เทคนิคการพัฒนาช่องทางการขายของออนไลน์ในปี 2021

Readyplanet จึงรวบรวมเทคนิคการพัฒนาช่องทางขายของออนไลน์ในปี 2021 มาให้ผู้ประกอบการได้ลองประยุกต์กัน

1. เทคนิคการสร้างเว็บไซต์

พฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยในช่วง COVID-19 ทำให้ผู้บริโภค กว่า 83% ซื้อของผ่านออนไลน์ ทำให้จุดนี้เป็นเหตุผลรองรับ ที่เหล่าผู้ประกอบการหรือแบรนด์ต่าง ๆ หันมาทำตลาดออนไลน์ ซึ่งการจะทำการตลาดออนไลน์ได้ อย่างแรกที่สำคัญเลยคือธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์และการออกแบบเว็บไซต์จะต้องคำนึงถึง

• กลุ่มเป้าหมาย (Meet Target) เจ้าของธุรกิจต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร อยู่ในช่วงวัยไหน สินค้าประเภทนี้เหมาะกับใคร ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเบื้องต้นนี้มีผลต่อรูปแบบหน้าการออกแบบเว็บไซต์

• สีที่ใช้ในการดีไซน์ (Design) การออกแบบสวย เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจที่จะอยู่ในเว็บไซต์นาน ๆ อักษรอ่านง่าย ไม่รู้สึกอึดอัด สบายสายตาเวลาที่เข้ามาเลือกช้อปปิ้ง เพราะสีสัน ความสวยงามจะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าของคุณได้เป็นอย่างดี

• เนื้อหา (Content) ในเว็บไซต์ต้องเป็นมากกว่าการขายหน้าร้าน มีบทความหรือเนื้อหา ที่ให้ลูกค้าได้เข้ามาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างละเอียดและชัดเจน ถ้าเนื้อหานี้ถูกแชร์ออกไป ผลที่ได้จะสร้าง Awarness และอาจจะ Convert มาเป็นยอดขายได้

• การใช้งานง่าย (Easy to use) User ทุกคนที่สนใจและเข้ามาในเว็บไซต์ ต้องรู้สึกประทับใจเพราะใช้งานง่าย รองรับการใช้งานทั้ง Pc และ Moblie ลูกค้าจะรู้สึกไม่มีกำแพงปิดกันในการเลือกซื้อสินค้า ตัวอย่างเช่น IKEA ใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) ผ่านแอปพลิเคชั่นให้ลูกค้าได้เห็นภาพก่อนตัดสินใจ และในช่วง COVID-19 เมื่อปีที่แล้วทำให้ IKEA มียอดขายออนไลน์โตขึ้นถึง 300% ถ้าอยากมีไอเดียที่ดีในการสร้างเว็บไซต์ สามารถอ่านบทความเทคนิคการสร้างเว็บไซต์ร้านออนไลน์ให้น่าคลิกและสร้างยอดขายได้จริง เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณได้โดย คลิกที่นี่

   

  

2. เทคนิคการตอบแชท

การตอบแชทลูกค้าก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความประทับใจในการบริการของธุรกิจคุณ ไม่ว่าจะบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มไหน ๆ ก็ควรมีระบบ Chat เพื่อให้ลูกค้าได้สอบถามข้อสงสัย จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจของลูกค้า และหลักการง่าย ๆ ในการตอบแชทที่ดี คือ

• ตอบเร็ว เพราะการติดใจของลูกค้าที่กำลังอยากได้ ถ้าเราตอบเร็วสนใจลูกค้าเร็ว เปอร์เซ็นต์ในการปิดยิดขายก็จะได้ดีมากขึ้น

• ข้อมูลต้องพร้อมเข้าใจและรู้จักในผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี เผื่อการถ่ายทอดข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ให้ลูกค้าได้ตัดสินใจ

• ใส่ใจทุกปัญหา รับฟัง แก้ไข ไม่ควรมองข้ามปัญหาหรือคำถามที่ลูกค้ามี เพราะอาจทำให้เกิดขอร้องเรียนหรือไม่พอใจในธุรกิจได้ หากลูกค้ามีอารมณ์ร้อน ไม่ควรเถียงและตอบกลับด้วยถ้อยคำที่อาจทำให้เข้าใจผิด หรือหากเข้าใจผิดควรรีบอธิบายและแก้ปัญหา ให้ลูกค้าเชื่อมั่นในธุรกิจของคุณ

• ดูแลหลังการขาย สอบถามความพึงพอใจ ปัญหาที่พบเจอ เพื่อนำมาปรับแก้ให้แบรนด์ของคุณดีขึ้นและเป็นที่น่าประทับใจมากขึ้น และยังขอรีวิวจากลูกค้าเพื่อนำมาสร้างความหน้าเชื่อถือบนหน้าเว็บไซต์ได้อีกด้วย

ในสถานการณ์ที่ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ย่อมต้องเกิดคำถามและต้องการข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า การมีระบบแชทบนหน้าเว็บไซต์จึงตอบโจทย์ให้กับลูกค้าของคุณได้ทันที เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานของคุณและความสะดวกต่อลูกค้าที่สนใจสินค้าผ่านเว็บไซต์ Readyplanet ก็มี Chatday แพลตฟอร์มบริหารแชททุกช่องทางในที่เดียว ที่เป็นช่องทางสำหรับพูดคุยกับลูกค้าบนเว็บไซต์ ให้ธุรกิจบริการของคุณสามารถตอบแชทได้อย่างรวดเร็ว และเรายังมีเทคนิคการตอบแชทลูกค้าอย่างไรให้ปิดยอดการขายได้ง่ายขึ้นมาฝาก ซึ่งสามารถอ่านบทความได้โดย คลิกที่นี่

3. เทคนิคการบริหารจัดการรายการสั่งซื้อ

เมื่อเรามีออเดอร์ผ่านทางออนไลน์มากขึ้นและธุรกิจของคุณก็ยังมีสินค้าที่ขายหน้าร้าน อาจจะทำให้ออเดอร์ปนกันมั่วและเกิดความผิดพลาดได้ ถ้าไม่รู้จักบริหารให้ดี ธุรกิจของคุณควรจึงมีระบบจัดการออเดอร์หรือคำสั่งซื้อที่ดี ไม่ให้ออเดอร์ตกหลน เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการรายการสั่งซื้อ Readyplanet จึงได้ออกแบบระบบ R-Shop แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบครบครัน เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง ระบบ R-Shop นอกจากจะจัดการคำสั่งซื้อได้แล้ว คุณยังสามารถออกแบบหน้าตาของร้านค้าบนเว็บไซต์ได้ ไม่ว่าจะเป็น

• การตั้งค่าเลือกรูปแบบการชำระตั้งค่าสกุลเงินที่รับได้ หรือจะเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า โดยการสามารถเลือกบริการขนส่งเองได้

• การเพิ่ม Section หมวดหมู่สินค้า จุดนี้จะง่ายต่อการค้นหาสินค้าของผู้บริโภค

• ระบบ Order Tracking หากลูกค้าเข้ามาตรวจรายการคำสั่งซื้อจะมีสถานะและเลข Tracking อัปเดตให้ลูกค้าสามารถตรวจเช็คได้ สะดวกต่อผู้บริโภคที่ไม่ต้อง inbox เพื่อถามหาเลข Tracking

นอกจากนี้ยัง R-Shop ยังสามารถเชื่อมต่อกับ PointSpot ระบบสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร เพื่อเอาใจลูกค้าด้วยการสะสมแต้มได้มาเป็นส่วนลดหรือรับของแถมในการซื้อครั้งต่อไปก็ทำได้

4. เทคนิคบริหารทีมขาย

นอกจากจะบริหารยอดขายแล้วยังต้องจัดการทีมขายด้วยเช่นกัน วัน ๆ ออเดอร์ก็มาก การจัดการเยอะ ธุรกิจของคุณประสบปัญหาแบบนี้อยู่หรือไม่? Readyplanet ได้เตรียมทางออกที่ดีเป็นทางเลือกไว้ให้กับธุรกิจของคุณ ด้วยระบบ R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย เป็นระบบที่จะช่วยให้คุณบริหารทั้งยอดขายและทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ R-CRM ยังทำงานร่วมกับฟีเจอร์ R-Insights ที่จะช่วยเก็บข้อมูล Insights ของลูกค้า พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ยกตัวอย่างฟังก์ชั่นของ R-CRM

• Note เพราะในแต่ละวันทีมขายจะต้องประสานกับลูกค้ามากมาย และหากวันหนึ่งจะย้อนกลับมาดูข้อมูลจะได้ง่ายต่อการค้นหาและหากเซลล์คนอื่นต้องประสานงานต่อจะได้มีข้อมูลไว้ครบถ้วน 

• Quotation / Invoice ออกแบบมาให้ง่ายต่อการทำในระบบ R-CRM มีฟังก์ชั่นสำเร็จรูปสามารถกรอกข้อมูลและส่งให้ลูกค้าได้ทันที

• Reminder เตือนความจำ พนักงานขายแต่ละท่านสามารถเลือกตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะนัดพบลูกค้า หรือตามเอกสารกับลูกค้า 

   

   

5. เทคนิคการโปรโมตโฆษณา 

การโปรโมตสินค้า คือ การเรียกลูกค้านั่นเอง ไม่ใช่มีแค่วิธีการนำเสนอโปรโมชั่นดึงดูดเท่านั้น คอนเทนต์มีส่วนในการเรียกลูกค้าเช่นกัน ยังมีข้อดีของการทำโฆษณาอีกมาก สามารถอ่านได้ที่นี่ (คลิก) ไม่ว่าจะธุรกิจเล็กหรือใหญ่ ทุกธุรกิจมีคู่แข่งมากมาย คราวนี้ขึ้นอยู่ที่ไอเดียการนำเสนอของแบรนด์ไหนดีกว่ากัน และที่สำคัญคือคุณภาพสินค้าคุณภาพบริการ ที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ ซึ่งการโปรโมตโฆษณาไม่ใช่การทุ่มเงินเสียเปล่า เหมือนที่หลาย ๆ ผู้ประกอบการเข้าใจผิด เพียงเราต้องวิเคราะห์ก่อนทำการโปรโมตควรเริ่มจากหลักการเบื้องต้น ดังนี้

• เข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของสินค้า การที่เราเข้าใจและวิเคราะห์จุดแข็งของสินค้าออกมา สามารถนำจุดแข็งของสินค้าเราออกมาพรีเซ็นต์ได้เต็มที่ และศึกษาของคู่แข่งเพื่อมาพัฒนาจุดอ่อน

• รู้จักกลุ่มลูกค้า เมื่อเราเข้าใจกลุ่มผู้บริโภค ข้อมูลจุดนี้จะได้นำไปพัฒนาเป็นคอนเทนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าของเราได้

• การออกแบบให้ดึงดูด การดีไซน์รูปภาพ การเสือกสีสันให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า เช่นขายเสื้อผ้าวัยรุ่นหญิง ควรจะเป็นโทนสีพาสเทลที่เหมาะสมกับวัย

• เลือกรูปแบบโฆษณา ควรเลือกรูปแบบที่เข้ากับสินค้าและกลุ่มลูกค้า เช่น กลุ่มลูกค้า Gen Y ชอบเสพคอนเทนต์ภาพเข้าใจง่าย มากกว่าบทความที่ยาวเหยียด

การเลือกรูปแบบโฆษณา ระหว่าง Google Ads และ Facebook Ads

อย่างแรกต้องสำรวจจุดประสงค์ทางการตลาดและรูปแบบของแบรนด์ว่าเป็นประเภทไหนกลุ่มเป้าหมายคือใคร ถ้ากลุ่มธุรกิจรูปแบบ High Involment Product หรือประเภท Business to Business (B2B) ลูกค้ามักมีการค้นหาข้อมูลผ่าน Google ต้องการข้อมูลมากๆ และความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ เนื่องจากสินค้ามีมูลค่าสูง การเลือกใช้ Google Ads ในการโปรโมตจะเหมาะสมกว่า 

ส่วนธุรกิจรูปแบบ Low Involment Product หรือประเภท Business to Customer (B2C) เป็นสินค้ามีมูลค่าปานกลาง กระบวนการตัดสินใจซื้อไม่ซับซ้อนนัก สามารถตัดสินใจได้ทันทีเมื่อเห็นการโปรโมทผ่าน Facebook เช่น สินค้าของใช้ในบ้าน เสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าเหล่านี้จะเหมาะกับการใช้ Facebook Ads 

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในช่วง Covid-19 แบบนี้การขายของผ่าน Platfrom ออนไลน์คือทางออกที่ดีและตรงกับไลฟ์สไตล์ New Normal ที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเรา ไลฟ์สไตล์ในปี 2021 นี้ คาดว่าประชากรไทยจะพฤติกรรมการอุปโภค บริโภคผ่านออนไลน์มากกว่าในปีก่อน ซึ่งการสร้างเว็บไซต์สำหรับแบรนด์ คือ ประตูสำคัญที่ให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่าย สมัยนี้การทำเว็บไซต์ไม่ยากเลย Readyplanet มีบริการ R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One เพื่อให้ธุรกิจของคุณ ได้เพิ่มช่องทางขายผ่านออนไลน์ได้ง่าย ๆ จาก 5 เทคนิคข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว อย่าลืมที่จะใส่ใจกับคุณภาพสินค้าและบริการของคุณให้สมกับที่กลุ่มผู้บริโภคไว้ใจด้วย

R-Web เป็นมากกว่าแค่เว็บไซต์ ทรงพลังด้วยเครื่องมือการตลาดครบครัน

R-Web คือหนึ่งในเครื่องมือของ ReadyPlanet Marketing Platform ที่นอกจากจะทำเว็บไซต์ง่ายแล้ว ยังมาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่วันแรก จนกลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำที่ผูกพันกับธุรกิจของคุณ