8 ไอเดียกระตุ้นยอดขายเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ที่ใช้ได้ทุกเทศกาล

จากสถิติการซื้อของออนไลน์จากเว็บ Hootsuite ในปี 2020 มีจำนวนมากถึง 34.8 ล้านคน เท่ากับ GDP ของคนไทยเฉลี่ยนซื้อสินค้าต่อคนประมาณ 22,600 บาท ทำให้ใครก็อยากได้ส่วนแบ่งการตลาดจากช่องทางออนไลน์ คู่แข่งบนช่องทางออนไลน์จึงเพิ่มขึ้น แม้แต่ร้านชาบูที่เมื่อก่อนไม่มีขายออนไลน์ ตอนนี้ก็มีให้บริการ ไม่ว่าจะรายเล็กหรือแบรนด์ใหญ่ ๆ ต่างก็ควักกลยุทธ์โปรโมชั่นเด็ดมาเอาใจลูกค้า แต่นอกเหนือจากการลดราคาแล้วคุณมีไอเดียไหนบ้างที่จะมัดใจลูกค้าและสร้างความต่างให้ไม่เหมือนคู่แข่งของแบรนด์คุณ

 

Readyplanet มี 8 ไอเดียมาแบ่งปันให้คุณได้ลองนำไปประยุกต์ใช้เข้ากับแบรนด์ ดังนี้

 

1. การสะสมแต้มแลกส่วนลด สร้างลูกค้าประจำ 

 

 

ในอดีตคุณอาจจะเคยอยู่ในยุคที่ร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านชานมไข่มุก ร้านเบเกอรี่ ร้านคาเฟ่ เน้นการใช้บัตรกระดาษเพื่อสะสมแต้ม แต่ปัญหาหรือข้อเสียนั้นมีค่อนข้างมาก เช่น ลูกค้าอาจจะทำหายบ้าง ลืมพกบัตรมาทุกครั้งจนมีบัตรอยู่หลายใบ หรือลูกค้าต้องมายืนรอคอยให้ร้านค้าประทับตรา เป็นต้น เมื่อปัจจุบันได้เข้าสู่โลกออนไลน์ ร้านค้าต่าง ๆ จึงหันมาทำ Loyalty Program เปลี่ยนจากบัตรกระดาษเป็นการสะสมแต้มในรูปแบบออนไลน์ ทำให้เกิดการสร้างลูกค้าประจำ มัดใจลูกค้าเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ แก้ปัญหาลูกค้าไม่ชอบพกบัตร และยังสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

 

Readyplanet จึงได้คิดค้นและพัฒนาระบบ PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ที่ไม่จำเป็นต้องพกบัตรให้ยุ่งยาก ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น แค่แจ้งเบอร์โทรเพื่อสะสมแต้ม และรับการแจ้งเตือนง่าย ๆ ผ่าน SMS ที่สำคัญช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดต้นทุนค่าผลิต ค่าออกแบบของบัตรสะสมแต้ม สามารถตอบโจทย์ธุรกิจที่อยากกระตุ้นยอดขาย ในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี 

  

ตัวอย่างการใช้งาน : ผู้ประกอบการสามารถสร้างการกระตุ้นยอดขายด้วยคูปอง เช่น ซื้อสินค้าทุกชิ้นในร้าน รับแต้มสะสมแลกของรางวัล ทุก ๆ 10 บาท = 1 แต้ม และลูกค้าเองแลกรับของรางวัลด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์บนมือถือได้เลย

 

2. Birthday Gift คูปองส่วนลดสำหรับวันเกิด 

 

การใส่ใจในรายละเอียดจากข้อมูลของลูกค้าที่มี และทำการติดต่อลูกค้าในโอกาสพิเศษต่าง ๆ หรือวันสำคัญ เช่นวันเกิด หรือเดือนเกิดของลูกค้า พร้อมมอบของขวัญพิเศษ ด้วยการให้  Birthday Gift ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดหรือจัดโปรโมชั่นพิเศษสุด ๆ ก็ตาม

 

 

ระบบ PointSpot ณ วันที่ลงทะเบียนผ่านเบอร์โทรศัพท์ครั้งแรกจะมีการสอบถามชื่อ เบอร์โทรศัพท์รวมถึงวันเดือนปีเกิด ที่เก็บไว้ทำโปรโมชั่นในส่วนนี้ ทางแบรนด์สามารถส่งคูปองส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่เกิดในเดือนนั้น ๆ คล้ายกับการส่งของขวัญให้กับลูกค้านั่นเอง โดยมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อยู่ใน ระบบสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร PointSpot ที่ให้เจ้าของธุรกิจสามารถจัดส่งดีลพิเศษให้ลูกค้าในเดือนเกิดได้ ไม่ว่าจะเป็น คูปองโปรโมชั่น เพื่อใช้เป็นส่วนลด สิทธิ์แลกซื้อ หรือของแจกของแถม จะสามารถกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าหรือบริการ และลูกค้าส่วนใหญ่มักรู้สึกดีเมื่อแบรนด์ต่าง ๆ รู้ใจและบริการเปรียบเสมือนเขาคือคนสำคัญ เทคนิคง่าย ๆ แบบนี้เชื่อว่าแบรนด์ของคุณจะมียอดขายโตเพิ่มทุกเดือนแน่นอน

 

3. โปรโมชั่นส่วนลดราคา

 

 

เทคนิคการลดราคาเป็นเทคนิคที่หลาย ๆ แบรนด์ก็ใช้เช่นกัน แต่คุณเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ จัดโปรโมชั่นส่วนลดอย่างไรให้คุ้มค่า ตัวอย่างเช่น ร้านชานมไต้หวันที่ทำไมคนถึงแน่นร้านทุกวัน ไม่ใช่แค่ว่าสินค้าซื้อง่ายทานง่ายเท่านั้น ยังอยู่ที่กลยุทธ์การตลาดการเอาใจลูกค้าด้วย บางทีการแจกฟรีอาจจะดูเหมือนการลด Value ในสินค้า ลองปรับเปลี่ยนเป็นจัดโปรโมชั่นส่วนลดแบบ session ตัวอย่างเช่น Shopee ชอบใช้บ่อย ๆ  โปร 4.4 . หรือกำหนดเวลาลดเฉพาะ เที่ยงวัน-เที่ยงคืน แล้วแต่ผู้ประกอบการจะออกแบบโปรโมชั่น

 

4. จัดส่งฟรี Free Delivery

 

 

กลยุทธ์ฟรีค่าจัดส่งก็ไม่ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ใหม่สำหรับการขายออนไลน์แต่สำหรับ แพลตฟอร์มเว็บไซต์แล้วยังน้อยรายนักที่มีโปรโมชั่น Free Delivery ส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการจัดส่ง เช่น แบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆ ที่มีการนำเข้าหรือ Pre-Order จะคิดบริการค่าจัดส่งแบบเต็มอัตรา ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ของคุณ ซื้อครบ 1,500 บาท Free Delivery แต่แบรนด์ นาง A ไม่มีโปรโมชั่นฟรีค่าจัดส่ง และคิดค่าส่ง 200 บาท ลูกค้าซื้อสินค้าราคา 1,300 บาท ลูกค้าจะเลือกซื้อกับคุณหรือนาง A สุดท้ายอย่างไรลูกค้าก็จะหาร้านที่คุ้มที่สุด จุดนี้อาจจะทำให้ลูกค้าประทับใจ ยอดลดกำไรเล็กน้อยเพื่อให้ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นก็ถือว่าคุ้มกว่าแน่นอน

 

5. แจกของแถมหรือสินค้าตัวอย่างไปพร้อมกับการส่งสินค้า

 

 

เทคนิคการแจกของแถมหรือสินค้าตัวอย่าง (Tester) เป็นอีกกลยุทธ์ที่ควรใช้ ถ้าแบรนด์ของคุณมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย นอกจากลูกค้าประทับใจแล้ว อาจจะทำให้ได้ยอดขายผลิตภัณฑ์อื่นด้วยจากตัวทดลองที่แบรนด์แถมไปให้ และคุณเชื่อไหมว่า การแจกสินค้าทดลองของคุณสามารถมีผลต่อการบอกต่อของลูกค้าได้ เพราะลูกค้าได้ลองใช้สินค้าจริงทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ และถ้าสินค้าคุณดีจริง ๆ ก็จะกลายเป็นกระแสของการบอกต่อได้อีกด้วย ไม่แน่อนาคตข้างหน้าคุณอาจจะผลิตขนาดทดลองขายได้เลย สังเกตง่าย ๆ อย่างแบรนด์เครื่องสำอางค์เกาหลีเจ้าใหญ่ ผลิตขายทั้งขนาดพกพาและขนาดปกติ

 

6. กระตุ้นให้เกิด Basket Size ที่ใหญ่ขึ้น  

 

หมายถึง กลยุทธ์ที่กระตุ้นยอดขายที่ได้ของแถมราคาเทียบเกือบเทียบเท่าราคาสินค้า เช่น ถ้าซื้อของครบ 700 บาท รับฟรีถุงผ้าลายพิเศษ มูลค่า 300 บาท เรามักจะเห็นบ่อยครั้งกับโปรโมชั่นสินค้าประเภทเสริมความงาม เครื่องสำอาง ยาสระผม เป็นต้น แต่ก็ได้รับนิยมไม่แพ้กลยุทธ์อื่น ๆ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ยอมเพิ่มเงินอีกจำนวนนิดเดียวเพื่อได้ของแถม ไม่น่าจะนักช้อปหรือลูกค้าทั่วไปส่วนใหญ่แล้วก็แพ้ให้กับโปรโมชั่นแบบนี้เสมอ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างเช่น ร้านสะดวกซื้อแบรนด์หนึ่งที่จับเมนู 2 อย่างมาคู่กัน เพื่อให้ได้เครื่องดื่มแถมไปด้วย และผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็จะคล้อยตาม นี่จึงเรียกว่าอิทธิพลของ Basket Size

 

7. จัดแคมเปญโอกาศพิเศษต่าง ๆ เช่น วันวาเลนไทน์ วันสงกรานต์ 

 


แบรนด์ส่วนใหญ่นิยมใช้เทคนิคนี้ในการเรียกลูกค้า ในช่วงเทศกาลพิเศษ ตัวอย่างเช่น ซื้อสินค้าในเดือนเมษายนนี้ ฟรี ซองกันน้ำ ใช้ตัวเลือกการแจกสินค้าที่เข้ากับเทศกาลนั้น ๆ วันวาเลนไทน์ก็เป็นดอกกุหลาบ แต่จะดียิ่งขึ้นทางของที่คุณใช้จัดแคมเปญ มีโลโก้แบรนด์ของคุณติดอยู่ เพราะถ้าลูกค้านำไปใช้แล้วจะเหมือนเป็นการโปรโมตสินค้าหรือบริการของคุณได้แบบฟรี ๆ อีกด้วย

 

8. เทคนิคตั้งราคาให้น่าสนใจ ลงท้ายด้วย 9

 


เทคนิคสุดท้ายที่จะนำเสนอนี้ กลับมา ฺBack to Basic ไม่ว่าจะแบรนด์หรือแม่ค้าทั่วไปทั้งออนไลน์และออฟไลน์ต่างก็ใช้และเพิ่มยอดขายกันนับไม่ถ้วน เนื่องจาก การลงท้ายด้วย 9 ผู้บริโภคมักจะมองว่าราคาดีน่าสนใจ เช่น ร้าน A ขาย รองเท้าคู่ละ 199 บาท ร้าน B ขายรองเท้าแบบเดียวกันเลย แต่ราคา 200 บาท คุณเองสนใจอยากจะซื้อร้านไหน ระหว่าง A กับ B  ถึงแม้จะต่างกันแค่บาทเดียวเท่านั้น แต่ความน่าสนใจแตกต่างกันมาก ซึ่งเทคนิคนี้มีผลการทดลองจาก SpringerLink ทดลองกับสินค้าเสื้อผ้าสตรี โดยแบ่งราคาเป็น $34, $39 และ $44 ปรากฏว่า ราคาเสื้อที่มีราคา $39 นั้นขายดีที่สุด

 

เหนือสิ่งอื่นใด จากไอเดียที่กล่าวมาทั้งหมด คือการพัฒนาสินค้าหรือบริการของคุณอย่างต่อเนื่อง หมั่นสร้างจุดเด่นหรือความพิเศษของคุณให้มีเหนือคู่แข่ง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าประจำของคุณไปอยากเปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าบริการกับเจ้าอื่น หากว่าคุณคือผู้ประกอบการมือใหม่ เราอยากแนะนำให้คุณศึกษา เทคนิคการสร้างร้านค้าออนไลน์ให้น่าคลิก โดยอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ เพื่อที่คุณจะได้ประโยชน์สูงสุดจากฟีเจอร์ที่เรามีให้ 

 

เมื่อคุณเข้าใจเทคนิคต่าง ๆ แล้ว ร้านค้าของคุณก็จะมีลูกค้ามาเยี่ยมชมมากมาย ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นถ้าคุณเลือกใช้ ระบบ R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ เส้นทางค้นพบมิติใหม่แห่งการทำหน้าร้านขายของออนไลน์ ที่ใช้งานง่าย รองรับทุกระบบการใช้ง่าน ไม่ว่าจะเป็น PC หรือ สมาร์ทโฟน รองรับฟีเจอร์ Order Tracking อีกด้วย ง่ายแบบนี้ช่วยประหยัดทั้งทรัพยากรบุคคลและประหยัดเวลาอีกด้วย

 

พร้อมหรือยัง? ที่จะเริ่มสร้างเว็บไซต์ในแบรนด์ของคุณ

สร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ของคุณวันนี้ เริ่มต้นง่ายด้วย R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ทำเว็บไซต์ง่าย ได้เว็บสวย มาพร้อมระบบแชทบนเว็บไซต์ และเครื่องมือการตลาดดิจิทัลแบบครบครัน รองรับทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ ช่วยให้คุณเริ่ม Go Online ได้อย่างครบครัน และไร้กังวล

 

 

Updated: 30 March 2021 | Produced by: Dujnapa Chauthamcharoen