เทคนิคการหา และ จัดการ Lead ที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจ

ในยุคนี้กลยุทธ์สำคัญในการขยายธุรกิจให้เติบโตคือการทำ Digital Marketing หรือเรียกว่า การตลาดบนโซเชียลมีเดียออนไลน์ ซึ่งหากใครที่เริ่มทำ Digital Marketing มาบ้างแล้วจะทราบดีว่า Leads มีความสำคัญต่อการโปรโมทสินค้ามากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทผ่านออนไลน์ ออฟไลฟ์เพื่อทำโปรโมชั่นหรือวางแผนการขายและอีกมากมาย  ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจบางรายอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่า Lead Generation มากนัก ดังนั้นเราจะมาดูความสำคัญกันว่าทำไม Leads หรือ Lead Generation ถึงมีความสำคัญต่อการเติบโตธุรกิจขนาดนี้

นิยามของ Lead

 

 

Lead คือ กลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มให้ความสนใจสินค้าจนถึงการสั่งซื้อสินค้า ทั้งนี้ Lead ที่มีคุณภาพมักเกิดจาก Lead ที่ยินยอมให้ข้อมูลกับทางแบรนด์โดยตรงเช่น การกรอกชื่ออีเมลล์ผ่านการสมัครสมาชิก การกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อให้แบรนด์ส่งข้อมูลข่าวสารไปให้ สังเกตจากหลายเว็บไซต์จากทั้งแบรนด์เล็กใหญ่มักจะมีหน้าป็อปอัพให้กรอกข้อมูลหรืออีเมลล์ ก่อนอ่านข้อมูลในเว็บเสมอ ตรงนี้นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของการเก็บข้อมูล Lead ที่มีคุณภาพที่ทำได้ง่ายที่สุด

 

องค์ประกอบหลักของ Lead Generation

 

การสร้าง Lead Generation นั้นไม่ใช่เรื่องวุ่นวายแต่อย่างใด เพียงแค่รู้องค์ประกอบของโครงสร้างก็สามารถสร้างได้อย่างง่ายดาย

 

  • Offer การจะขออะไรบางอย่างจากใคร ควรแจ้งก่อนว่าเราจะให้อะไรและที่สำคัญคือผู้รับมองว่าเป็นประโยชน์ต่อตนเองหรือไม่ วิธีนี้ปรับแนวคิดมาจาก Inbound Marketing คือการตลาดดึงดูด เรามักจะพบได้บ่อยสำหรับเพจที่ให้ความรู้เช่น รับข่าวสารการตลาดทุกวันเพื่ออัปเดตการตลาดโลก เพียงกรอกอีเมลล์ การให้ข้อมูลที่มีคุณภาพและเสพได้หลายครั้งจะเพิ่ม Leads ที่มีคุณภาพมากขึ้น

 

 

  • Call-to-Action ปุ่มสำหรับตอบโต้หรือแชทอัตโนมัติ สร้างความสะดวกสบายให้ทั้งผู้รับและผู้ส่ง เป็นสิ่งกระตุ้นการแอคชั่นให้ผู้รับเกิดการตอบโต้เร็วขึ้น วิธีนี้มักใช้เสมอ เมื่อต้องการกระตุ้นลูกค้า เพราะระยะเวลาระหว่างแบรนด์กับลูกค้ามีน้อยหากเกิดระยะเวลาเพื่อชั่งใจจะยิ่งตัดโอกาสการขายขึ้น จึงต้องเพิ่ม Call-to-Action ให้เกิดการตอบรับเร็วกว่าเดิม

 


  • Landing Page แถบ Landing Page ที่เป็นมิตรต่อกลุ่มเป้าหมายแนะนำควรเป็นแถบเล็ก ๆ เด้งขึ้นมาเมื่อกลุ่มเป้าหมายเข้ามาในเว็บไซต์หรือช่องทารติดต่อ หากเพิ่มเป็นทั้งหน้าเว็บเลยจะทำให้ลูกค้าถูกขัดจังหวะในการรับข่าวสารซึ่งเป็นเหตุผลของการเข้าเว็บมาจะยิ่งลดการตอบโตจากลูกค้า

 

 

 

  • Form หากกลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจแถบ Landing Page ที่ขึ้นโชว์มา การมีฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลสั้น ๆ และง่ายรวดเร็วต่อผู้รับสาร จะช่วยให้เก็บ Lead ได้งายขึ้น ขั้นตอนนี้แตกต่างจากหน้า Landing Page ตรงที่ผู้รับยินยอมจะให้ข้อมูลเลยกดเข้ามากรอก ต่างจากการโชว์ให้กรอกเลย

 

เทคนิคการทำให้เกิด Lead Generation

 

การสร้าง Lead Generation นั้นมีเทคนิคมากมายเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายยินยอมที่จะให้ข้อมูล เพราะกลุ่มเหล่านี้คือลูกค้าในอนาคตอันใกล้ เพียงแค่ไม่กี่การตัดสินใจก็พร้อมเป็นลูกค้าได้ทันที ฉะนั้นจึงมีเทคนิคมากมายเหมาะสำหรับธุรกิจหลากหลายแบบ 

 

 

  • เทคนิค Scarcity คือ การกำหนดราคาเวลาหรือข้อจำกัดให้ผู้รับสารรู้ว่าถ้าไม่รีบซื้อจะหมดสิทธิก่อน เช่น ส่งฟรีแค่ 30 ท่านแรก, ลด 50% วันสุดท้าย การถูกจำกัดจะยิ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกถูกกดดันทางตรงว่าถ้าไม่รีบตอนนี้จะหมดโอกาสที่จะได้รับสินค้าชิ้นนั้น เกิดภาพลวงตาทางการเงินว่าซื้อตอนนี้ราคาถูกลงกว่าทุกครั้งแน่นอน

 

  • เทคนิค Social Proof หรือเข้าใจง่าย ๆ การหาสิ่งมารับรองความเชื่อของสินค้านั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคน สิ่งของ รางวัล ประกาศนียบัตร สิ่งใดก็ได้ที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือต่อสินค้านั้น ๆ หรือการกรอกฟอร์มนั้นได้ เช่น คุณจะได้สินค้าทดลองที่ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอนามัยโลก เพียงแค่คุณกรอกอีเมลล์การตอบรับเท่านั้น ลูกค้าฟังก็ไม่คิดมากใด ๆ เพราะแค่ให้ข้อมูลเท่านั้นก็ได้สินค้าที่มีการรับรองจากองค์การอนามัยโลกไปใช้แล้ว เทคนิคนี้นอกจากจะหาสิ่งมารับรองคุณภาพแล้ว ต้องทำให้ผู้รับรู้สึกว่า แค่กรอกหรือให้ข้อมูลนิดเดียวเท่านั้น ก็ได้แล้ว จะช่วยให้ลูกค้าให้ข้อมูลได้ง่ายขึ้น
 

 

  • เทคนิค Trendy Content คอนเทนต์ที่ทันกระแสจะเพิ่มความน่าสนใจและกระตุ้นการรับรู้ได้มากกว่าคอนเทนต์ทั่วไป เพราะเป็นเนื้อหาที่ถูกพูดในช่วงนั้น เช่น อ่านหนังสือครบ 100 เล่ม ปลดล็อคนักอ่านมือทอง เป็นประโยคที่ฮิตมากในช่วงนี้ วิธีเหมาะสำหรับแบรนด์ที่ชอบเล่นคอนเทนต์เรียลไทม์ เพราะผู้ติดตามจะอัปเดตข่าวสารล่าสุดที่ทันสมัยไม่ตกเทรนด์ วิธีเหล่านี้หากนำมาต่อยอดเช่น บู้ทโพสต์หรือโฆษณาก็จะยิ่งดีเพราะ Organic จะดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงโปรโมทอีกนิดหน่อย ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ข้อควรระวัง ต้องเร็วภายในหนึ่งวัน ไม่งั้นกระแสจะหายจากที่ถูกมองว่าเร็ว จะมองเป็นช้าทันที

 

 

  • เทคนิค Call-to-Action เทคนิคนี้เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือพื้นฐานของ Tool Social มากมาย เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น อย่างน้อยให้ลูกค้ากดเข้ามาสอบถามข้อมูลก็ถือว่าได้เก็บ Leads แล้วถึงแม้ยังไม่ใช่ลูกค้าแต่ก็ให้ความสนใจลูกค้าเป็นอย่างดี

 

 

  • เทคนิค การทำ Landing Page การทำ Landing Page นี้สิ่งที่ควรคำนึงอย่างแรกคือควรเฟรนด์ลีย์ต่อผู้รับสาร เนื้อหาที่จะให้ลูกค้ากรอก ควรมีเฉพาะข้อมูลสำคัญต่อแบรนด์ เช่น อีเมลล์ ชื่อ เบอโทร โดยการสร้างสร้างเว็บไซต์หรือ Landing Page ในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก เพียงกดเลือกแบบที่ต้องการ ประเภทของสินค้า แค่นี้ก็ได้เว็บไซต์สวยๆ พร้อมใช้งาน ไม่ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์มาสร้างเว็บไซต์ให้วุ่นวายอีกต่อไป

 

 

  • เทคนิค การสร้าง Form การกรอกฟอร์มเพื่อเก็บข้อมูล นอกจากจะได้ข้อมูลลูกค้าแล้ว ชุดข้อมูลทั้งหมดสามารถนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์ที่จะโน้มน้าวให้เป็นลูกค้าในอนาคตได้ เช่น การเพิ่มคำถามสั้น ๆ เมื่อกรอกข้อมูล เหมาะอย่างมากสำหรับแบรนด์ขนาดใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าจำนวนมากและหลายชิ้น มีทีมเซลล์ดูแล ซึ่งการดูแลทีมเซลล์นี้ สามารถใช้เครื่องมือ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย เพื่อดูแลและตรวจสอบการทำงานของเซลล์ทำให้การทำงานแต่ละฝ่ายระหว่างเซลล์และหัวหน้า หรือเซลล์กับผู้บริหารทำงานราบรื่นขึ้น

 

 

  • เทคนิค สร้างความมั่นใจด้วยการรับรองความปลอดภัย อีกสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในปีนี้เพราะผู้ใช้งานทั่วโลกให้ความสำคัญนั่นก็คือ Social Security ความปลอดภัยในการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คแพลตฟอร์มนั้น ๆ ทำให้เชื่อว่าหากกรอกสินค้าไปแล้ว จะไม่ถูกนำไปเผยแพร่หรือไปขายที่ไหน วิธีสำคัญต่อแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ธนาคาร สังเกตว่าการสมัครแอพการเงินต่าง ๆ จะมีหน้าให้ยินยอมให้ข้อมูลหรือไม่ให้ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าและไม่เป็นการละเมิดกฏหมายด้วย

 

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคการทำ Digital Marketing ในพาร์ทของการโปรโมทสินค้า เช่น การลงโฆษณา, การสร้าง E-Mail Marketing, Content Creative ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถได้ Lead Generation อย่างมีคุณภาพ การสร้างกลยุทธ์ Digital Marketing ที่ดีจึงควรมีเครื่องมือที่ทันสมัย ทันโลกและตอบโจทย์ครบทุกทาง Readyplanet จึงได้พัฒนาเครื่องมือ Readyplanet Marketing Platform ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การที่เปลี่ยนไวในยุคปัจจุบัน แพลตฟอร์มนี้ครอบคลุมถึงการโฆษณา และระบบลูกค้าสัมพันธ์ เรียกว่าครบวงจรของการสร้าง Digital Marketing ที่ช่วยให้ธุรกิจขยายการเติบโต

 

R-CRM หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของ Readyplanet Marketing Platform 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

 

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี


 

Updated: 11 May 2021 | Produced by: Ploynaphat Wattanachodjirachai