาออนไลน์ ผ่าน Google Search แต่ลังเลว่าจะใช้คีย์เวิร์คระหว่างเสื้อผ้าแฟชั่นกับเสื้อแฟชั่น คุณอาจจะใช้ Google Trend นี้เสิร์ชเพื่อดูแนวโน้มการเสิร์ชดูก่อน เป็นต้น
3.2 Google Keywords Planner
เครื่องมือที่เอาไว้ตรวจสอบว่า Keyword แต่ละคำ มีคนค้นหาต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ เพื่อทราบว่ามีคนต้องการสินค้าหรือประเภทนี้มากขนาดไหน รวมถึงราคาคำต่อคลิกอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ โดย Google สร้างเครื่องมือนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้ผู้ที่ลงโฆษณา Google Ads สามารถวางแผนการลงโฆษณาของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
ข้อมูลที่คุณได้จาก 2 เครื่องมือจะช่วยให้คุณวางแผนการทำโฆษณาออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเมื่อคุณได้ Keyword ที่ใช่แล้วบังสามารถทำไปวางแผนการทำ SEO บนเว็บไซต์เพื่อช่วยให้การทำโฆษณาของ Google Search ได้ผลดียิ่งขึ้นอีกด้วย
4. LINE OA
Line OA หรือ Line Official Account นั้นนับเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างคุณกับลูกค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง ที่คุณสามารถพูดคุยโต้ตอบข้อมูลกับลูกค้าได้ อีกทั้งสามารถเป็นช่องทางที่คุณจะโปรโมทสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ โปรโมชั่นหรือสินค้าใหม่ที่น่าสนใจให้แก่กลุ่มลูกค้าของคุณได้ด้วยวิธีการ Boardcast ข้อความไปยังกลุ่มคนที่เข้ามา Add Line Official Account ของคุณ
นอกจากนั้น Official Account ยังสมารถดีไซน์ Rich Menu ที่ลูกค้าสามารถเลือกคลิกเพื่อไปยังเว็บไซต์ของคุณ หรือแม้กระทั่งการตั้งค่าเป็นคำตอบอัตโนมัติได้อีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก https://lineforbusiness.com/
5. Google My Business สร้างร้านค้าให้น่าเชื่อถือ และปรากฎธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ของคุณบน Google Maps ได้
Google My Business คือ เครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณแสดงผลบน Google Maps ได้ โดยคุณสามารถสร้างโปรไฟล์สำหรับร้านค้าออนไลน์หรือธุรกิจของคุณ ซึ่งจะช่วยเรื่องการแสดงผลการค้นหาได้ทั้งข้อมูลธุรกิจของคุณ คำอธิบายสินค้าและบริการ ช่องทางติดต่อ สถานที่ตั้งผ่าน Google Search และ Google Map ได้แบบฟรี ๆ อีกทั้งลูกค้ายังสามารถดูรีวิวร้านค้าของคุณได้อีกด้วย
สำหรับธุรกิจประเภทอาหารหรือเครื่องดื่ม Google My Business ถือเป็นเครื่องมือที่สำหรับธุรกิจของคุณในยุคนี้เลยทีเดียว เพราะนอกจากลูกค้าจะได้รู้ว่ามีสาขาที่ไหนบ้างแล้ว ยังสามารถเลือกสั่งออนไลน์ในสาขาที่ใกล้บ้านของลูกค้าได้อีกด้วย สามารถศึกษาวิธีที่การสมัคร Google My Business อย่างละเอียดได้โดย คลิกที่นี่
6. เข้าร่วมแพลตฟอร์มของ Food Delivery ผ่านแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ
ในช่วงที่โควิดระบาดครั้งแรกในปี 2563 นั้น ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เปิดร้านอยู่ในแพลตฟอร์มของ Food Delivery ผ่านแอพพลิเคชั่น เช่น Line Man, Grab Food, Panda นั้นมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะทุกคนที่อยู่บ้านกักตัวหรือแม้กระทั่งการ Work From Home ต้องหันมาอาศัยการสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่นกันอย่างมากมาย
“ทั้งปี 2563 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จำนวนครั้งของการจัดส่งอาหารจะมีการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 78.0-84.0 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
อย่างในปี 2564 นี้ก็เช่นกัน เราเริ่มเห็นผู้เล่นรายใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่าง Robinhood ของ SCB หรือ Gojek ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพจากอินโดนีเซียและ Get แอพพลิเคชั่นสั่งอาหารเจ้าเก่าในไทย หรือแม้กระทั่งเหล่าซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำต่าง ๆ ก็เริ่มทำระบบ Delivery ผ่านแอพพลิเคชั่นให้เห็นกันอยู่บ้างแล้ว และหากคุณกำลังทำธุรกิจร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ก็ไมีควรที่จะพลาดการเข้าร่วม Food Delivery ผ่านแอพพลิเคชั่นให้หลากหลาย เพื่อเพิ่มโอกาสการขายของคุณให้มากขึ้นเช่นกัน
และทั้งหมดนี้คือ แนวทางการใช้ Marketing Tech ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจของคุณยังสามารถก้าวต่อไปได้ในยุคที่ทั้งเศรษฐกิจและโรคระบาดกำลังทำร้ายทุกคนอย่างหนักหน่วง แต่ถึงอย่างนั้น หากคุณคอยปรับปรุงพัฒนาธุรกิจของตนเองให้ก้าวทันโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลาแล้วล่ะก็ แม้ว่าจะมีกี่วิกฤตผ่านมาเข้ามา Readyplanet ก็เชื่อว่าคุณผ่านมันไปได้แน่นอน
Readyplanet Marketing Platform
แพลตฟอร์มการขายและการตลาดแบบ All-in-One ที่ครอบคลุมทั้งการโฆษณา เว็บไซต์ และระบบลูกค้าสัมพันธ์
ลงทะเบียนและเริ่มใช้ฟรี
Updated: 02 February 2021 | Produced by: Dujnapa Chauthamcharoen