1. Smart Bidding : คือ กลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติ โดยใช้ Machine Learning เพิ่มประสิทธิภาพในความแม่นยำและตรงตามวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาออนไลน์มากยิ่งขึ้น

โดยการทำงานของ Smart Bidding นั้นจะใช้ AI หรือ Machine Learning วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากของกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง พฤติกรรมจากฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้า และเสนอเป้าหมายใหม่ๆ จากสัญญาณต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ

• Location (สถานที่) : มีให้เลือกได้ทั้ง สถานที่อยู่อาศัย ไปจนสามารถเลือกได้เฉพาะเจาะจง อย่าง “คนที่ท่องเที่ยวปารีสเดือนสิงหาคม” เป็นต้น
• Demographic Data : ข้อมูลประชากรพื้นฐาน เช่น เพศ อายุ ภาษา
• Device (อุปกรณ์ที่ใช้)  : เช่น โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือแท็บเล็ต ไปจนถึงเลือกระบบปฏิบัติการ เช่น Android หรือ IOS
• Browser : เช่น ผู้ที่เข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Firefox, Google Chrome 
• Remarketing List : ข้อมูลหรือรายการของกลุ่มคนที่เข้ามาในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของคุณ ซึ่งข้อมูลในส่วนของ Remarketing List : นั้น คุณจะต้องมีเครื่องมือในการ Tracking บนเว็บไซต์ที่ดีเพื่อให้ Google AI เชื่อมต่อข้อมูลในการทำ Smart Bidding ได้ ReadyPlanet จึงขอแนะนำ R-Widget เครื่องมือการตลาดที่รวมทุกช่องทางการติดต่อในปุ่มเดียว ใช้วัดผลโฆษณาและการติดต่อบนเว็บไซต์ได้ ทั้งแบบฟอร์มติดต่อ, เบอร์โทร, ฝากเบอร์โทรกลับ, แผนที่, LINE, Facebook Messenger ฯลฯ ให้ลูกค้าที่เข้ามายังเว็บไซต์ติดต่อกับธุรกิจคุณง่ายขึ้น

สมัครใช้ฟรี คลิก!

นอกจากนั้น คุณยังสามารถ Track ข้อมูล Customer Journey ของลูกค้า ไปตามช่องทางต่างๆ หลังจากการเข้าเว็บไซต์ของคุณ จนถึงกระบวนการปิดการขายได้ โดยการติดตั้งระบบ CRM เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าได้ตั้งแต่ ออกใบเสนอราคา ไปจนกระทั่งปิดการขาย เพื่อการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ได้แม่นยำ อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลทั้งหมดนี้ ไปใช้ใน Smart Bidding เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำโฆษณา Google ได้อีกด้วย

2. Responsive Search Ads : เราสามารถสร้าง Ad text ได้ถึง 10 Headline และ 4 Description จากนั้น Machine Learning ของ Google จะคัดเลือก Headline และ Description ที่ดีที่สุด มาแสดงผลโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การทำโฆษณาได้ผลดียิ่งขึ้น

3. Responsive Display Ads : คือเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานโฆษณาในรูปแบบ Display ของ Google Ads ซึ่งรูปแบบของโฆษณา Display ที่แบนเนอร์บนพื้นที่ต่างๆ บนเว็บไซต์ที่เป็นเครือข่ายของ Google 

ซึ่งเราสามารถใช้ภาพในการทำโฆษณา 1 ชิ้นได้สูงสุดถึง 15 ภาพ รวมทั้งสามารถใช้ Video ที่เราได้อัพโหลดขึ้น YouTube Channel ของเรามาเป็นสื่อโฆษณาได้ด้วย โดยระบบ AI ของ Google Ads จะค่อยๆ ทำการเรียนรู้และเลือกใช้ Headline คำอธิบาย และภาพที่ใช้ทำโฆษณาที่ได้รับการตอบรับทดีที่สุดมาแสดงผล 

โดยชิ้นงานโฆษณาที่สร้างด้วย Responsive Display Ad จะสามารถปรับเปลี่ยนขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ต่างๆ ที่รองรับโฆษณา Display Network ของ Google ได้โดยอัตโนมัติได้อีกด้วย

และนี่คือ 3 สุดยอดความฉลาดของ Google AI ที่ช่วยในการทำโฆษณาออนไลน์
เพื่อ “ดึงคนที่ใช่ มาให้เป็นลูกค้าของคุณ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ปรึกษาเรื่องการทำโฆษณาออนไลน์ หรือสอบถามเครื่องมือการตลาดออนไลน์อื่นๆ

กรุณากรอกแบบฟอร์มด้านล่าง เราจำให้ผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับไปหาท่านโดยเร็วที่สุด