ลงโฆษณา Facebook Ads ทำอย่างไรให้ได้ผล ?

Facebook เป็นช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่สำคัญและเป็นที่นิยมกันอย่างมาก Readyplanet เองก็เป็นผู้ให้บริการด้านโฆษณาออนไลน์ รวมถึงการทำ Facebook Ads ที่ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้ามากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งใช้เม็ดเงินโฆษณาปีละกว่า 1,000 ล้านบาท ด้วยชำนาญและประสบการณ์การทำโฆษณาออนไลน์ ของ Readyplanet มาอย่างยาวนาน ผ่านผู้เชี่ยวชาญของเรามากมาย จึงมองเห็นปัจจัยของความสำเร็จในการลงโฆษณา Facebook ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาฝากกัน

3 ปัจจัยหลักในการเริ่มต้นทำโฆษณาออนไลน์และ Facebook Ads 

 

1. หลักการวางกลยุทธ์และกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด (Targeting the Right Audience)

 

ก่อนที่คุณในฐานะนัดการตลาดออนไลน์หรือเป็นเจ้าของธุรกิจใด ๆ จะวางกลยุทธ์ได้เฉียบคมและตรงจุดได้นั้น จะต้องตอบคำถามให้ได้ 2 ข้อนี้ก่อนคือ

 

1.1 คุณคือใคร ? โดย Readyplanet ขอแบ่งประเภทของธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่



กลุ่ม A: Lead Generation คือ ธุรกิจประเภทที่ต้องการรายชื่อผู้สนใจ อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, คลินิกเสริมความงาม หรืออาจจะเป็นธุรกิจบริการหรือต้องการขายสินค้าทีละเยอะๆ, Made to Order ต้องการการพูดคุยต่อรอง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทB2B (Business to Business : คือการทำธุรกิจกับอีกธุรกิจหนึ่ง หรือธุรกิจหนึ่งที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับอีกธุรกิจหนึ่ง)

 

กลุ่ม B: Social Commerce คือ ธุรกิจค้าปลีกที่ขายสินค้าจำนวนชิ้นไม่เยอะมากแบบ B2C (Business to Consumer : คือการขายสินค้าและบริการไปยังผู้บริโภคโดยตรง) ส่วนใหญ่กลุ่ม Social Commerce นี้จะเป็นรายใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาทำการตลาดออนไลน์ ที่ใช้ Facebook เป็นช่องทางหลัก

 

กลุ่ม C: E-Commerce คือ กลุ่มธุรกิจ B2C ที่เข้ามาทำการตลาดออนไลน์ได้สักพักหนึ่ง โดยมีช่องทางการขายหลายช่องทาง ทั้ง เว็บไซต์ที่มีระบบ Payment รองรับการสั่งซื้อสินค้าได้, มี Facebook และ Social Media ต่างๆ ไว้เป็นช่องทางการติดต่อลูกค้าแล้ว

 

1.2 ลูกค้าคุณคือใคร ? เพราะการทำความเข้าใจลูกค้าคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรหรือประเภทไหน คุณจะต้องเข้าใจลูกค้าในหลายมิติ ดังนั้น การทำ Buyer Personar ของลูกค้าคุณ จะช่วยให้คุณเห็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเฉียบคมและตรงจุดได้อีกด้วย

 

1.3 วัตถุประสงค์ทางการตลาดออนไลน์ของคุณคืออะไร ? ทำไมต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ก่อน?! ก็เพราะว่าทุกครั้งที่คุณจะสร้างโฆษณาออนไลน์ รวมถึงการลงโฆษณา Facebook เองก็ตาม Facebook Ads จะถามถึงวัตถุประสงค์ของคุณก่อนเสมอ

 

 


ซึ่งถ้าถาม Readyplanet ว่า “จำเป็นต้องทำทั้ง 3 วัตถุประสงค์เลยหรือไม่?”  เราก็จะขอตอบว่า “จำเป็น!” เพราะธุรกิจออนไลน์ทุกวันนี้ต้องการทั้ง การสร้างการรับรู้ (Awareness) การมองหาคนที่สนใจ (Consideration) ไปจนถึงคนที่พร้อมจะสั่งซื้อสินค้า (Conversion) ด้วย


ฉะนั้น เมื่อคุณสามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจทั้งประเภทธุรกิจของคุณ ลูกค้าของคุณ และวัตถุประสงค์ทางการตลาดออนไลน์ของคุณได้ทั้งหมดแล้ว อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “วัตถุประสงค์ทางการตลาดของ Facebook Ads”
 


Facebook Marketing Objective การลงโฆษณา Facebook จะมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ 3 ข้อคือ

 

 

 

- Awareness คือการสร้างการรับรู้ ซึ่งความแตกต่างระหว่าง Brand Awareness กับ Reach ก็คือ Brand Awareness เน้นสร้สงการรับรู้ของแบรนด์และธุรกิจของคุณ ส่วน Reach จะเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณสนใจเท่านั้น 

 

- Consideration คือการมุ่งหาคนที่มีความสนใจในมิติต่างๆ เช่น Traffic (หาคนเข้าไปยังช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น), Engagement (หาคนที่สนใจการปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจเรา), Video Views (คนที่สนใจการดูวิดีโอ), Lead Generation (หาคนที่สนใจการให้รายชื่อ), Messages (หาคนที่ชอบ inbox เข้าไปพูดคุยสอบถาม) 

 

- Conversion คือการมุ่งหาคนที่เคยคลิกสั่งซื้อบนเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

 

จากภาพจะเห็นได้ว่า Facebook Ads มีวัตถุประสงค์ทางการตลาดออนไลน์มากมายจนเลือกไม่ถูก แล้วควรจะเลือกอะไรดีล่ะ ? 

 

Readyplanet มีไกด์ไลน์การเลือก Facebook Marketing Objective ของแต่ละประเภทธุรกิจ มาให้คุณได้ลองเอาไปเป็นแนวทางกัน ดังนี้

 

  • การเลือก Facebook Marketing Objective ของกลุ่มธุรกิจ Lead Generation

 

 

 

หากคุณคือกลุ่มธุรกิจ Lead Generation ที่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักมาก ให้เลือก Brand Awareness ถ้ามีเว็บไซต์แล้วก็เลือก Traffic แต่ถ้ายังไม่มีเว็บไซต์ให้เลือก Lead Generation เพราะข้อดีของ Facebook Ads ก็คือมันจะช่วยสร้างฟอร์ม เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของคุณกรอกข้อมูล ชื่อ เบอร์โทร หรืออีเมล ให้คุณได้ และหากคุณมีเว็บไซต์และ Track Conversionได้ ก็สามารถเลือกวัตถุประสงค์ที่เป็น Conversionได้อีกเช่นกัน

 

  • การเลือก Facebook Marketing Objective ของกลุ่มธุรกิจ Social Commerce

 

 

 

 

หากคุณคือธุรกิจประเภท Social Commerce ที่มุ่งเน้นการขายสินค้าเพียงอย่างเดียวและพอที่จะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว การเลือกวัตถุประสงค์แบบ Awareness อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคุณ แต่หากธุรกิจคุณเพิ่มเริ่มต้นแนะนำให้ทำ Brand Awareness ไว้ด้วย ในส่วนของวัตถุประสงค์ที่มุ่งเน้นการขาย แต่ไม่มีเว็บไซต์ เราแนะนำให้เลือก Engagement และ Messages ส่วนถ้าคุณสนใจการพากลุ่มเป้าหมายไปยังหน้าร้านของคุณ ก็สามารถลองเลือกวัตถุประสงค์แบบ Store Traffic  ได้

 

  • การเลือก Facebook Marketing Objective ของกลุ่มธุรกิจ E - Commerce

 

 

 

 

สำหรับกลุ่มธุรกิจ E-Commerce ที่เรียกได้ว่าเก๋าในโลกของการตลาดออนไลน์มาสักพักหนึ่ง ก็จะแนะนำคล้ายๆ กับ Social Commerce คือ หากธุรกิจคุณพอที่จะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว การเลือกวัตถุประสงค์แบบ Awareness อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคุณ แต่หากธุรกิจคุณเพิ่มเริ่มต้นแนะนำให้ทำ Brand Awareness ไว้ด้วย นอกจากนั้น การทำ VDO Content ไว้ก็จะมีประโยชน์สำหรับการเลือกวัตถุประสงค์แบบ VDO View เพราะสามารถนำมาทำโฆษณาออนไลน์ได้ หรือหากคุณมีแอพพลิเคชั่นแล้ว ก็สามารถเลือก App Installs ได้เช่นกัน และเมื่อคุณมีเว็บไซต์ที่สามารถ track conversion ได้แล้ว ก็สามารถทำโฆษณาออนไลน์ให้ได้ผลดียิ่งขึ้นด้วยการเลือกวัตถุประสงค์ที่เป็น conversion ได้เลย

 

“เว็บไซต์ที่สามารถ track conversion คืออะไร ? คือเว็บไซต์ที่มีการติดตั้ง Google Tag Manager หรือ Facebook Pixel แล้ว” สามารถคลิกดูวิธีการติดตั้ง Google Tag Management โดย คลิกที่นี่ และวิธีการติดตั้ง Facebook Pixel โดย คลิกที่นี่

 

2. หัวใจในการทำโฆษณาให้ลูกค้ารัก ลูกค้าชอบ เพื่อเพิ่มโอกาสการขายได้สูง Making an Impact with Targeting & Creative


ในข้อนี้ใจความสำคัญคือการเข้าใจลูกค้าของคุณ ซึ่งก่อนจะเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริงนั้น คุณจะต้องรู้ก่อนว่า ลูกค้าของคุณคือใคร? ซึ่งคุณได้ตอบคำถามนี้ไปแล้วในข้อแรก ฉะนั้น ลำดับถัดไปก็คือ “เลือกลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่คุณอยากได้ยังไง ?”

 

2.1 กลุ่มเป้าหมาย Targeting ของ Facebook Ads มี 3 กลุ่มดังนี้ คือ

 

 

การเลือกกลุ่มเป้าหมายหลัก Core Audience เราจำเป็นต้องใส่ข้อมูลต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการเองในระบบของการลงโฆษณา Facebook เช่น เพศ อายุ ที่อยู่ ความสนใจ หรือพฤติกรรมต่างๆ ดังภาพ

 

 

 

และข้อมูลที่ดีที่สุดในการเลือกก็คือ ข้อมูลในการทำ Buyer Personar ที่คุณทำไปแล้วในข้อแรกนั่นเอง

 

แต่คุณก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า วิธีการเลือก Core Audience นี้ คุณต้องใจเย็นและค่อยๆ ทดลองและวัดผลแนวคิดไปเรื่อยๆ จนได้สิ่งที่ดีที่สุด


การเลือกกลุ่มเป้าหมายหลัก Custom Audience คือกลุ่มลูกค้าที่รู้จักธุรกิจของคุณอยู่แล้ว และคุณมีข้อมูลของลูกค้า ทั้ง เบอร์โทร อีเมล คนที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ (จะต้องติดตั้ง Facebook Pixel Google Analytic แล้ว)  ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่รู้จักและสนใจธุรกิจของคุณอยู่แล้ว มากกว่าคนใหม่ในกลุ่ม Core Audience ฉะนั้น หากคุณมีงบโฆษณาออนไลน์จำกัด ก็ควรที่จะเอาเงินลงไปในส่วนนี้ก่อน

 

 

การเลือกกลุ่มเป้าหมายหลัก Lookalike Audience คือกลุ่มคนที่มีความคล้ายกลุ่มคนที่เป็น Custom Audience

 

 

2.2 Creative ซึ่งมี 3 องค์ประกอบหลักของการทำ Creative นั่นก็คือ 

 

  • Text (ข้อความ) คือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าสนใจและต้องการ
  • Picture (รูปภาพ) คือ ทำอย่างไรให้น่าสนใจและหยุดดู
  • Call to Action (ปุ่มคำสั่ง) คือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าดำเนินการตามที่เราต้องกร

 

 

3. ควรมีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณทำโฆษณาออนไลน์ หรือ Facebook Ads ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  

 

Readyplanet ขอแนะนำ แพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลครบวงจร Readyplanet Marketing Platform พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล ที่มักมีการตัดสินใจซื้อที่ซับซ้อน สามารถตอบโจทย์ทุกกิจกรรมการตลาดในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่มีให้ครบในที่เดียว ออกแบบให้บริหารจัดการได้ง่าย เชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน ในงบประมาณที่คุ้มราคา  ลงทะเบียนและเริ่มต้นใช้ฟรี คลิกที่นี่ 

 

ว่าด้วยเรื่องของการทำโฆษณาออนไลน์นั้น เป็นเสมือนศิลปะที่มีวิทยาศาสตร์เข้ามาปนเป็นไกด์ไลน์ ซึ่งคุณในฐานะนักการตลาดออนไลน์หรือผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ จะต้องเรียนรู้และทดลองไปเรื่อย ๆ เพื่อหาวิธีการของผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้ธุรกิจคุณ

 

ซึ่ง Readyplanet สามารถเข้ามาช่วยในเรื่องของการทำโฆษณาออนไลน์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อย่างไรได้บ้าง ? “เรามีแพลตฟอร์ม ที่เป็นระบบและมีคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำโฆษณาออนไลน์” เพื่อช่วยคุณประหยัดเวลาในการเรียนรู้ อาทิ ระบบสร้างเว็บไซต์ฟรี, ระบบเว็บขายของออนไลน์, ระบบ R-Widget เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อให้ลูกค้าคุณ, กล่องข้อความ Chatday, ระบบ R-CRM, และ R-Insights โดยระบบเหล่านี้จะเสมือนเป็นการติดอาวุธ เพื่อช่วยให้ การทำโฆษณา Facebook Ads ของคุณมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำ Facebook Ads ที่มี Objective เป็น Conversion หรือการทำ Facebook Retargeting ที่ต้องการความแม่นยำมากขึ้นนั้น จะต้องใช้ข้อมูลที่มาจากเว็บไซต์เกือบทั้งหมด และหากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ในการทำ  Facebook Ads และการทำโฆษณาออนไลน์เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้ในยุคดิจิตอลนี้

 

สำหรับผู้ที่สนใจบริการ AdPro Dynamic - Facebook
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดย คลิกที่นี่

 

Updated: 06 October 2020 | Produced by: Dujnapa Chauthamcharoen