เปิดตัว R-Chatbot ระบบตอบแชทอัตโนมัติด้วย AI สำหรับธุรกิจยุคใหม่ จาก Readyplanet

ในยุคที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว การให้ข้อมูลกับลูกค้า ยิ่งเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ Readyplanet จึงพัฒนาระบบ R-Chatbot ซึ่งเป็นส่วนเสริมของระบบ R-Chat เพื่อเข้ามาเป็นผู้ช่วยตอบคำถามของลูกค้าให้กับบริษัทหรือองค์กร โดยมีการใช้ AI เข้ามาเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อตอบคำถามได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยบทความนี้จะชวนให้ทุกท่านมารู้จักกับ R-Chatbot กันมากยิ่งขึ้น รวมถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจในการนำไปใช้งานสำหรับธุรกิจค่ะ

R-Chatbot คืออะไร

คำว่า Chatbot เป็นการรวมตัวกันของ 2 คำ คือ Chat และ Robot หมายถึง โปรแกรมชนิดหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถสนทนา หรือโต้ตอบข้อความผ่านช่องทางแชทได้เหมือนกับมนุษย์ ผ่านทางโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Facebook Messenger หรือ LINE เป็นต้น หรือการพูดคุยโดยมีเทคโนโลยี AI เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

คำว่า Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว โดยใช้กระบวนการเรียนรู้จากข้อมูล ซึ่งใกล้เคียงกับความฉลาดของมนุษย์ เช่น การเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้าง และการจดจำภาพ

R-Chatbot คือ ผู้ช่วยตอบแชทอัจฉริยะของธุรกิจ ซึ่งผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับ Chatbot เพื่อเพิ่มความสามารถในการตอบแชทได้อย่างชาญฉลาด ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) ซึ่ง R-Chatbot มีการใช้ AI ในการเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า พร้อมทำงานตลอดเวลา และยังเพิ่มโอกาสในสร้างยอดขายได้สำเร็จมากขึ้น

 

ความแตกต่างระหว่าง R-Chatbot กับ Chatbot ทั่วไป

Chatbot ทั่วไปจะมีความสามารถในการตอบคำถามได้เฉพาะคำถามหรือคำขอที่ตรงกับกฎหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น จึงไม่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจในปัจจุบันได้ ดังภาพตัวอย่างการสนทนาด้านล่างนี้ หากเป็นการพูดคุยกับ Chatbot ทั่วไป ลูกค้าจะสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่ระบบมีให้เท่านั้น เช่น ลูกค้าต้องกดเลือก บ้านเดี่ยว คอนโด หรือ บริการหลังการขาย Chatbot จึงจะสามารถตอบกลับไปหาลูกค้าได้ แต่หากเป็น Chatbot ที่ใช้ AI ลูกค้าสามารถพิมพ์ถามคำถามที่ต้องการทราบ ในรูปแบบประโยคได้เลย Chatbot ก็สามารถเข้าใจความหมายของคำถาม และตอบลูกค้าได้ในทันที ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากกว่า เพราะสามารถพิมพ์ถามสิ่งที่ต้องการทราบได้เลย และใช้เวลาในการสนทนาไม่นาน เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้สูงกว่านั่นเอง

ภาพ chatbot ทั่วไปภาพ r-chatbot ที่ใช้เทคโนโลยี AI

ด้วยความสามารถนี้ Readyplanet จึงได้นำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) เข้ามาใช้ร่วมกับ Chatbot เกิดเป็น R-Chatbot ที่สามารถเรียนรู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ดี สามารถตอบคำถามหรือตอบสนองต่อคำขอได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบแชทได้อย่างรวดเร็วและใกล้เคียงกับการสนทนาของพนักงาน ทำให้ R-Chatbot มีความแตกต่างและโดดเด่นกว่า Chatbot ทั่วไป ดังนี้

  • R-Chatbot ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและวิเคราะห์คำถามของลูกค้า ทำให้สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ มีความเหมาะสมกับบริบทของคำถาม และสามารถเรียบเรียงคำตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าอ่านมากขึ้น

  • R-Chatbot สามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลา จากข้อมูลการสนทนาที่สะสมไว้ ทำให้สามารถวิเคราะห์และเข้าใจคำถามที่มีความซับซ้อนได้ดี ถึงแม้จะมีคำที่พิมพ์ผิดหรือใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการบ้าง R-Chatbot ก็สามารถเข้าใจและตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง

  • R-Chatbot สามารถใช้งานร่วมกับเมนูตอบกลับอัตโนมัติ (Menu Based) ได้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานเมนูตอบกลับอัตโนมัติได้หากต้องการ หรือเลือกสนทนากับ R-Chatbot ในกรณีที่ต้องการคำตอบที่ละเอียดหรือซับซ้อนมากขึ้นได้เช่นกัน

  • R-Chatbot สามารถใช้งานร่วมกับ Chat Center เพื่อช่วยตอบคำถามลูกค้าได้จากทุกช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง

 

ประโยชน์ของการนำ R-Chatbot ไปใช้กับธุรกิจ

  • ช่วยทำงานแทนพนักงาน ลดภาระการตอบคำถามซ้ำ ๆ
    R-Chatbot สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ช่วยลดภาระงานของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับธุรกิจได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ต้องการได้ทันที

  • เข้าใจความหมายของคำถามได้ดี
    R-Chatbot ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI ทำให้สามารถเข้าใจความหมายของคำถามได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถตอบคำถามที่มีรูปแบบหรือคำศัพท์ใหม่หรือซับซ้อนได้ดี

  • ตอบคำถามได้ใกล้เคียงการสนทนากับแอดมินตัวจริง
    R-Chatbot สามารถใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกับการสนทนาของมนุษย์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมในการสนทนากับ R-Chatbot ได้มากกว่า Chatbot แบบเดิม

  • ตอบได้ทั้งแชทจากหลายช่องทาง
    R-Chatbot สามารถตอบคำถามได้ทั้งจากแชทจากช่องทาง LINE OA, Facebook Messenger และแชทจากเว็บ (R-widget) ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายช่องทาง

  • สลับการทำงานระหว่างแอดมิน กับ R-Chatbot ได้
    หากลูกค้ามีคำถามหรือคำขอที่ R-Chatbot ไม่สามารถตอบได้ แอดมินสามารถเข้ามาช่วยตอบคำถามหรือให้บริการลูกค้าได้ในทันที

  • ตรวจสอบคำตอบของ R-Chatbot ย้อนหลังได้
    แอดมินสามารถตรวจสอบคำตอบของ R-Chatbot ย้อนหลังได้ ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามคุณภาพของคำตอบและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้

  • เพิ่มความรู้ให้ R-Chatbot ได้ตลอดเวลา 
    ธุรกิจสามารถเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ สินค้า และบริการให้ R-Chatbot ได้ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้องและครอบคลุมขึ้น ช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ต้องการได้อย่างครบถ้วน


ฟีเจอร์ของ R-Chatbot

1. การตั้งค่า R-Chatbot

เริ่มต้นด้วยฟีเจอร์การตั้งค่าพื้นฐาน โดยทำการใส่ข้อมูลโปรไฟล์ธุรกิจ ได้แก่ ชื่อธุรกิจ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ ให้กับระบบ R-Chatbot เพื่อให้ AI นำข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ ไปทำการเรียนรู้ ทำความเข้าใจธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกภาษาที่ใช้ในการตอบของ AI ได้กว่า 9 ภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น

 

การตั้งค่า r-chatbot

 

2. ข้อมูลพื้นฐาน (Base Knowledge) 

เมื่อทำการใส่ข้อมูลโปรไฟล์ธุรกิจไปแล้ว ต่อมาธุรกิจควรมีคลังข้อมูลทั้งหมด เพื่อให้ AI ของ R-Chatbot ใช้ในการค้นหาเพื่อตอบคำถามได้ ซึ่งข้อมูลที่ธุรกิจควรเพิ่มเข้าไป ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ ข้อมูลสินค้าและบริการ ข้อมูลการขาย หรือ เงื่อนไขการประกันสินค้า เป็นต้น ด้วยฟีเจอร์นี้ธุรกิจสามารถนำเข้าข้อมูลทั้งหมดในรูปแบบไฟล์ได้เลย นอกเหนือจากจะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการเตรียมข้อมูลสำหรับธุรกิจเองแล้ว ยิ่งมีแหล่งข้อมูลครบถ้วนมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ AI ของ R-Chatbot เข้าใจธุรกิจ สินค้าและบริการของธุรกิจท่าน ซึ่งจะส่งผลให้ AI สามารถนำข้อมูลนั้นไปตอบคำถามลูกค้าได้ครอบคลุมที่สุดนั่นเอง


ข้อมูลพื้นฐาน r-chatbot

 

3. สร้างชุดคำถาม Q&A 

เป็นฟีเจอร์สร้างชุดคำถาม-คำตอบ เพื่อให้ AI เรียนรู้ชุดข้อมูลคำถามและคำตอบในการแชทเข้ามาสอบถามของลูกค้า โดย R-Chatbot จะใช้ AI อ่านคำถามที่ได้รับจากลูกค้าและเลือกคำตอบที่ธุรกิจได้ทำการสร้างไว้ตอบคำถามนั้น ๆ เพื่อตอบกลับไปให้กับลูกค้า ซึ่งจะมีการสร้างชุดคำถาม Q&A ทั้งหมด 3 ขั้นตอน ดังนี้

 

ขั้นตอน สร้างชุดคำถาม ธุรกิจควรกำหนดคำถามที่คาดว่าลูกค้าจะถามทั้งหมด โดยคำถามที่ใช้ควรเป็นรูปประโยคที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ สินค้า และบริการครบถ้วน ไม่ควรใส่เป็นวลีหรือคำสั้น ๆ

ขั้นตอน สร้างชุดคำตอบ ธุรกิจควรตั้งคำตอบเป็นรูปแบบประโยคที่มีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอ ไม่ควรใส่เป็นวลีหรือคำสั้น ๆ เพื่อให้ AI สามารถนำไปประมวลผล และนำไปตอบกลับให้ลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ขั้นตอนสร้างคำถาม Q&A ใน r-chatbot

 

ขั้นตอน สร้างชุดคำถามที่คล้ายกัน กรณีมีคำถามที่คล้ายกัน ธุรกิจสามารถใช้ชุดคำตอบเดียวกันได้ โดยเพิ่มคำถามที่คล้ายกันได้ 2 รูปแบบ คือ การเพิ่มแบบกำหนดเอง หรือการเพิ่มโดย AI ซึ่งการเพิ่มด้วย AI จะช่วยลดเวลาในการหาคำถามใกล้เคียงด้วยตัวเอง พร้อมช่วยแนะนำคำถามใกล้เคียง เพื่อรองรับการถามคำถามเดียวกันในหลายรูปแบบได้

 

  • การเพิ่มคำถามแบบกำหนดเอง เป็นการเพิ่มคำถามด้วยตัวเอง โดยทำการพิมพ์คำถามที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในช่องคำถาม จากนั้นกด เพิ่ม (หมายเลข 1) เพื่อเพิ่มคำถามที่คล้ายกัน และสามารถแก้ไขคำถามได้ (หมายเลข 2) ซึ่งสามารถเพิ่มได้สูงสุด 10 คำถาม 

การเพิ่มคำถามแบบกำหนดเองใน Q&A ของ r-chatbot


  • การเพิ่มคำถามโดย AI เป็นการใช้ AI มาช่วยสร้างคำถามให้ โดยทำการพิมพ์คำถามที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในช่องคำถาม จากนั้นกด เพิ่มโดย AI (หมายเลข 1) จากนั้น AI จะสร้างคำถามให้ท่านอัตโนมัติ (หมายเลข 2) ซึ่งท่านสามารถกดเพิ่มได้สูงสุด 10 คำถาม โดยเพิ่มครั้งละ 5 คำถาม หากต้องการเพิ่มให้ครบ 10 คำถาม ต้องกดเพิ่มโดย AI อีกครั้ง

การเพิ่มคำถามโดย AI ใน Q&A ของ r-chatbot

 

4. สร้างคำถามที่ไม่พบใน Q&A 

หลังจากที่ธุรกิจได้ทำการสร้างชุดคำถามและคำตอบไว้ในฟีเจอร์ Q&A แล้ว ก็ย่อมมีคำถามที่ธุรกิจไม่ได้เตรียมเอาไว้ หรือเป็นคำถามใหม่ที่ธุรกิจไม่เคยรู้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเข้ามาช่วยธุรกิจรวบรวมคำถามจากลูกค้าที่ถามเข้ามา ในกรณีที่ AI ของระบบ R-Chatbot ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้ รวมถึงคำถามที่ AI นำคำตอบมาจากคลังข้อมูลพื้นฐาน (Base Knowledge) ก็จะถูกนำมาแสดงผลในฟีเจอร์นี้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถกดเพิ่มไปยังฟีเจอร์ Q&A ได้ง่าย ๆ นั่นเอง


การสร้างคำถามที่ไม่พบใน Q&A ของ r-chatbot

ตัวอย่างกรณีที่มีคำถามที่ไม่พบใน Q&A


โดยระบบจะเก็บข้อมูลคำถามที่ไม่สามารถตอบได้ไว้ที่เมนู คำถามที่ไม่พบใน Q&A โดยแสดงรายละเอียดดังนี้

  • คำถาม ระบบจะแสดงเนื้อหาของคำถามที่ AI ไม่สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้
  • จำนวนที่ถาม ระบบจะแสดงจำนวนของคำถามนั้น ๆ ที่ถูกถามเข้ามา
  • ถามล่าสุด ระบบจะแสดงข้อมูลวันที่และเวลา ที่คำถามนั้นถูกถามเข้ามา

หากธุรกิจต้องการเพิ่มคำตอบของคำถามที่ไม่พบใน Q&A เพื่อให้ AI สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ในครั้งถัดไป ธุรกิจสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการ กดปุ่มเพิ่มไปยัง Q&A คำถามทั้งหมดที่อยู่ในฟีเจอร์นี้ จะถูกเพิ่มอัตโนมัติไปยังฟีเจอร์ Q&A 


เพิ่มไปยัง Q&A สำหรับคำถามที่ไม่พบใน Q&A ของ r-chatbot

 

สรุป

จะเห็นได้ว่าระบบ R-Chatbot จาก Readyplanet สามารถช่วยธุรกิจตอบคำถามและให้ข้อมูลถูกต้องและรวดเร็ว ด้วยการใช้ AI ในการเรียนรู้และเข้าใจความต้องการของลูกค้า เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน การนำ AI Chatbot มาทำงานร่วมกับ Chat Center ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่าในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขายให้ธุรกิจยุคใหม่ได้สูงขึ้น