ระบบ R-CRM ช่วยบริหารลูกน้องในทีมขายได้อย่างไร

สำหรับ Readyplanet มีเครื่องมือ CRM ที่จะช่วยอำนวยประโยชน์ให้กับทั้งเจ้าของธุรกิจ หัวหน้าทีมขายให้บริหารจัดการงานขาย ทีมขายได้ดีขึ้น และช่วยให้พนักงานขายในทีมทำงานได้ง่ายขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยตรวจสอบ Lead Source แหล่งที่มาของแต่ละรายชื่อลูกค้าได้ อีกทั้งยังช่วยติดตาม Sales Pipeline นำไปคาดการณ์ผลการขายในอนาคตได้อย่างแม่นยำ วัดผลได้จริง

ตอบโจทย์สำหรับบริษัทที่มีสินค้าหรือบริการเพื่อนำเสนอขาย และทำโฆษณาออนไลน์ อีกทั้งลูกค้าต้องใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการพอสมควร เราจึงได้พัฒนาเครื่องมือที่เรียกว่า R-CRM แพลตฟอร์มบริหารงานขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย

R-CRM  ของ Readyplanet ช่วยระบบบริหารทีมขายอย่างไรบ้าง?

ปัญหางานขายแบบเดิม ๆ ยุ่งยากและวัดผลไม่ได้ สำหรับข้อนี้ ถามพนักงานขาย 100 คนก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจริงที่สุด! ปัญหาความยุ่งยากในการจัดเก็บข้อมูล และจดจำข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้าในแต่ละวันกับระบบแบบเดิม ๆ

1. พนักงานขายใส่ข้อมูลผ่าน Spreadsheet อัปเดตยาก 

สำหรับทีมขายแล้ว ข้อมูลของลูกค้าถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเก็บรักษา การเก็บข้อมูลแบบเก่า ๆ ที่เคยทำมาเช่น การใส่ข้อมูลผ่าน Spreadsheet สามารถทำได้ดีและรวดเร็วกว่าการจดบันทึกลงกระดาษสมุดก็จริง แต่ก็ถือว่ายังไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ เพราะหลังจากที่ทีมขายทำงานเสร็จในแต่ละวัน เมื่อถึงวันถัดไปก็จะต้องตามอัพเดทว่าตนทำงานไปถึงขั้นตอนไหนแล้วอีกครั้ง ทำให้เสียเวลา หากไม่มีการเขียนหรือท่องจำเอาไว้ ก็อาจจะทำให้พลาดสิ่งที่ต้องทำได้ 

สำหรับ R-CRM มีฟีเจอร์ WORKSPACE ช่วยในการบริหารจัดการ และติดตามการขายของลูกค้าในแต่ละขั้นตอนได้ทุกวัน ช่วยลดเวลาในการตามอัพเดทลูกค้าเป็นรายบุคคล ง่ายต่อการติดตามข้อมูลและทำให้ทีมขายเริ่มทำงานในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

2. เอกสารสำคัญ ๆ ทางการขายของพนักงานขาย อัปเดตไม่ตรงกันหรือถูกจัดเก็บไว้กันคนละที่

แน่นอนว่าฝ่ายขายของแต่ละทีมจะมีข้อมูลสำคัญ ๆ หรือเอกสารทางการขายที่มีมากพอสมควร ที่จะมาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายขาย ซึ่งการอัปเดตเอกสารแต่ละครั้ง สมาชิกในทีมขายอาจจะต้องคอยประสานงานให้ข้อมูลซึ่งกันและกันตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้พนักงานขายขาดการประสานงานที่ดีพอ เกิดการทำงานที่ซ้ำซ้อนและเสียเวลาได้ หรือเอกสารของพนักงานขายแต่ละคนอาจจะมีเอกสารที่อัปเดตไม่เหมือนกัน ดังนั้นระบบ R-CRM จะเข้ามาช่วยเก็บเอกสารสำคัญเหล่านี้เข้ามาไว้ที่ส่วนกลาง ที่สามารถเผยแพร่ให้ทุกคนในทีมได้รับรู้ได้ และพร้อมหยิบมาใช้งานได้ตลอดเวลา

สำหรับ R-CRM มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า DOCUMENTS ใช้เป็นตัวกลางในการรวมทุกเอกสารสำคัญสำหรับส่งให้ลูกค้าไว้ที่ศูนย์กลาง สะดวกกับสมาชิกในทีมและสามารถหยิบใช้ได้ง่าย

3. ระบบบริหารจัดการผู้ใช้งานของพนักงานแต่ละคน

โดยปกติแล้วการจะเข้าถึงข้อมูล หรือระบบบริหารจัดการเครื่องมือต่าง ๆ ของบริษัทใด ๆ มักจะใช้ User เดียวกัน และแชร์การ Login ด้วยกันหมด แต่ปัญหาของการใข้ User เดียวกันนั้น อาจเกิดขึ้นได้ เช่น พนักงานบางคนได้เข้ามาแก้ไขข้อมูลสำคัญ ๆ ไป หรือข้อมูลบางส่วนได้ถูกลบไป เราจึงมีฟีเจอร์ USER MANAGEMENT มาจัดการหรือจำกัดการให้สิทธิ์พนักงานแต่ละคนเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ๆ 

R-CRM จึงมาพร้อมกับฟีเจอร์ USER MANAGEMENT ใช้สำหรับบริหารจัดการผู้ใช้งาน เพิ่มผู้ใช้ใหม่ ลบพนักงานที่ลาออก รวมถึงการให้สิทธิ์การเข้าถึงระบบต่าง ๆ ของผู้ใช้งานแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น บริษัทของคุณมีพนักงานผู้ใช้งาน 10 คน เจ้าของธุรกิจต้องการให้นาย B มาเป็น Admin ดูแลระบบบริหารทีมขาย และให้นาย F มาเป็น Admin ในการตอบแชท เป็นต้น ซึ่งเท่ากับว่าพนักงานขายทุกคนไม่สามารถเป็น Admin เท่ากันได้ 

4. ข้อความสำคัญที่จดลงกระดาษหายไประหว่างพูดคุยโทรศัพท์กับลูกค้า จำไม่ได้ว่าคุยกับลูกค้าคนไหน และเคสไหน 

ในส่วนของทีมขายนั้นที่ต้องโทรศัพท์พูดคุยกับลูกค้าแทบตลอดเวลานั้น มักจะเกิดปัญหาเมื่อจดข้อความสำคัญที่คุยกับลูกค้าลงกระดาษ แต่พอคุยเสร็จดันจำไม่ได้ว่าเป็นของลูกค้าคนไหน หรือเคสไหน หรือตอนแรกยังไม่ลืม แต่พอผ่านไปครึ่งวันคุยกับลูกค้าหลายสิบคนที่เคยจำ ๆ ได้ก็ลืมไปซะหมด! ร้ายแรงกว่านั้นคือกระดาษที่จดดันหายไป 

เราจึงมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า NOTE ที่ความหมายตรงตัว ที่จะกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการจดบันทึกรายละเอียดสำคัญทุกครั้งที่ติดต่อลูกค้า เมื่อทีมขายไม่ลืมสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ก็จะสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในครั้งถัดไปได้ 

5. การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าของพนักงานของคุณแต่ละคนไม่ไปในแนวทางเดียวกัน 

สำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์และสื่อสารสิ่งที่ต้องการนำเสนอออกไปยังลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักและชื่นชอบสินค้าหรือบริการ จนนำไปถึงขั้นตอนการซื้อขายนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ภายในทีมขายจะต้องเข้าใจทิศทางที่จะสื่อสารออกไปให้ตรงกัน เพื่อนำไปเสนอหรือพูดคุยกับลูกค้า ยิ่งหากเป็นธุรกิจที่มีทีมขายมากกว่า 1 ทีม และมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการนำเสนอแตกต่างกัน การนำเสนอย่อมไม่เหมือนกัน ทว่ายังคงต้องอยู่ในทิศทางภาพรวมเดียวกันของธุรกิจ

ฟีเจอร์ TEAMS จะช่วยทำให้หัวหน้าทีมขายเข้ามาดูแลการทำงานของลูกทีมได้ดีขึ้น มองเห็นภาพรวมว่าการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าของลูกน้องในทีมเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพียงใด

6. การส่ง Lead เข้าระบบ และติดตามการขายของลูกค้าแต่ละรายได้ทันที โดยไม่ต้องรอ Import เอง 

ระบบ R-CRM ของ Readyplanet มีฟีเจอร์รองรับการเชื่อมต่อบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อส่งรายชื่อลูกค้า และข้อมูลที่กรอกไว้เข้ามาในระบบ เช่น

WEBSITE INTERGRATION รองรับการเชื่อมต่อกับแบบฟอร์มบนเว็บไซต์เพื่อส่งรายชื่อลูกค้าและข้อมูลที่กรอกไว้เข้ามายัง R-CRM

DIGITAL ADS INTERGRATION รองรับการทำ Lead Generation บน Facebook เพื่อส่งรายชื่อลูกค้า และข้อมูลที่กรอกไว้เข้ามายัง R-CRM

ฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทีมขายในการติดต่อกลับไปยัง Lead  เพื่อเสนอขายและให้ข้อมูลสินค้า และขับเคลื่อนให้การขายทะลุเป้าที่ตั้งเอาไว้ อีกทั้งเมื่อรายชื่อเข้าสู่ระบบ R-CRM ทีมขายมีการอัปเดทข้อมูลว่าได้พูดถึงกับลูกค้ารายนั้น ๆ ผ่านระบบไว้อย่างชัดเจน จะช่วยลดปัญหาการติดต่อลูกค้าซ้ำกันกับคนในทีมได้

CRM จะเข้ามาช่วยบริหารหัวหน้าทีมขายได้อย่างไร

ระบบ CRM ที่ดี จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การบริหารทีมขาย และจัดการ Sales Pipeline ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามการทำงานโดยภาพรวมของทีม และรายบุคคลได้ มีสถิติข้อมูลชัดเจน ทำให้สามารถคาดเดามูลค่าของยอดขายที่คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในเดือนนี้ได้

1. วัดจำนวน Lead ลูกค้าของพนักงานขายแต่ละคนได้ ว่าทีมขายสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่

ในส่วนของหัวหน้าทีมขาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับรู้ภาพรวม และความเคลื่อนไหวทั้งหมดของพนักงานขายแต่ละคน สำหรับ R-CRM ของ Readyplanet มีฟีเจอร์ R-Insight ที่ช่วยเก็บข้อมูล และสถิติต่าง ๆ ที่เข้ามาในระบบ โดยแบ่งหมวดหมู่ออกมาให้เรียกใช้งานได้ง่าย หนึ่งในนั้นคือ ฟีเจอร์เมนู รายงานและสถิติ - Pipeline โดยหัวหน้าทีมขายสามารถเข้าไปดูสถิติ Lead ที่เข้ามาในระบบทั้งหมดและสามารถติดตาม Lead ในแต่ละขั้นตอนได้ โดยสามารถเลือกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ว่าพนักงานขายแต่ละคนมีจำนวน Lead เท่าไหร่ รวมไปถึงหากหัวหน้าทีมขายมีทีมมากกว่าหนึ่งก็สามารถกดเลือกดูข้อมูลเป็นรายทีมที่ต้องการได้เช่นกัน

2. ช่วยในการทำความเข้าใจกระบวนการขายของพนักงานขายว่าอยู่ระหว่างสถานะไหนของการขาย 

ในฟีเจอร์ R-Insight มีหมวดสำหรับ การใช้งาน (Activities) ที่บอกถึงสถิติ Lead ที่ถูกดำเนินการ (Actioned Leads) ประกอบด้วย

• Lead ที่ถูกดำเนินการในแต่ละวัน (Daily Actioned Leads) เก็บสถิติรายการ Lead ที่ติดตามและบันทึกในหน้าข้อมูลของ Lead

• Lead ที่ถูกส่งแต่ในแต่ละวัน (Daily Forwarded Leads) แสดงจำนวน Lead ที่มีการส่งไปยังพนักงานหรือทีมขายคนอื่น ๆ ในแอคเคาท์ R-CRM เดียวกัน

จากข้อมูลนี้ ทำให้หัวหน้าทีมขาย สามารถเข้าไปเช็คว่าพนักงานงานภายในทีม มีการติดต่อ Lead ในแต่ละวันอย่างไรบ้าง

3. ช่วยรักษาฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีจำนวนมาก และสามารถค้นหาลูกค้าเก่าได้ง่าย 

เนื่องจากทุกข้อมูลที่ติดต่อหรือลงบันทึกของลูกค้า จะถูกนำเข้ามาในระบบ R-CRM ทำให้ทุก ๆ ข้อมูลกลายเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญ และต่อให้มีจำนวนมากเพียงใด ด้วยระบบที่จำแนกเป็นระเบียบ ย่อมอำนวยความสะดวกให้เรียกหรือค้นหาข้อมูลลูกค้าเก่าได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์ ข้อมูลสถิติ Lead Conversions ในแต่ละวัน (Daily Lead Conversions) โดยสามารถเลือกดู Lead Conversions ในแต่ละวัน ที่เกิดขึ้นตามช่วงวันและเวลาตามที่ต้องการ อีกทั้งยังเลือกดูภาพรวม หรือเลือกดูเฉพาะสถิติที่ต้องการได้อีกด้วย

4. สามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายเพื่อกำหนดเป้าหมายฐานลูกค้าที่คล้ายคลึงกันได้ 

สำหรับ R-CRM เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี ที่ช่วยเรื่อง Pipeline Management และจัดการ Sales Pipeline ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีระบบที่ช่วยเก็บข้อมูล สถิติและวิเคราะห์จำแนกฐานข้อมูลของลูกค้าไว้อย่างเป็นระเบียบ เรียกใช้ได้ง่ายแล้ว ย่อมทำให้หัวหน้าทีมขายสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ไปกำหนดและวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายได้ เช่น การกำหนดเป้าหมายฐานลูกค้าที่คล้ายคลึงกันจากยอดขาย โดยสามารถแบ่งได้ทั้งหมด 4 แบบ

4.1 ยอดขายแบ่งตามผู้ใช้ (Sales by User)

4.2 ยอดขายแบ่งตามสินค้า (Sales by Product)

4.3 ยอดขายแบ่งตามแหล่งที่มา (Sales by Source)

4.4 ยอดขายในแต่ละเดือน (Monthly Sales)

หัวหน้าทีมสามารถเลือกใช้สถิติที่มีแนวโน้มที่จะเกิดผลลัพท์ที่ดีที่สุดมาวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายได้

5. การกระจายรายชื่อลูกค้าจากพนักงานที่ลาออกเคยดูแลไว้ ให้คนอื่นได้ง่าย 

หนึ่งในฟีเจอร์อย่าง Lead Transfer ถือเป็นฟีเจอร์ที่หัวหน้าทีมขายจะต้องชื่นชอบเป็นพิเศษอย่างแน่นอน เพราะเมื่อมีพนักงานลาออก ข้อมูลที่อยู่กับพนักงานคนดังกล่าว จะถูกกระจายและถ่ายโอนไปยังพนักงานขายในทีมคนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย และครบถ้วนอีกด้วย 

CRM เข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานขายอย่างไร

การต้องทำหลายอย่างไปพร้อม ๆ กัน และหลายอย่างที่ต้องทำยุ่งยาก ไม่เป็นระบบ อีกทั้งยังเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อาจทำให้พนักงานขายถูกลดทอนขีดความสามารถไปจากที่ควรจะเป็น R-CRM จึงถือเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลดเครื่องมือ จัดการทุกอย่างได้ในที่เดียว 

ราบรื่นด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกครบครัน จัดการงานขายได้ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่เปิดลูกค้าใหม่ บันทึกข้อความสำคัญ สร้างและส่งใบเสนอราคา ตั้งแจ้งเตือนการติดต่อครั้งต่อไป ติดตามรายการขาย ปิดการขาย และสานสัมพันธ์ที่ดีจนนำไปสู่การสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง ด้วยฟีเจอร์ของ R-CRM ที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็น WORKSPACE ช่วยบริหารจัดการและติดตามการขายในแต่ละขั้นตอน

LABELS ช่วยจำแนกประเภทและลำดับความสำคัญของแต่ละรายการขาย

สร้าง QUATATION / INVOICE พร้อมส่งให้กับลูกค้าได้อย่างง่ายดาย

กันหลงลืมสิ่งสำคัญที่ต้องทำด้วย และ REMINDER ตั้งวันที่ และเวลาแจ้งเตือนสำหรับการติดต่อลูกค้าในครั้งถัดไป 

ฟีเจอร์ NOTE ค้นหาข้อมูลที่จดบันทึกไว้ง่าย คุยกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น ตัวช่วยจดบันทึกรายละเอียดสำคัญทุกครั้งที่ติดต่อลูกค้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไปที่ติดต่อกับลูกค้าอีกครั้ง

ฟีเจอร์ EMAIL แจ้งเตือนเมื่อลูกค้าเปิดอ่านอีเมล ปิดการขายได้ฉับไวขึ้น ไม่ต้องรออย่างไม่มีจุดหมายว่าเมื่อไหร่ลูกค้าถึงจะเปิดอีเมลอ่าน เพราะ R-CRM มีฟีเจอร์ที่ช่วยแจ้งเตือนว่าลูกค้าได้เปิดอีเมลอ่านแล้ว ช่วยให้พนักงานสามารถโทรฯ ไปติดตามงานขายได้ง่ายดายและรวดเร็วขึ้น

ลดเวลาในการทำรายงานส่งหัวหน้า

ด้วยงานที่เต็มแน่นตาราง การต้องคอยส่งรายงานความคืบหน้าต่าง ๆ อยู่ตลอดให้กับหัวหน้าทีมขาย อาจทำให้เสียเวลามากกว่าที่ควร ดังนั้น R-CRM จึงมีฟีเจอร์รายงานสถิติสำคัญ ที่จะช่วยวางกลยุทธ์ได้ง่าย โดยสามารถเชื่อมต่อกับ R-Insights เพื่อให้ผู้บริหาร และหัวหน้าทีมขายเข้าไปดูสถิติสําคัญต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

ไม่ต้องนับ 1 ใหม่ทุกวัน สามารถเริ่มต้นวันด้วยการทำงานได้ทันที   

คงเป็นเรื่องน่าปวดหัว และลดทอนเวลาทำงานในแต่ละวันไปเยอะ หากจะต้องมาคอยไล่ทวนในทุก ๆ เช้าว่าเมื่อวานทำอะไรไปบ้าง หรือต้องติดต่อลูกค้าคนไหนบ้างในวันนี้ R-CRM ของ Readyplanet มีฟีเจอร์ที่ช่วยแจ้งเตือน จดบันทึกและจำแนกการติดตามงานขายต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำและชัดเจน ทำให้สามารถเริ่มต้นงานใหม่ได้อย่างรวดเร็วขึ้น

สำหรับ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารงานขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ผ่าน Browser ทั้งบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ทำให้คล่องตัว ใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าอยู่ในออฟฟิศหรือนอกสถานที่ก็สามารถเรียกใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้รับการับรองมาตรฐานความปลอดภัย IT Security ISO 27001:2013 อีกด้วย

คราวนี้ไม่ว่าจะบริหารจัดการลูกค้า งานขาย และการตลาด R-CRM พร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็สามารถตอบโจทย์กับทุกองค์กรและภาคธุรกิจ ลดความยุ่งยากของทีมขายในแต่ละวัน และเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างยิ่งยวด เป็นระบบที่วัดผลได้ มีสถิติสำคัญต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าทีมขายนำไปจัดการ Pipeline Management  เพื่อให้มองเห็น Sales Pipeline แบบเป็นขั้นตอน เพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมองเห็นภาพรวมอีกว่าต้องปรับหรือวางแผนกลยุทธ์ไปทิศทางใดจึงจะได้ยอดขายที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

R-CRM หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของ Readyplanet Marketing Platform 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี