อัปเดตให้ไว! เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ในปี 2021

โลกเปลี่ยนไว ธุรกิจก็ต้องปรับตัวตามให้ทัน ยิ่งถ้าหากทำธุรกิจหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงรวดเร็วด้วยนั้น กลยุทธ์การตลาดที่วางไว้ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงต้องพัฒนาแพลตฟอร์มทางดิจิทัลที่ธุรกิจหรือบริการของเราใช้อยู่ด้วย ซึ่งแพลตฟอร์มหนึ่งที่สำคัญคือ "เว็บไซต์" ที่นอกจากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือแล้ว ยังสามารถใช้โปรโมทได้ในหลายช่องทาง เช่น Search, Social เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าคลิก link มาสั่งซื้อสินค้าได้ทันที

 

เมื่อมีเว็บไซต์เพื่อรองรับพฤติกรรมออนไลน์ของลูกค้าแล้ว แน่นอนว่าจะต้องปรับเพื่อให้มีความน่าสนใจและใช้งานง่าย โหลดเร็ว ให้ความรู้สึกสดใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเว็บโปรไฟล์บริษัทหรือเว็บไซต์ e-commerce ที่มีสินค้าพร้อม shopping cart สำหรับการซื้อสินค้าทันทีก็ตาม ล้วนต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ  

ในปี 2021 นี้ มีเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์และเทคนิคการพัฒนาให้เว็บไซต์ของเราน่าซื้อมากยิ่งขึ้นอย่างไร เราลองมาดูกัน

 

1. Responsive Design แสดงผลได้ดีบนมือถือ

 

 

 

แม้จะเป็นเรื่องเดิมที่กล่าวถึงกันมาหลายปีว่าเว็บไซต์ต้องแสดงผลได้ดี อ่านง่ายใช้ง่ายบนมือถือ ปีนี้หากเว็บไซต์ของใครยังดูสวยงามและใช้งานง่ายผ่านคอมพิวเตอร์อย่างเดียวแล้วล่ะก็ จะยิ่งเสียโอกาสการอ่านและซื้อสินค้าหรือบริการไปแน่ๆ  เพราะพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคจะใช้งานผ่านมือถือมากยิ่งขึ้นไปอีก เว็บไซต์ที่ใช้งานผ่านมือถือต้องใช้งานง่าย ติดต่อง่ายเช่นมี R-Widget ปุ่มติดต่ออัจฉริยะสำหรับเว็บยุคใหม่ สำหรับช่องทาางการติดต่อ สั่งสินค้าง่าย มี shopping cart เมื่อเว็บไซต์แสดงผลได้ดีบนมือถือหรือสมาร์ทโฟนแล้ว ลองกระตุ้นด้วยโปรโมชั่นดีๆ ลูกค้าไม่มีทางหนีไปไหนแน่นอน 

 

2. Headline โดดเด่น Content ต้องเคลียร์

 

การเข้าชมเว็บไซต์ในวินาทีแรก ๆ ถือเป็น First Impression ที่ส่งผลต่อการอยู่ในเว็บไซต์ต่อ และทำให้เกิดการตัดสินใจติดต่อหรือซื้อสินค้าในขั้นตอนต่อไป ดังนั้น เว็บไซต์จึงควรปรับ Headline (คำพาดหัว) ให้โดดเด่น น่าสนใจ ส่วนเนื้อหาต้องเคลียร์ สัมพันธ์กับ Headline มีคีย์เวิร์ดที่เป็นคำหรือกลุ่มคำที่ลูกค้าค้นหาบ่อย เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับใน Google อาจทำข้อความเป็นตัวหนาบางตำแหน่ง เพื่อให้ใจความสำคัญของเราโดดเด่น หรือมีข้อความโปรโมชั่นช่วยดึงดูดให้ลูกค้ากดซื้อสินค้าทันที ใส่ข้อความที่สื่อสารจุดเด่นของแบรนด์ของคุณอย่างชัดเจน 

 

เมื่อลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์แล้วเห็น Headline โดดเด่น จะเกิดจุดโฟกัสสายตาและพาให้อ่านข้อมูลรายละเอียดสินค้าหรือบริการต่อ เข้าใจจุดเด่นของแบรนด์ และอ่านต่อเนื่องได้นานขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจสั่งซื้อในภายหลัง สิ่งสำคัญคือห้าม copy เนื้อหาของเว็บไซต์อื่น ๆ มาเนื่องจากผิดทั้งกฎหมายและหลักการตลาดออนไลน์ที่ดี    

 

3. ผสมผสานดีไซน์ ภาพถ่ายและงาน graphics

หากเว็บไซต์ของคุณเขียนเนื้อหาหรือสร้าง content ที่ได้คุณภาพแล้ว แสดงว่าผ่านงานหลักไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปจึงเป็นงานสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง คือ เทรนด์การใช้ภาพถ่ายหรืองาน graphics ผสมผสานกัน ประกอบกับเนื้อหาที่เขียนไปให้สัมพันธ์กัน สร้างความน่าสนใจ เช่น มีลายเส้นกราฟิกซ้อนทับบนภาพถ่ายสินค้าจริงเพื่อแสดงถึงไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ หยิบเอาลายเส้นหรือลวดลายเรขาคณิตมาสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์อย่างเหมาะสม ไม่มากเกินไปให้มีลูกเล่นแบบใหม่ๆ ต้อนรับปี 2021

 

หากธุรกิจหรือบริการของคุณต้องใช้คนในการพรีเซนต์สินค้า การเพิ่มรูปถ่ายจริงของคนและใส่ลายกราฟิกเข้าไปทำให้เว็บไซต์น่าสนใจขึ้น ด้วยธรรมชาติการอ่านของคนที่สายตาผู้อ่านมักมองไปยังหน้าคนบนเว็บไซต์ด้วย ดังนั้น การใช้รูปถ่ายคนเพื่อนำสายตาให้ไปยังเนื้อหาที่สำคัญจึงเป็นเรื่องที่ควรพิจารณา ส่วนการเลือกรูปถ่ายหากใช้ Photostock ต้องแน่ใจว่าคุณมีลิขสิทธิ์ในการใช้อย่างถูกต้อง แต่ที่ดีที่สุดคือการใช้รูปถ่ายของคุณเองเพื่อให้มีเอกลักษณ์เป็นธุรกิจที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น 

 

 4. มี White Space ที่เหมาะสม 

 

นอกจากจัดวางดีไซน์ที่โดดเด่น ใช้งานง่ายแล้ว White Space ก็เป็นอีกเทรนด์ที่น่าสนใจและน่าจับตามอง แน่นอนว่าหน้าเว็บไซต์หลักอาจจะต้องคำนึงถึงโทนสีของแบรนด์เราเป็นหลัก ไม่เปลี่ยนโทนสีบ่อย การออกแบบให้ดูคลีนไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนให้เป็นโทนสีขาวทั้งหมด แต่นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมมากขึ้น เพิ่ม White Space ให้มากขึ้นเช่นกรอบสีขาวที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพสินค้าหรือบริการ หรือลองอัปเดตเทรนด์สี 2021 ที่กำลังมาแรงเพื่อดูว่าสามารถนำมาปรับใช้กับสินค้าหรือบริการของเราได้อย่างไรบ้าง

 

5. เว็บไซต์ต้องโหลดเร็ว

 

อัปเดตด้านดีไซน์ออกแบบเว็บไซต์ปี 2021 ไปแล้ว แต่ถ้าเว็บไซต์ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณโหลดช้าคงไม่ดีแน่ เป็นที่ทราบกันว่าผู้บริโภคสมัยนี้ไม่ชอบรออะไรนานๆ หรือใช้เวลารอคอยได้น้อยลงเรื่อยๆ Google พบว่าผู้ใช้งานกว่า 53% จะปิดเว็บไซต์ที่โหลดไม่เสร็จภายใน 3 วินาที ถ้าเว็บไซต์โหลดช้าอาจทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย หากคุณไม่ชอบรออะไรนานๆ นั่นก็คือพฤติกรรมของลูกค้าเช่นกัน  

 

6. วางโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ดี 

การวาง Structure หรือโครงสร้างบนหน้าเว็บไซต์ของเรา ต้องใช้งานง่าย ไม่หลงทาง หากคุณอยากรู้ว่าพฤติกรรมลูกค้าบนหน้าเว็บไซต์เป็นอย่างไร ถ้าให้อธิบายง่ายๆ คือให้คุณลองหากลุ่มเป้าหมาย และให้พวกเขาเหล่านั้นคลิกเข้ามายังเว็บไซต์ต่อหน้าคุณโดยไม่ต้องอธิบายใดๆ หลังจากเขาคลิกอ่านไปตามหน้าต่าง ๆ ตามสมควรแล้ว ลองถามว่า คนเหล่านี้เข้าใจธุรกิจของคุณอย่างไร ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการสื่อสารออกไปหรือไม่ ถ้ายังไม่ใช่สามารถนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นได้เช่นกัน  

 

7. วางคีย์เวิร์ดสำคัญ เพื่อช่วยเรื่อง SEO 

 

ไม่ว่าเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปอย่างไรในแต่ละปี แต่การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับใน Google Search ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอยู่เสมอ การออกแบบ Sitemap และวางคีย์เวิร์ดสำคัญ ในตำแหน่งต่าง ๆ ของหน้าเว็บไซต์ ช่วยให้ติดอันดับบนหน้า Google มากขึ้น เมื่อลูกค้าของคุณเสิร์ชพบบนหน้าแรกของ Google ก็ช่วยเพิ่มโอกาสการซื้อเป็นอย่างดี 

 

ลองใช้เครื่องมือ Google Search Console ที่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์ของเราให้ดีขึ้นได้ คลิกเพื่ออ่านวิธีการติดตั้ง Google Search Console ได้ที่บทความนี้ 

 

8. เพิ่มช่องทางการติดต่อที่ง่ายและครบ

 

การมีช่องทางการติดต่อที่ง่ายและครบถ้วน ช่วยให้ลูกค้าติดต่อคุณได้เร็วมากขึ้น ในประเทศไทยเราที่มีการใช้ช่องทาง chat ค่อนข้างมากและหลากหลาย หรือจะกล่าวได้ว่าเราเป็นประเทศแห่ง Chat Commerce หรือ Conversational Commerce เลยก็ว่าได้ ดังนั้นการใช้ R-Widget ปุ่มติดต่ออัจฉริยะสำหรับเว็บยุคใหม่ ติดตั้งในเว็บไซต์เพียงครั้งเดียว จะแสดงผลครบทุกหน้าบนเว็บ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีและไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากการติดตั้ง Web Chat แล้ว การมีปุ่มรวบรวมทุกช่องทางติดต่อให้คลิกเพื่อไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น LINE Chat, Facebook Messenger Chat  หรืออื่นๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดี และอย่าลืม Click to call ใน R-Widget เพื่อเพิ่มการติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ให้ง่ายขึ้น

 

เทรนด์และแนวโน้มการออกแบบเว็บไซต์สำหรับปี 2021 ที่ Readyplanet แนะนำ สามารถลองปรับใช้เพื่อให้เข้ากับเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องนำไปใช้ทั้งหมดก็ได้ แค่เลือกที่สื่อออกมาได้เป็นตัวตนของเราที่สุดก็พอ หากเว็บไซต์ที่คุณใช้งานอยู่ไม่อัปเดตหรือถึงเวลาต้องปรับดีไซน์พร้อมออกแบบเว็บไซต์ใหม่ให้ตามเทรนด์และตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น ขอแนะนำ R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One 

 

R-Web เป็นมากกว่าแค่เว็บไซต์ ทรงพลังด้วยเครื่องมือการตลาดครบครัน
R-Web คือหนึ่งในเครื่องมือของ ReadyPlanet Marketing Platform ที่นอกจากจะทำเว็บไซต์ง่ายแล้ว ยังมาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-one ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่วันแรก จนกลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำที่ผูกพันกับธุรกิจของคุณ
 

Updated: 10 November 2020