6 เช็คลิสต์ Sales Manager ยุคใหม่ ทำอย่างไรให้ได้ใจ Sales Team

ทำอย่างไร ถึงจะได้เป็น Sales Manager ที่เข้าไปนั่งในใจ Sales Team ได้ทุกคน? Sales Manager เป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีภาระหน้าที่ พร้อมความรับผิดชอบที่สูงขึ้นตาม และหนึ่งหน้าที่สำคัญก็คือ เรื่องการดูแลคนค่ะ ทำอย่างไรถึงจะกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมได้ หรือสิ่งอื่นๆ ที่ทำแล้วทีมจะรู้สึกประทับใจ จนอยากทำงานกับเราอย่างเต็มที่ ซึ่งการเป็น Manager ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะก้าวขึ้นมาเป็น Manager ไม่ได้ เพียงแค่เราต้องรู้แนวทางที่ถูกต้อง คุณสมบัติที่ต้องมีเสียก่อน แล้วเราจะค่อยๆ เติบโตเป็น Manager ที่มากฝีมือได้ ซึ่งวันนี้ Ready Planet จะมาบอกทุกคนค่ะว่า Sales Manager ในยุคนี้ ต้องทำอะไร ถึงจะได้ใจ Sales Team

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

 

Sales Manager ยุคใหม่ มีลักษณะเป็นอย่างไร?

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเป็น Sales Manager อยู่แล้ว หรือกำลังคิดอยากผันตัวขึ้นเป็น Sales Manager ก็จะเป็นต้องพัฒนาทักษะให้เข้ากับโลกในยุคปัจจุบัน เพื่อที่จะฟอร์มทีม บริหารทีม พร้อมสร้างผลงานให้กับองค์กรได้ ซึ่ง Sales Manager ยุคใหม่ ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายมากในยุคนี้ เพราะชีวิตการทำงานทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ หรือตลาดเองก็มีความแข็งขันสูง ซึ่งนอกจากจะต้องมีคุณสมบัติเด่นของการเป็น Sales Manager แล้ว ยังต้องมีคุณลักษณะหรือการทำงานที่โดดเด่นในงานขายด้วยเช่นเดียวกัน (อ่านบทความ 6 คุณสมบัติเด่น ที่ผู้จัดการฝ่ายขาย ยุคใหม่ต้องมี ได้ที่นี่)

ดังนั้น Sales Manager ยุคใหม่ ต้องมีอาวุธครบมือ ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills หรือต้องเก่งทั้งงานและคน รวมถึงยังต้องมี Skills ใหม่ ๆ หรือเรียนรู้เครื่องมือใหม่ ๆ ที่จำเป็นต้องใช้กับยุคปัจจุบันนี้ เช่น เครื่องมือบริหารงานขาย อย่าง Readyplanet R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไปไทย ช่วยจัดการลูกค้าได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งทักษะต่าง ๆ เหล่านี้ ถ้าไม่มี ก็อาจจะทำให้บริหารทีมได้ยากลำบาก หรือขับเคลื่อนยอดขายไม่ได้ตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะตำแหน่ง Manager ในสายงานเซลส์ ถ้าอยากบริหารทีมให้ดี สร้างยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ขาดไม่ได้ แล้วคุณสมบัติที่ว่านี้คืออะไร แล้วมีครบแล้วหรือยัง

 

6 เช็คลิสต์ Sales Manager ยุคใหม่ ทำอย่างไรให้ได้ใจ Sales Team

หัวใจสำคัญของการเป็นผู้จัดการฝ่ายเลยก็คือ ต้องสามารถเข้าไปอยู่ในใจของลูกทีมได้ เพื่อที่จะได้ขับเคลื่อน Sales Team เก่งๆ ให้ทำงาน และสร้างผลงานดีๆ ไปพร้อมกับคุณ อีกทั้งช่วยลดปัญหาภายในทีมได้ด้วย แล้ว Sales Manager ยุคใหม่ จำเป็นต้องมีคุณลักษณะอะไรบ้างถึงจะเวิร์ก ลองมาเช็กกันเลยค่ะว่า ตอนนี้เรามีและขาดข้อไหนบ้าง

 

1. Sales Plan / Activities มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน

 

Sales Planning

 

ปกติแล้ว เซลส์ที่เป็นทาเลนท์หรือมีความสามารถ มักจะเป็นคนที่ชอบการทำงานที่มีการวางแผนชัดเจน เพื่อที่เขาจะได้ทำงานต่อได้ถูกต้องว่า ควรทำอะไรก่อนหรือหลัง และควรไปพัฒนางานส่วนไหนให้ได้ผลดีที่สุดและตอบโจทย์กับธุรกิจ รวมถึงบทบาทหน้าที่ ทาง Sales Manager เองก็ต้องมีการบริหารทีมขายที่มีการกำหนดการทำงานให้ชัดเจน เพื่อให้ทีมทำงานได้อย่างเหมาะสม รู้ว่าใครควรทำอะไร จะได้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ดังนั้น การวางแผนแนวทางและเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยทำให้ Sales Team เห็นภาพชัดมากขึ้นว่า ตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ต้องเดินไปในทิศทางไหน และสิ่งที่ทำนั้นส่งคุณค่าหรือตอบโจทย์ธุรกิจหรือไม่ สิ่งนี้นอกจากจะช่วยให้ Sales Team ทำงานได้ถูกทิศทางแล้ว ยังช่วยวางแผนให้ธุรกิจให้ดำเนินต่อไปอย่างเหมาะสมด้วย และเมื่อทุกคนรู้หน้าที่ ก็ช่วยกันทำผลงานให้ได้ตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้ธุรกิจสร้างกำไรได้อย่างไม่ยากเลยค่ะ

 

2. Sales Target ท้าทาย สมเหตุสมผล

คงไม่ดีแน่ ถ้าทีมต้องทำงานไปวัน ๆ โดยไม่รู้ว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้นดีหรือไม่ดี และช่วยเพิ่มผลกำไรให้ธุรกิจมากน้อยแค่ไหน พอไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะทำให้ Sales Team ขาดแรงกระตุ้นในการทำงาน ดังนั้น เพื่อให้เซลส์ทำงานได้อย่าสนุกขึ้น มีเป้าหมาย และช่วยขับเคลื่อนยอดขายให้ธุรกิจ ผู้จัดการฝ่าย ควรมีการวางเป้ายอดขาย หรือ Sales Target ด้วยว่า รายเดือนเราต้องการยอดขายเท่าไหร่  KPIs ของทีมมีอะไรบ้าง Performance แบบไหนที่จะตอบโจทย์ธุรกิจ

ยิ่งสร้าง Sales Target ที่ท้าทาย ก็จะทำให้ Sales Team รู้สึกมีไฟ พร้อมลุยทำงานเพื่อคว้ายอดขายให้ได้ตามเป้า อีกทั้งยังเสริมสร้างพลังงานดี ๆ ให้เกิดขึ้นในทีม และที่สำคัญ ถ้าทุกคนต่างมุ่งทำตามเป้าที่วางไว้ให้สำเร็จ ก็จะส่งผลดีต่อยอดขายของธุรกิจอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องระวังด้วยเช่นกันว่า ต้องเป็นเป้าหมายการขาย หรือ Sales Target ที่สมเหตุสมผล ไม่น้อยไปหรือไม่มากไป เพราะถ้าน้อยไป Sales Team ก็จะไม่รู้สึกท้าทาย แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจจะเป็นความกดดัน ที่อาจนำมาสู่สภาวะ Burnout ได้ แทนที่จะได้ผลงานที่ดี กลายเป็นว่าทีมหมดพลังที่จะขับเคลื่อนงานไปสู่เป้าหมายแทน (อ่านบทความ เรื่อง การตั้งเป้ายอดขาย (Sales Target) สำคัญอย่างไรกับธุรกิจ ได้ที่นี่)

 

R-CRM Sales Target

 

3. Sales Performance ทุกการทำงานวัดผลได้

 

Sales Performance

 

สงสัยไหมคะว่า ทำไมทุกอย่างที่ทำถึงต้องวัดผลได้ อันดับแรก สิ่งนี้เป็นผลดีต่อตัวพนักงานหรือ Sales Team ของเรา เพราะผลประเมินจะช่วยบอกได้ว่า การทำงานของเขาอยู่ในระดับไหน ควรปรับปรุงหรือพัฒนาอะไรบ้าง ในขณะเดียวกัน ถ้าสามารถวัดผลได้ชัด ๆ ว่า สิ่งที่เขาทำเป็นผลงานที่ดีจริง ยอดขายขึ้น จากการทำงานของเขา ก็จะช่วยเสริมกำลังใจพร้อมความภาคภูมิใจให้กับเซลส์ นอกจากนี้ ยังทำให้ธุรกิจมองเห็นด้วยว่า ธุรกิจประสบความสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ กลยุทธ์ที่วางไว้ สามารถวัดผลได้จริงไหมว่าดีหรือไม่ดี ในขณะเดียวกัน ถ้าวัดผลแล้วพบว่า ทางที่เดินนั้นผิด ธุรกิจเองก็จะได้ปรับเปลี่ยนแนวทาง หรือสร้างเป้าหมายใหม่ได้ทันเวลา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


4. มีระบบ CRM หรือเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อช่วยการจัดการงานขายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

R-CRM lead inbox

หน้าที่หลักของ Sales Manager คือ การบริหารทีมขายให้มีประสิทธิภาพพร้อมสร้างยอดขายได้ตามเป้า คอยตรวจสอบว่ามีปริมาณเยอะจนล้นเกินไปหรือไม่ รวมถึงจัดหาเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ ตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว Sales Team ต้องตอบสนองลูกค้าอย่างทันท่วงที การทำทุกอย่างด้วยตัวเองหรือแบบระบบ Manual อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ควรมีเครื่องมือที่ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างเช่น การใช้ ระบบ CRM ที่จะเข้ามาช่วยบริหารงานขายได้ดียิ่งขึ้น ที่ทำได้ตั้งแต่เก็บข้อมูล Leads หรือลูกค้าอย่างเป็นระบบ Sales Pipeline ที่ช่วยกรองลูกค้าตามขั้นหรือ Stage ให้เซลส์สามารถใช้กลยุทธ์ในการเข้าหาลูกค้าแต่ละกลุ่มได้เหมาะสมมากขึ้น หรือรวมถึงงานเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการขาย ไม่ว่าจะเป็นใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ เอกสารเกี่ยวกับการนำเสนอขาย ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว มีเวลาเหลือไปทำงานสำคัญอื่น ๆ เกี่ยวกับการขายได้มากชึ้น ช่วยให้ Sales Team ไม่ต้องเหนื่อยล้ากับภาวะงานล้น จัดการงานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และยังส่งผลดีกับธุรกิจ ที่งานต่าง ๆ สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีกำแพงเรื่องรับลูกค้าได้จำกัด เพราะเครื่องมือสามารถทำงานบางส่วนแทนได้ ส่งผลให้ทำยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

5. Sales Coaching แนะนำ ตัดสินใจ

 

Sales Coaching

 

Sales Team มักจะเลือกหัวหน้าที่สามารถสอนงาน และช่วยพัฒนาให้เขาเติบโตได้ นอกจาก Sales Manager จะต้องเชี่ยวชาญเรื่องการขาย บริหารจัดการเก่งแล้ว ยังต้องสามารถ แนะนำแนวทางให้ทีมได้อีกด้วย หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Coaching คือ กระบวนการการช่วยเหลือ แนะนำ ชวนคิด และพัฒนาลูกทีมให้ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างมากที่สุด ทั้งในเรื่องการทำงาน และการใช้ชีวิต ซึ่งคุณลักษณะนี้จะช่วยให้เซลส์ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พร้อมพัฒนาตัวเองได้ดีกว่าที่คิด ด้วยผ่านการขบคิดด้วยตนเอง โดยมีหัวหน้าเป็นคนคอยช่วยแนะนำ และช่วยตัดสินใจในเรื่องยากๆ ให้ และหาก Sales Manager สามารถ Coaching ทีมได้เรื่อย ๆ เขาก็จะกลายเป็นคนเก่งที่สร้างผลงานต่าง ๆ ให้กับทีมได้ อีกทั้งบริษัทก็จะได้คนที่มีความสามารถมาช่วยสร้างยอดขายและกำไรได้มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อองค์กรมีคนที่เก่งขึ้น งานต่าง ๆ ก็จะมีคุณภาพมากขึ้น และความสำเร็จก็อยู่ไม่ใกล้เกินเอื้อม

 

 

6. Sales Report แม่นยำ วิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

งานพาร์ทหนึ่งที่มีความสำคัญ แต่ก็มีความหินสำหรับเซลส์เช่นกัน ก็คือ Sales Report หรือรายงานยอดขายนั่นเอง รายงานนี้จะช่วยให้เซลส์มองเห็นภาพรวมการขายและลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น พร้อมนำไปปรับกลยุทธ์การขายให้ได้ผลดีกว่าเดิม แต่การทำ Sales Report มักใช้เวลาทำค่อนข้างสูง ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลดิบ บางองค์กรที่ยังใช้ Excel อยู่ก็ต้องรวบรวมไฟล์เยอะหน่อย จากนั้นก็ต้องมีการแยกกลุ่มข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และทำ Visualization เพื่อนำไปรายงานหัวหน้าหรือทีมที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจได้ง่าย ๆ จนบางทีทีมขายและเซลส์ก็ต้องเสียเวลาทำ Sales report ไปมากจนไม่มีเวลาไปโฟกัสงานสำคัญอย่างอื่น ดังนั้น Sales Manager ควรหาเครื่องมือ หรือวิธีการ ที่จะช่วยให้เซลส์ทำ report ได้ง่ายขึ้น และใช้เวลาน้อยลง

 

R-CRM Sales Report

 

สำหรับธุรกิจที่ใช้ R-CRM ก็สามารถเลือกดูรายงานการขายในมุมมองต่าง ๆ ได้สะดวก รวดเร็วผ่านทาง R-Insights ที่ช่วยสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลการขายทั้งหมดของธุรกิจที่มีทีมเซลส์ พร้อมนำเสนอ Visualization ในรูปแบบของ Dashboard ที่ช่วยให้อ่านข้อมูลเชิงลึกได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาทำ Sales Report อีกต่อไป หน้าที่ของ Sales Team ก็จะเหลือแค่วิเคราะห์และหา Insights เท่านั้น ช่วยลดขั้นตอน ไม่ต้องเปลืองแรง แถมมีเวลาเหลือไปทำอย่างขั้น ในขณะเดียวกัน ธุรกิจเอง ก็จะได้ข้อมูล วิธีการแก้ไขปัญหา รวมถึงกลยุทธ์ที่เร็วกว่าเดิม สามารถนำมาปรับแผนงานได้อย่างรวดเร็ว ได้ทันตลาด และแซงหน้าคู่แข่ง

 

สรุป

นี่ก็คือเช็กลิสต์ Sales Manager ยุคใหม่ หากมีครบ ก็จะช่วยให้คุณทำหน้าที่ได้ตรงใจ Sales Team มากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่า มีทั้งคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับงานขายโดยตรง การดูแลเอาใจใส่ทีม รวมถึงนำเครื่องมือ อย่างเช่น Readyplanet R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย มาช่วยให้การทำงานของทีมขายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้งานเดินไปถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยทีมให้ทำงานได้อย่างมีความสุข เพราะแรงขับเคลื่อนสำคัญของงาน มาจากผู้คน ดังนั้น หน้าที่สำคัญของ Sales Manager คือการดูแลความสุขของเซลส์หรือทีม ให้มีพลังใจในการทำงาน และมีความสุขในทุกขณะที่กำลังทำงานขาย

หากอยากเป็น Sales Manager ที่บริหารทั้งงานและคนอย่างอยู่หมัด ลองมองหาเครื่องมือเป็นตัวช่วย เพื่อให้วิ่งได้ทันความเปลี่ยนแปลงของยุคปัจจุบัน อย่าง Readyplanet CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่จะช่วยให้ทั้งคุณและเซลส์บริหารจัดการงานขายได้คล่องแคล่ว พร้อมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งการบริหารดูแล Lead การทำ Sale Pipeline ทำเอกสารต่าง ๆ รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูล ที่ทำได้ง่ายๆ ผ่านหน้าจอเดียว

 

 

สมัครใช้งาน Readyplanet R-CRM 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

 

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี