7 Tips น่ารู้ Digital Marketing 2019

By ReadyPlanet  |  Category: Digital Marketing |  On May 10, 2019  |  [7 MIN READ]

ในปี 2019 นี้ หากพูดถึงการทำการตลาด คงต้องเอ่ยถึงการตลาดออนไลน์ หรือการตลาดดิจิทัลที่มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามยุคสมัยอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัล วันนี้เรดดี้แพลนเน็ต จึงได้รวบรวม 7 Tips น่ารู้ ด้าน Digital Marketing 2019 สำหรับผู้ประกอบการไทย จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย!

Tip #1 - แบรนด์มุ่งมายังแพลตฟอร์ม “อีคอมเมิร์ซ”

 
 
ตัวอย่างเว็บไซต์ E-Commerce ที่สร้างด้วย เว็บไซต์สำเร็จรูป VelaEasy
 
 
     แม้การทำ “อีคอมเมิร์ซ” จะยังไม่ได้สร้างผลกำไรให้แก่องค์กรธุรกิจในวันนี้ แต่ “ต้องทำ” เพราะถ้าไม่ทำ แต่คู่แข่งทำ ก็เท่ากับว่าโอกาสในการขายของแบรนด์เราได้ไปตกอยู่กับคู่แข่ง ดังนั้นประเด็นหลักสำคัญสำหรับนักการตลาดและนักโฆษณาในยุคนี้คือต้องตอบโจทย์ให้ได้ ทั้งด้าน Effectiveness และ Efficiency โดยมีเป้าหมายใหญ่ คือ “Profitability” หรือความสามารถในการสร้างผลกำไร และเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยเสริมทัพให้ถึงเป้าหมายดังกล่าวได้ในโลกออนไลน์ก็คงหนีไม่พ้นเว็บไซต์ e-commerce นั่นเอง ซึ่งการทำเว็บขายสินค้าออนไลน์ในปัจจุบันไม่ยากเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป แทนที่จะเสียเวลาหลาย ๆ เดือน ในการพัฒนาหรือเขียนเว็บไซต์ด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้แพลตฟอร์มอย่าง "เว็บไซต์สำเร็จรูป" ในการสร้างเว็บไซต์ได้ ช่วยให้ประหยัดเวลา และบริหารจัดการได้ง่ายกว่า

 
Tip #2 - ใช้ Influencer Marketing ช่วยโปรโมทแบรนด์
 
 
     ต้องยอมรับว่าการใช้ Influencer กับการตลาดในยุคนี้เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้กลุ่มลูกค้าเกิดการรับรู้หรือนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการนั้น ๆ แต่สิ่งที่ตามมาคือ หลาย ๆ แบรนด์หันมาใช้กันค่อนข้างมาก พร้อมแนวคิดเลือกใช้เพียง message หลักในการสื่อสาร โพสต์ในแพทเทิร์นแบบเดียวกัน รวมถึงเลือกใช้ micro influencer จำนวนมาก ๆ แทนการเลือกใช้ influencer รายใหญ่ไม่กี่ราย ซึ่งอาจทำให้ราคาที่จ่ายไปไม่สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่เราได้ และการแข่งขันของ influencer เองที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันและอาจทำให้กลายเป็นฟองสบู่ได้ ดังนั้นแบรนด์อาจจะต้องคัดกรองข้อมูลมากขึ้นและหันมามองการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 
Tip #3 - ข้อมูล ฐานข้อมูล และ AI คืออาวุธสำคัญในสมรภูมิดิจิทัล
 
 
 
 
     หากเปรียบเทียบโลกดิจิทัลเป็นดั่งสนามรบ ปี 2019 นี้คือการรบกันแบบ Data-Driven กล่าวคือทุกการตัดสินใจที่จะวางกลยุทธ์ หรือใช้แทคติกไหนสำหรับแบรนด์ จะมาจากการตัดสินใจด้วยข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ตนเองมีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ หันมาเก็บข้อมูลด้วยตนเองมากขึ้น เพื่อนำไปประกอบกับข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ และนำไปใช้งานอย่างแท้จริง (Data Activation) การหันมาลงทุนกับการเก็บข้อมูลจากระบบ Ecosystem ของตนเองที่ได้เริ่มลงทุนไปแล้วในปีที่ผ่านมา หรือการรวมศูนย์ข้อมูลเพื่อให้อยู่ในที่เดียวเพื่อการวิเคราะห์ เช่น การใช้ ระบบ CRM ในมิติของงาน Marketing และ Sales มากขึ้น ทำให้แบรนด์ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพมากกว่าเดิมและนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงมากขึ้น โดยสามารถนำไปใช้ในปลายทาง เพื่อสร้างเป็นแคมเปญในหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น Business CRM, Direct Marketing, Chatbot, Ad Optimization หรือการทำ Data Visualization ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นเทรนด์ที่บริษัทที่มีความพร้อมจะนำมาใช้งานสร้างแคมเปญที่วัดผลได้ ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ และกลับเข้าสู่โจทย์ที่ต้องการได้อย่างแท้จริง

 
Tip #4 - ใช้โฆษณาออนไลน์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจากหลาย ๆ ช่องทาง
 
 
 
 
 
     ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนเราไม่ได้ใช้งบประมาณไปกับงานโฆษณาครีเอทีฟ แต่เพียงแค่เราเปลี่ยนแพลตฟอร์มจากสื่อโฆษณาออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น TVC ป้ายโฆษณาต่างๆ มาเป็นการใช้สื่อดิจิทัลกันมากขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มหลัก ๆ ที่ลงเม็ดเงินสูงสุดไปกับการโฆษณา ได้แก่ Facebook, Youtube และ Search Engine อีกทั้งงานครีเอทีฟสมัยนี้ก็มีการแข่งขันค่อนข้างสูงเพื่อให้คอนเทนต์ที่เผยแพร่ออกไป ดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากพอ ดังนั้นแนวโน้มในการทำโฆษณาออนไลน์ในปีนี้จะมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นตามกราฟด้านบน แต่หลาย ๆ แบรนด์จะหันเลือกใช้ครีเอทีฟให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และพยายามส่งครีเอทีฟโฆษณาเหล่านั้นไปยังทุก ๆ ช่องทางตาม Customer Journey ที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอยู่
 
     นอกจากนี้แล้ว การทำโฆษณาออนไลน์ หลาย ๆ ช่องทาง ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ยอดนิยม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตัวจริงที่แฝงอยู่หลากหลายช่องทางได้มากที่สุด เมื่อหากลุ่มเป้าหมายเข้ามายังเว็บไซต์ได้แล้ว ก็จะใช้วิธี Remarketing หรือ Retargeting ในแสดงโฆษณาเพื่อตามคนเหล่าอีกครั้ง หรือช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อให้เร็วขึ้น (เช่นการทำโฆษณาออนไลน์ของ Lazada สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ครับ)
 
Tip #5 - ความสำคัญของ “วิดีโอออนไลน์”
 
 
ในช่วงที่ผ่านมา หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของใครหลาย ๆ คนบนอินเทอร์เน็ตคงหนีไม่พ้นการใช้งาน Content Streaming และจากสถิติพบว่า
 
  • 92% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต รับชม Video Streaming
  • 58% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต รับชมรายการทีวีต่างๆ ผ่านออนไลน์
 
     จากสถิติดังกล่าวจึงเห็นได้ชัดว่าการทำโฆษณาที่เป็นรูปแบบวีดีโอ และนำไปลงในช่องทางที่เล่นวีดีโอจึงสามารถเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้างนั่นเอง นอกจากโฆษณาในรูปแบบวีดีโอแล้ว วีดีโอที่ถูกผลิดโดย Influencer  ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่หลาย ๆ แบรนด์นิยมเลือกใช้ในปัจจุบันเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

 
Tip #6 - เป้าหมายของการใช้สื่อดิจิทัล นอกจากเพื่อสร้างการรับรู้ หรือเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแล้ว ที่สำคัญยังต้องนำไปสู่การสร้าง Customer Engagement และนำไปสู่ Leads
 
 
 
 
     Lead Generation คือ การหากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจสินค้า-แบรนด์นั้นๆและมีความเป็นไปได้สูงที่คน ๆ นั้นจะเปลี่ยนมาเป็น “ลูกค้า” ของแบรนด์ คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Leads ได้แก่ คนกลุ่มมีความรู้จักสินค้าหรือบริการของแบรนด์มาบ้างแล้ว มีการแสดงออกถึงพฤติกรรมที่สนใจในแบรนด์ แบรนด์จึงควรหาวิธีเก็บเกี่ยว Leads เหล่านี้ เก็บข้อมูลการติดต่อของกลุ่มคนนี้ เพื่อทำการติดตามผลนั่นเอง

     ซึ่งการทำ Lead Generation ในปัจจุบัน สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ก หรือกูเกิ้ล แต่เครื่องมือพื้นฐานที่ผู้ประกอบการ หรือนักการตลาดควรมีคือ เว็บไซต์ และ ระบบ CRM สำหรับบริหารจัดการ Lead ที่ได้มาให้เกิดยอดขายได้มากที่สุด ซึ่งระบบ CRM หลาย ๆ แพลตฟอร์มในปัจจุบันนอกจากช่วยบริหารจัดการ Lead ได้แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ มาอำนวยความสะดวกด้านการทำงานขายให้เกิดประสิทธิภาพได้มากขึ้นอีกด้วย
 
     *การทำ Lead Generation สิ่งสำคัญที่ต้องมีบนเว็บไซต์คือ เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลสำคัญเสมอ (เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร และอีเมล) ยกตัวอย่างเช่น แบบฟอร์มบนเว็บไซต์ หรือ Widget รวบช่องทางติดต่อ และช่วยวัดผลลัพธ์ว่าลูกค้าที่มีแนวโน้มที่จะปิดการขายได้ ส่วนใหญ่มาจากช่องทางไหน
 
 
Tip #7 - ถ้าไม่สร้างคอนเทนต์ ไม่สร้างสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเองปีนี้ ก็จะต้องจ่ายค่าโฆษณาแพงไปเรื่อยๆ ทุกปี
 
 
 
 
     เรียกว่าเป็นข้อควรทำสำหรับในปีนี้ เมื่อราคาของสื่อโซเชียลซึ่งเป็นสัดส่วนเยอะที่สุดปรับตัวแพงขึ้นเพราะคนจ่ายมากขึ้น ในขณะที่คนเล่นเติบโตน้อยลงและมีตัวเลือกมากขึ้น แต่ทุกคนมีเวลาเท่าเดิม ทำให้มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ Ad Block ซึ่งคนที่เข้าถึงคอนเทนต์จะจ่ายเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์แบบไร้โฆษณามากขึ้น และแบรนด์ก็จะมีความลำบากในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น แบรนด์จึงควรวางแผนใช้งาน และสร้างคอนเทนต์อย่างจริงจังในระยะยาว รวมถึงควรที่จะมุ่งไปสร้างคอนเทนต์ดังกล่าวในสื่อ Owned Media หรือสื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของ อย่างเช่น เว็บไซต์ หรือ โมบายล์แอพ มากขึ้น

 

สรุป และ ReadyPlanet แนะนำ

 

     เทรนด์ในโลกดิจิทัลนั้นถือได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังทำการตลาดดิจิทัลอยู่ในปัจจุบัน ควรมีการวางแผนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว และควรนำแผนการตลาดที่วางไว้มารีวิวใหม่อีกครั้งอย่างน้อยไตรมาสละครั้ง เพื่อที่จะได้สำรวจว่ากลยุทธ์ที่วางแผนไว้ ยังเหมาะสมกับสภาพตลาดในปัจจุบันหรือไม่ และจะได้สามารถปรับแผน ลดข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และรับมือกับอุปสรรคภายนอกได้อย่างรวดเร็ว

 

     ส่วนการใช้สื่อในปีนี้ หลายแบรนด์เริ่มเห็นถึงการใช้สื่อหลาย ๆ ประเภทหรือหลายช่องทางมาเกื้อหนุนกันมากขึ้น เช่น การใช้ Paid Media หรือสื่อที่เราจะได้มาด้วยการจ่ายเงินซื้อ (สื่อโฆษณา) อาทิ Google Ads, Facebook Ads เพื่อทำ Lead Generation ในการหาลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามายัง Owned Media หรือสื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของ เช่นเว็บไซต์ เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดยอดขายใหม่ ๆ กับธุรกิจมากขึ้น และหลังจากนั้นจึงใช้เครื่องมืออย่าง ระบบ CRM สำหรับบริหารงานขาย, โมบายล์แอพ หรือระบบสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่น มาใช้ในการเปลี่ยนลูกค้าใหม่ ให้เป็นลูกค้าประจำ เกิดความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว ดังนั้น หากธุรกิจของท่านมีเพียงแค่เฟซบุ๊กเพจในปัจจุบัน อาจจะต้องเริ่มมองหาสื่อประเภท Owned Media เพิ่ม เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจในระยะยาว

 

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเรียนรู้กลยุทธ์ Digital Marketing เพื่อนำมาใช้กับธุรกิจของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรดดี้แพลนเน็ตขอแนะนำ คอร์สอบรม Digital Marketing 2019 บรรยายโดยคุณบุรินทร์ เกล็ดมณี EVP ของเรดดี้แพลนเน็ต ผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์ในธุรกิจดิจิทัลมาอย่างยาวนานมากกว่า 10 ปี โดยสามารถดูรายละเอียดได้ ที่นี่ หรือโทรสอบถามโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก ReadyPlanet Blog โทร 02-016-6789 ตลอด 24 ชั่วโมง