Custom Intent โฆษณาตามติดกลุ่มคนที่เสิร์ช เข้าถึงผู้มีความตั้งใจซื้อได้ตรงเป้ายิ่งขึ้น

Google Ads Features Update

โดยทั่วไป การทำโฆษณาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนที่เสิร์ช Google นั้น ก็คงหนีไม่พ้นโฆษณา Google Search ซึ่งสามารถกำหนดคีย์เวิร์ดที่ต้องการได้ เมื่อมีผู้เสิร์ชด้วยคำที่เลือกไว้ โฆษณาก็จะแสดงผล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นโฆษณาจะคลิกเข้าสู่เว็บไซต์คุณ หากเขาเหล่านั้นเข้าเว็บไซต์คุณแล้วปิดทิ้ง คุณก็ยังสามารถใช้โฆษณา Remarketing ตามติดคนที่เข้าเว็บไซต์มาแล้วได้ แต่ปัญหาสำคัญก็คือ ระบบ Google จะรวบรวมลิสต์ผู้ที่เข้าเว็บไซต์มาแล้วได้เพียงเท่านั้น แต่หากเขาเหล่านั้นไม่เข้าเว็บไซต์คุณ ก็คงไม่สามารถไปติดตามได้ แต่ในวันนี้ คุณจะสามารถติดตามกลุ่มคนที่เสิร์ช แล้วไม่เข้าเว็บคุณได้แล้ว ด้วยการ Target ที่เรียกว่า Custom Intent

Custom Intent คืออะไร

วิธีการ Target กลุ่มเป้าหมายของโฆษณาออนไลน์มีมากมาย ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เช่น การเลือก Demographics เพศ อายุ สถานที่ ฯลฯ ของคนที่จะเห็นโฆษณา ไปจนถึงการเลือกความสนใจ และพฤติกรรมออนไลน์ Custom Intent ก็เป็นหนึ่งใน Targeting ของ Google ที่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญได้

Custom Intent ใช้กับโฆษณาแบบไหนได้บ้าง

โฆษณา Google Ads ที่ใช้บ่อยมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ Google Search Ads, Google Display Network (GDN) และโฆษณา YouTube TrueView in-stream แต่ละแบบจะมีจุดเด่น และการ Target เป้าหมายต่างกัน ปัจจุบัน การเลือก Target ด้วย Custom Intent สามารถใช้ได้ใน GDN และ YouTube หมายความว่า ต้องใช้ Banner ภาพนิ่ง หรือ VDO ในการติดตามกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น Creative จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากในการโฆษณาให้ได้ผล เพราะถ้าภาพหรือ VDO ไม่ดึงดูดใจมากพอ กลุ่มเป้าหมายนี้มีโอกาสสูงที่จะเพิกเฉย หรือปิดโฆษณาของคุณ

ในการจับกลุ่มเป้าหมายนั้น สามารถเลือกอะไรได้บ้าง

คุณสามารถเลือกคีย์เวิร์ด และ URL ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณได้ หมายความว่า ใครก็ตามที่ค้นหาข้อมูลด้วยคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกไว้บ่อย ๆ หรือเข้าไปยัง URL ที่คุณเลือกไว้บ่อย ๆ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจซื้อสินค้าและบริการนั้น ๆ ระบบ Google จะจับสัญญาณเหล่านั้นได้ และจะนำโฆษณาของคุณไปแสดงต่อหน้าคนกลุ่มนั้น ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น เพราะเมื่อเรามีความต้องการซื้อสิ่งใด ก็มักจะเริ่มด้วยการเสิร์ชหาข้อมูล และเข้าเว็บต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจุดสำคัญคือ ต้องกำหนดคีย์เวิร์ด และ URL ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณจริง ๆ และต้องไม่แคบหรือเฉพาะเจาะจงจนเกินไปด้วย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนที่ใช่ได้มากขึ้น

ข้อแนะนำในการเพิ่มคีย์เวิร์ดและ URL สำหรับ Custom Intent

• ใส่คีย์เวิร์ด URL แอป หรือเนื้อหา YouTube เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังตั้งใจค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ 

• ควรเพิ่มคีย์เวิร์ดและ URL อย่างน้อย 15 รายการเพื่อให้ Google Ads เข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

• หลีกเลี่ยงการป้อน URL ที่จำเป็นต้องให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ เช่น Social Media หรืออีเมล

• เลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยระบบจะใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้เป็นจุดโฟกัสในการหากลุ่มเป้าหมายที่มีความตั้งใจซื้อจริง ๆ ให้คุณ

ความสามารถใหม่ของ Google Ads นี้น่าจะทำให้ผู้ประกอบการได้ผลตอบรับโฆษณาดีขึ้นอีกมาก หากสนใจใช้เครื่องมือนี้ สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลโฆษณาให้คุณได้โดยตรง