CEO เรดดี้แพลนเน็ตให้สัมภาษณ์รายการ BTimes ช่อง 3 Family การตลาดดิจิทัลสมบูรณ์แบบบนโลกธุรกิจดิจิทัล

การทำธุรกิจที่เป็นเว็บไซต์สำเร็จรูป ตั้งแต่ยุค .com จนถึงยุคปัจจุบัน มีความแตกต่างกันอย่างไร?

จริง ๆ ถือว่ามีความแตกต่างค่อนข้างมาก ในยุคนั้นเรามีปัญหาเรื่องความเร็วของอินเทอร์เน็ต การทำเว็บไซต์ในช่วงนั้นก็ต้องทำเว็บแบบรูปน้อย ๆ ทำอย่างไรให้มันโหลดเร็ว มีข้อมูลที่อ่านแล้วได้ใจความ แต่ยุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว เราสามารถใช้สื่อมัลติมีเดียได้มากขึ้น เว็บไซต์ก็ต้องสวยด้วย ต้องมีดีไซน์ด้วย ต้องใช้งานง่าย ถือว่าเป็นเทรนด์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยครับ แต่ก็ต้องระวังเรื่องรูป ถ้าชัดจนเกินจำเป็น จะทำให้เว็บไซต์โหลดไม่เร็ว ทำให้มีปัญหาต่อผู้เข้าชมได้ แต่ก็มีปัญหาน้อยลงมากครับ

ตั้งแต่วันนั้นผ่านมาร่วม 20 ปีแล้ว คุณจับธุรกิจเว็บไซต์มาโดยตลอด?

จุดเริ่มต้นคือ ผมทำธุรกิจซอฟต์แวร์ Do It Yourself Website เพื่อให้คนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง เป็นลักษณะ DIY มีรายเดียวในยุคนั้น แต่ตอนนั้นก็น่าตกใจ คือลูกค้าสนใจมาก เพราะเขาอยากทำอะไรเกี่ยวกับออนไลน์ ก็มาใช้บริการกันมาก พอมีลูกค้ามากขึ้น เราก็ขยายบริการไปด้านต่าง ๆ เช่น มีการอบรม เพราะเราให้บริการเครื่องมือการตลาด ลูกค้าต้องใช้ให้เป็น ต้องมีความรู้ด้วย ต่อมาการมีเว็บไซต์อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีการโปรโมทด้วย จึงขยายรูปแบบธุรกิจไปยังการให้บริการโฆษณา Google เมื่อมีคนเสิร์ชสินค้าและบริการ ก็จะมีเว็บไซต์ของลูกค้าไปปรากฎที่หน้าผลการค้นหา 

เป็นการออกแบบให้คนเห็นโฆษณา หรือเป็นการซื้อสื่อ?

มีทั้งสอนและรับทำด้วยครับ มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้บริการ เพราะการทำโฆษณาออนไลน์ไม่เหมือนกับการแปะป้ายตามท้องถนน คือเราต้องรู้ด้วยว่า ผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายมีพฤติกรรมอย่างไร จึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญทำโฆษณาให้ลูกค้า ใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือดึงคนมาใช้บริการ

นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Digital Marketing?

ก็ว่าได้ครับ เราขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เป็นผู้ให้บริการเครื่องมือการตลาดดิจิทัล นี่คือคำจำกัดความ ณ ปัจจุบัน เราไม่ได้มีเพียงเว็บไซต์เท่านั้น แต่เรามีโมบายล์แอปพร้อมใช้ด้วย ปัจจุบันเป็นยุค Mobile first หลายคนเป็น Mobile only ด้วยซ้ำ ไม่มีโน้ตบุ๊กอยู่ที่บ้านเลย การบริโภคข้อมูลข่าวสารผ่านมือถืออย่างเดียว เราจะทำอย่างไรให้อยู่กับเขาได้อย่างราบรื่น เพราะเว็บไซต์มีความสามารถในการดึงคนใหม่เข้ามา แต่ขาดความสามารถในการกักเก็บคนเก่า ลูกค้าประจำที่อยากจะเข้าเว็บไซต์นี้บ่อย ๆ เขาจะต้องจำ username กับ password ซึ่งไม่สะดวก คือกฎการทำธุรกิจ จะมีลูกค้าประจำประมาณ 20% ที่สร้างรายได้ประมาณ 80% ให้กับธุรกิจ เราจึงต้องดูแลลูกค้าประจำให้ดี Mobile App จึงเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กัน สามารถทำ Loyalty Program ได้ เช่น ระบบสะสมแต้มดิจิทัล เครื่องมือก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เมื่อก่อนเราเน้นที่การหาลูกค้าเข้ามา จากนั้นก็หมดหน้าที่ และไปหาลูกค้าใหม่ แต่ปัจจุบัน ทุกธุรกิจมีการแข่งขันเสมอ ดังนั้นวงจรการทำ Digital Marketing จึงแบ่งเป็น 3 ภาคครับ

 Digital Marketing แบ่งเป็น 3 ภาค มีอะไรบ้าง?

1. Reach การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ต้องหากลุ่มเป้าหมายให้เจอ ว่าบนออนไลน์เขาอยู่ที่ไหนกันบ้าง อยู่บนโซเชียลมีเดีย อยู่บน Search มีพฤติกรรมอย่างไร จากนั้นใช้วิธีการโฆษณาเข้าหากลุ่มเป้าหมาย

2. Convert การนำเสนอและปิดการขาย เมื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแล้ว เราจะต้องมีการนำเสนอและปิดการขายให้ได้ เพราะถ้าเราเข้าถึงแล้ว แต่ไม่มีความสามารถ หรือเครื่องมือในการปิดการขาย เราก็ไม่สามารถอยู่รอดได้

3. Retain การดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า เมื่อปิดการขายแล้ว เมื่อก่อนเราจบแค่นี้ แต่ปัจจุบันไม่พอ เราต้อง Retain ลูกค้าให้ได้ ต้องให้ลูกค้าจดจำเราได้ ต้องให้เขากลับมาอีกครั้ง มี Repeat Sales ถึงจะทำให้ธุรกิจมีผลกำไร

ReadyPlanet มีโปรดักส์ทั้ง 3 ภาคเลยครับ Reach ด้วยโฆษณาออนไลน์ Convert ด้วยเว็บไซต์สำเร็จรูป และ Retain ด้วยระบบ CRM ที่สามารถบริหารฐานลูกค้า และเก็บข้อมูลเชิงลึกได้ ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จำเป็นมากครับ

รายละเอียดการสัมภาษณ์ยังมีอีกมาก หากต้องการติดตามต่อ สามารถคลิกดู VDO ด้านล่างนี้ได้