ความสำคัญของ Long-tail SEO Keywords

การทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณปรากฎที่คำค้นหาหน้าแรกของ Google นั้น สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอย่างแรกคือการเลือกใช้ SEO keywords การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เปรียบเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างการเข้าถึงหรือ traffic ของผู้เยี่ยมชมมายังเว็บไซต์ธุรกิจของคุณได้ดี โดยอาจไม่จำเป็นต้องเสียเงินในการทำโฆษณา Google Ads และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้อีกด้วย 

แต่ต้องไม่ลืมว่าในตลาดนั้นมีหลากหลายธุรกิจประเภทเดียวกันเกิดขึ้นมากมาย การเริ่มหันมาทำออนไลน์ตามพฤติกรรมผู้บริโภคยิ่งทำให้เกิดคู่แข่งขึ้นจำนวนมาก การเลือกใช้ SEO keywords จึงเป็นที่นิยมและเกิดอัตราการแข่งขันสูง ทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกการค้นหายากขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ keyword จึงไม่ใช่เพียงแค่เป็นการเลือกคำที่มีโอกาสที่คนเหล่านี้ค้นหาเท่านั้น แต่ต้องคิดต่อไปอีกขั้นตอนว่าจะทำอย่างไรให้คีย์เวิร์ดเหล่านั้นแข่งขันกับคนอื่น ๆ ได้ กับเทคนิคในการเลือก long-tail keywords

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ประเภทของคีย์เวิร์ด SEO keyword

 

keywords

 

SEO keywords สามารถใช้เครื่องมือทำการวิเคราะห์ว่าคำประเภทใดจะได้ประสิทธิภาพมากกว่ากัน ซึ่งหากแบ่งเป็นประเภทใหญ่ จะได้ 2 ประเภทด้วยกันได้แก่

1. Generic keywords คือ การเลือกคีย์เวิร์ดกว้าง ๆ แบบไม่เจาะจง มักจะมี search volume ค่อนข้างสูง นั่นทำให้เกิดคู่แข่งเยอะ โอกาสติดคำค้นหาหน้าแรกยาก คำจะมี 1-2 คำ เช่น กระเป๋า ต้นไม้ คอนโด เป็นต้น โดยส่วนมากใช้เป็นคำตั้งต้นเพื่อนำมาวางกลยุทธ์ของคำอื่นต่อ

2. Long-tail keywords คือคำที่มีความเจาะจงมากยิ่งขึ้น ทำให้ search volume น้อยกว่า ดังนั้นคู่แข่งจะน้อยลงตามไปด้วย มีโอกาสค้นหาด้วยคำนั้นและพบเว็บไซต์ของคุณในหน้าแรก ๆ ของ Google ซึ่งผู้ใช้คนที่ค้นหาด้วยคำนั้นจะต้องมีความสนใจที่ตรงกันและค่อนข้างระบุชัดเจน มีการคัดกรองมาแล้วว่าต้องการซื้อสินค้าประเภทไหนแบบลงรายละเอียดเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสเพิ่ม convertion หรือโอกาสตัดสินใจซื้อ คีย์เวิร์ดประเภทนี้จะมี 3 คำขึ้นไป

 

ทำไมควรเลือกใช้ Long-tail keywords ในการทำ SEO 

long-tail keywords

 

มาถึงตรงนี้คงเริ่มมองเห็นความแตกต่างของ keyword กันแล้ว จะเห็นว่าเป็นคีย์เวิร์ดที่มีคำค้นหาแบบเฉพาะเจาะจงสูง ด้วยการเติมคำต่อท้ายเพื่อระบุให้ชัดเจนมากขึ้น โดยรวมค่อนข้างมีประโยชน์กับธุรกิจเพราะมีโอกาสเปลี่ยนเป็นยอดขายได้ ซึ่งเหตุผลมี ดังนี้

 

1. Long-tail keywords เป็น SEO คีย์เวิร์ดที่ช่วยเพิ่มอัตราการซื้อ

คำว่า “กระเป๋า” เป็นคีย์เวิร์ดที่กว้างยังไม่ได้สื่อสารชัดเจนว่าผู้ที่เสิร์ชต้องการข้อมูลด้านไหน เช่น รีวิว ยี่ห้อ ราคา ขนาดหรือสีกระเป๋า

แต่ถ้าเราระบุว่า “กระเป๋า เดินป่า ผู้ชาย ราคา” แบบนี้คือ long-tail keywords ที่ขยายคำค้นหาเดิมแบบเฉพาะเจาะจง ไม่กว้างจนเกินไป เป็นการระบุทั้งสินค้า ความต้องการ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้งานและราคา

นั่นทำให้บอกได้ชัดเจนว่าคนที่เสิร์ชคำเหล่านี้มีโอกาสสั่งซื้อสินค้าสูงเลยทีเดียว แตกต่างการพิมพ์แค่กระเป๋า คำที่กว้างมากทำให้เห็นเว็บไซต์ของคุณได้ยากขึ้นและยิ่งหากเป็นธุรกิจใหม่ ๆ แทบไม่มีโอกาสค้นหาเจอในหน้าแรก ๆ ภายใน 2-3 หน้า Google แน่นอน

 

2. Long-tail keywords เป็น SEO คีย์เวิร์ดที่มีอัตราการแข่งขันน้อยกว่า

เมื่อเราเลือกใช้ keyword ให้มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น การแข่งขันหรือ search volume จะน้อยลงตามลำดับไปด้วย ยิ่งคำมีความเจาะจงมากเท่าไหร่ อัตราการแข่งขันก็น้อยลงมากเท่านั้นเนื่องจากผู้เยี่ยมชมหรือลูกค้าในอนาคตมีคำค้นหาในใจ ระบุวัตถุประสงค์ สเปคของสินค้าหรือรูปแบบบริการไว้หมดแล้ว ลองนึกง่ายๆ ว่าหากเราต้องการซื้อหูฟังดี ๆ สักยี่ห้อหนึ่ง เราจะต้องระบุชื่อสินค้า งบประมาณ สีหรือรูปแบบ รวมถึงค้นหารีวิวอื่นๆ ที่น่าสนใจก่อนการตัดสินใจซื้อ สิ่งนั้นก็คือความคิดของลูกค้าในอนาคตคุณนั่นเอง รูปแบบ long-tail keywords อื่น ๆ เช่น

 

“คอนโด ทองหล่อ เลี้ยงสัตว์ได้ รถไฟฟ้า” ไม่ใช่แค่การหาว่า คอนโดในย่านทองหล่อเท่านั้น

“ต้นไม้ คอนโด ชุดปลูกสำเร็จรูป ราคา” นั่นหมายถึงคนที่ทำการค้นหามีโอกาสซื้อสูง

“หมอน แต่งห้อง มินิมอล เกาหลี” เป็นการระบุให้ชัดเจนถึงสิ่งที่ต้องการแบบเจาะจง

 

 

3. ทางเลือกสำหรับการทำ Google Ads

การใช้ long-tail keywords ไม่ได้ช่วยในแค่การทำ SEO แบบธรรมชาติเพื่อให้ติดเสริ์ชระยะยาวเท่านั้น แต่ยังนำไปใช้การกับการทำโฆษณาแบบ PPC (Pay per click) เพื่อลดอัตราการแข่งขันที่สูงในการแสดงผลที่หน้าค้นหา Google เนื่องจากการใช้คีย์เวิร์ดที่มีอัตราการแข่งขันสูงหรือคำที่เป็น short-tail keywords อาจทำให้คนที่คลิกมายังไม่ใช่คนที่จะมาเป็นลูกค้าของเราจริง ๆ คนเหล่านั้นอาจยังไม่ต้องการซื้อสินค้า และค่าโฆษณาจะจ่ายตามจำนวนคลิก Keyword ที่ไม่ใช่จึงเหมือนการปล่อยเงินให้สูญเปล่า ดังนั้นการเจาะจงคำที่มีความสนใจตรงกับกลุ่มเป้ายหมายหรือแบบ long-tail keywords จึงเหมาะกับการทำโฆษณารูปแบบนี้เช่นกัน

 

ทำอย่างไรให้ได้ Long-tail keywords ที่ใช่ เพิ่มโอกาสในการซื้อ

การมีเครื่องมือที่ดีจะช่วยทุ่นแรงในการวางแผนและสร้างกลยุทธ์ในการออกแบบเว็บไซต์รวมถึงเลือก SEO keywords ได้อย่างแม่นยำ สามารถเริ่มค้นหาคีย์เวิร์ดได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ทั้งใช้งานง่ายและฟรีอีกด้วยซึ่งอาจเริ่มต้นด้วยการเข้าที่หน้าค้นหาหน้าแรก และลองพิมพ์คีย์เวิร์ดยาว ๆ แบบที่ต้องการ ลองดูเบื้องต้นว่าพบคำค้นหาแนะนำใด ๆ เพิ่มขึ้นมา เป็นโอกาสที่ค้นเหล่านั้นค้นหาเพิ่มและใกล้เคียงที่สุด สำหรับเครื่องมือที่แนะนำนั้นสามารถเลือกใช้ได้ทั้ง

 

- Google Keyword Planner

เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ค่อนข้างครอบคลุมในการวางแผนและค้นหา SEO keywords เนื่องจากเปรียบเทียบแต่ละคำและเช็กอัตราการเสิร์ช และอัตราการแข่งขันได้ครบ เพียงแค่ต้อง sign in ด้วย Gmail พร้อมระบุข้อมูลเว็บไซต์ของคุณเพื่อใช้งาน พิมพ์คีย์เวิร์ดเปรียบเทียบได้หลากหลาย โดยเลือกคำที่มี search volume แต่ต้องไม่เอาอัตราการแข่งขันสูงจนไม่เจอเว็บไซต์ของเราในหน้าแรก ๆ

 

- Google trend

ไม่เฉพาะเจาะจง keyword มากเท่าเครื่องมือแรก แต่ยังฟรีและใช้ค้นหากระแสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั่วโลก โดยพิมพ์คำที่ต้องการเพื่อดูอัตราการค้นหาที่เกิดขึ้นตามช่วงเวลาที่เราระบุได้ พร้อมคำที่ทาง Google แนะนำ เป็นค้นที่เกี่ยวข้องขึ้นมาเผื่อเป็นไอเดียสำหรับต่อยอดคำเดิมที่เรามี

 

google trends

 

- Keyword tool

เป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาคีย์เวิร์ดได้เช่นกัน แต่อาจรองรับภาษาไทยยังไม่มาก โดยค้นหาคำที่เกี่ยวข้องและเครื่องมือจะแสดงคำที่ใกล้เคียงกันในรูปแบบ long-tail keyword เพื่อให้เรานำไปแพลนการทำ SEO ในเว็บไซต์ต่อไป

นอกจากการวางแผนเลือก keyword ที่ใช่แล้ว การนำไปใช้ต่อก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะต้องนำ long-tail keywords ไปใส่ส่วนใดของเว็บไซต์เพื่อให้มีโอกาสค้นหาและเพิ่ม traffic ในการเข้าเว็บไซต์ของคุณสูงที่สุด เช่น การทำ SEO โดยใช้ keyword ที่ได้มาเขียนเป็นบทความที่ให้ความรู้เพื่อให้ Google วิเคราะห์ว่าเว็บไซต์และคำเหล่านี้ได้คุณภาพ นำไปแสดงเมื่อคนทำการค้นหา หรืออาจใส่ใน meta tag บนเว็บ เป็นต้น

 

 

มองหาบริษัทรับทำ SEOชั้นนำในไทย

 

smart seo readyplanet

 


Readyplanet ซึ่งเป็นบริษัท รับทำ SEO แบบวิถีใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพเว็บไซต์ของธุรกิจคุณในภาพรวม โดยเรามีกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ในระยะยาว เพื่อเพิ่มเพิ่มผู้เข้าชม และเพิ่ม Engagement ตลอดจน Conversions ต่าง ๆ ในเว็บไซต์ ให้ตอบโจทย์ธุรกิจ และ ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนผลการค้นหาบน Google โดยคำนึงถึง SEO Keywords ที่หลากหลายครอบคลุมทุก Purchasing Funnel รวมไปถึงเชื่อมต่อ การทำ SEO ช่องทาง Digital Presence อื่น ๆ ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับ Report SEO Audit และการวิเคราะห์อย่างเต็มรูปแบบ

 

 

สำหรับผู้ที่สนใจบริการ Readyplanet Smart SEO เพื่อยกระดับคุณภาพเว็บไซต์ของธุรกิจ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ คลิกที่นี่