การทำโฆษณา Facebook เพียง Objective เดียวอาจไม่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้อีกต่อไป

Tags: โฆษณา facebook, facebook ads, objective, เทคนิค, โฆษณาออนไลน์, awareness, reach, engagement, all, 2018, martech knowledge, adpro, digital ads

ReadyPlanet Facebook News

ปัญหาที่ผู้ประกอบการต้องเจอในการทำโฆษณาบน Facebook คือผลลัพธ์แย่ลงเรื่อย ๆ จุดเริ่มต้นของปัญหานั้นมีสาเหตุหลักมาจากในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา Facebook ได้ทำการลด Organic Reach ของ Page ต่างๆ ให้น้อยลง และปรับระบบ Algorithm ของ Facebook ให้คัดสรรค์แต่ Post จากคนใกล้ตัว หรือ Post จาก Page ที่ผู้ใช้งานสนใจจริงๆ ให้ขึ้นแสดงบน News Feed ของผู้ใช้งานเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงระบบบน Facebook นี้ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวโดยหันมาซื้อโฆษณาบน Facebook มากขึ้น ซึ่ง Objective ที่ทำได้ง่าย และมากที่สุดคือโฆษณาประเภท Post Engagement หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Boost Post จึงเป็นที่มาของปัญหาต่อมาคือ มีโฆษณา Post Engagement เต็ม News Feed ไปหมด การแข่งขันก็สูงขึ้นเนื่องจากพื้นที่ในการแสดงโฆษณานั้นมีเท่าเดิมแต่มีผู้ลงโฆษณามากขึ้น และด้วยความที่ผู้ใช้งานเจอ Post บน News Feed เป็นจำนวนมากต่อวัน หาก Post ไหนไม่มีความน่าสนใจพอ ผู้ใช้งานก็จะเลื่อนผ่านโดยไม่หยุดดู ทำไม่คุ้มค่าโฆษณา ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผู้ใช้งาน Facebook ใช้เวลาเพียง 1.7 วินาทีเท่านั้นในการเลื่อนผ่าน Post หนึ่ง

ถึงจะมีปัญหาเหล่านี้แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Facebook ก็ยังเป็นหนึ่งใน platform หลักที่น่าสนใจในการทำโฆษณาอยู่ แล้วผู้ประกอบการจะสามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร

การเลือกใช้เครื่องมือที่หลากหลายครอบคลุม สามารถตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้

แนวทางการรับมือกับปัญหาข้างต้นนั้น สามารถทำได้โดยการใช้เครื่องมือ หรือ Objective ที่หลากหลายอย่างมีชั้นเชิง Objective ของ Facebook นั้นจะมีความสัมพันธ์กับ Customer Journey ดังรูปด้านล่าง

ในลำดับแรกสุดนั้นคือการสร้าง Awareness โดยใช้ Video โดยประโยชน์หลักของการโฆษณา Video คือเราสามารถเก็บผู้ชมวีดีโอโดยแบ่งตามระยะเวลาที่ดูได้ ว่าดูไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ โดยที่เราสามารถนำกลุ่มคนที่เราเก็บได้นั้น มาใช้เป็นกลุ่มเป้าหมาย หรือใช้ในการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกันได้ต่อไป และราคาของการทำโฆษณาประเภทนี้ถือว่าไม่สูงถ้าเทียบกับประเภทอื่นอีกด้วย

หลังจากได้เลือก Objective เพื่อโฆษณาในชั้น Awareness แล้ว ก็มาสู่ Consideration คืออยู่ในระหว่างการตัดสินใจและมีโอกาสซื้อสินค้าของเรา โดย Objective ที่เหมาะสมกับชั้นนี้คือ

1. Messages คือโฆษณาที่นำผู้ที่คลิกโฆษณาของเราไปยังหน้า Messenger ของ Page ของเราโดยตรง Objective นี้เป็นประเภทโฆษณาที่ Facebook จะ ส่งโฆษณาไปยังผู้ที่ชื่นชอบการคุย หรือมีพฤติกรรมชอบ Inbox ซึ่งจะสามารถเพิ่มโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น

2. Lead Generation คือโฆษณาที่เหมาะกับธุรกิจประเภทที่ต้องการเก็บข้อมูลของลูกค้า เช่น ชื่อ เบอร์โทรศพท์ อีเมลล์ เพื่อนำไปให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ติดต่อกลับเพื่อทำการปิดการขายต่อไป เช่น ธุรกิจคอนโด ประกัน ธนาคาร เป็นต้น

จากการทำโฆษณาทั้งหมด เหนือสิ่งอื่นใดคือ ทำเพื่อให้เกิด Conversion หรือ Action จากกลุ่มเป้าหมายของเรา การทำโฆษณาประเภท Conversions จึงสามารถตอบโจทย์นี้ได้ Conversions นั้นเหมาะกับผู้ที่มี Website เหมือนกับ Traffic แต่ข้อแตกต่างที่ทำให้ Conversions เหนือกว่า Traffic คือเราสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนจนจบกระบวนการสั่งซื้อ และสามารถต่อยอดไปทำอย่างอื่นเพิ่มเติมได้อีกมากมาย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูล และประโยชน์เบื้องต้น ของการใช้ Facebook Objective ที่หลากหลายในการทำโฆษณา เพื่อให้โฆษณาของผู้ประกอบการนั้นมีประสิทธิภาพและได้ผลที่ดีมากยิ่งขึ้น

เริ่มทันทีวันนี้ เพื่อการโฆษณาที่เหนือชั้นกว่า โดยสามารถติดต่อสอบถาม และปรับกลยุทธ์การโฆษณาของท่าน กับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลท่านได้โดยตรง