เทคนิคทำ Call-to-action บนเว็บอย่างไร?ให้ได้ผลดี

Call-to-action คือ การใช้คำ เสียง หรือตัวอักษร เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจและให้เกิดพฤติกรรมบางอย่าง (โดยทางการตลาดมักมีคำเรียกย่อว่า CTA) สำคัญอย่างมากตรงที่สามารถเป็นจุดเหนี่ยวไกให้คนเกิดพฤติกรรม ซึ่งถือว่าสำคัญมากในการทำการตลาด เราไม่ควรให้คนที่เห็นคอนเทนต์ใดๆ เห็นแล้วเพียงผ่านไป

คอนเทนต์ประกอบ

ควรมีความสั้นกระชับ แต่แน่นอนว่าการจะจูงใจให้คนเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ คนเหล่านั้นจะต้องได้รับข้อมูลให้แน่ใจและรู้สึกพร้อมในระดับนึงก่อน จึงนิยมเกริ่นนำ ดึงจุดแข็งของสินค้าและบริการมาไว้ด้านบน สลับกับการสอดแทรกช่องทางการติดต่อช่วยเหลือ หรือปุ่ม call-to-action ไว้ถึงสองสามจุดบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ง่ายต่อการเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียน การกดสอบถาม การกดโทรหาร้านค้า การติดต่อผ่านช่องทางต่างๆอย่างโซเชี่ยลมีเดีย เป็นต้น

 

Format หลากหลาย

Call to action มีหลากหลายรูปแบบที่ดึงดูความสนใจจากผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ที่นิยมใช้กัน เช่น single button ปุ่มเดียว เน้นการใช้งานเรียบง่ายไม่ซับซ้อน หรือเป็นข้อความ text อย่างเดียว รวมถึงทำเป็นภาพสวยงามก็ได้เช่นกัน แค่เลือก format ให้เหมาะสมกับดีไซน์ของเราและคำนึงถึงการใช้งาน แต่สิ่งสำคัญเลยคือ ต้องไม่ลืม link ของหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการนำ User ไปยัง action นั้นๆ ด้วย

 

ขนาด สี ตำแหน่ง

Call to action ที่ดี ควรอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นง่าย สะดุดตา ทั้งขนาดและโทนสีที่เลือกใช้ พยายามอย่าให้มีข้อความอะไรมาบังหรือลดความน่าสนใจของปุ่มเหล่านี้ อาจจะมี white space หรือพื้นที่โดยรอบเหลือพอสมควร ซึ่งโทนสีอาจจะตัดกับพื้นหลังของสีพื้นเพื่อเพิ่มความโดดเด่น แต่ยังอยู่ใน mood & tone ของสินค้าและบริการนั้นๆ เป็นต้น

 

ติดเครื่องมือช่วยกระตุ้นการติดต่อ

เพิ่มช่องทางการติดต่อร้านค้า เช่น ปุ่มการโทรออก ปุ่มแผนที่ ปุ่มการติดต่อผ่านเฟสบุค ปุ่มการติดต่อผ่านไลน์ โดยในปัจจุบันมีเครื่องมือที่เรียกว่า widgets ช่วยอำนวยความสะดวกให้ร้านค้าในการติดตั้งหน้าเว็บแล้วมากมาย นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึง และติดต่อพนักงานขายได้ง่ายขึ้นแล้ว ร้านค้ายังสามารถวัดผลโฆษณาได้ละเอียดและแม่นยำขึ้นอีกด้วย

 

User experience

การที่จะให้คนกดที่ Call-to-action จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ในด้านเว็บไซต์เกี่ยวกับ User Experience อยู่บ้าง เช่นเรามักจะเห็นปุ่ม Call to action อยู่บริเวณด้านบนหรือไม่ก็กึ่งกลางของเว็บไซต์ เพราะคนส่วนน้อยที่จะเลื่อนมายังส่วนของ Footer ด้านล่างสุดนั่นเอง

สรุป และ ReadyPlanet แนะนำ

การทำ Call to action สิ่งสำคัญที่ต้องมีเป็นลำดับแรกคือ การสร้างเว็บ ทำเว็บ ให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมาย ออกแบบเว็บไซต์ ให้สวย ทันสมัย โดนใจลูกค้า หลังจากนั้น Call to action จะเป็นพระเอกสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของเรามีลูกค้าติดต่อเข้ามาจริง ซึ่งการใช้ Widget ที่รวมทุกช่องทางสำคัญ ไว้บนเว็บไซต์ เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ดี ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า รวมถึงธุรกิจก็จะสามารถบริหารจัดการรายชื่อลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาได้ง่าย และมีประสิทธิภาพผ่านระบบ CRM สำหรับบริหารงานขาย