เปิดวิธีการบริหารแคมเปญโฆษณา Google AdWords โอกาสสำเร็จ ของคนที่รู้ก่อน
ความเข้าใจที่ว่า การทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ เจ้าของสินค้าต้องลงทุนกับการโฆษณาเป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล อาจเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องในอดีต เช่น โฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ ที่นอกจากงบประมาณการผลิตโฆษณาแล้ว ยังต้องใช้งบประมาณในการออกอากาศแต่ละครั้งสูงถึงหลักแสน หากเผยแพร่ด้วยความถึ่สูงงบประมาณโฆษณาโทรทัศน์รวมแล้วสูงถึงหลักล้านบาท
โฆษณาในลักษณะสิ่งพิมพ์ และวิทยุ แม้จะมีราคาค่าโฆษณาโดยรวมน้อยกว่าโทรทัศน์ แต่ก็วัดผลผู้ชมโฆษณาได้ไม่ครบถ้วน หรือแม้แต่โฆษณาบนป้ายบิลบอร์ดในบริเวณที่มีทำเลดีๆ ค่าใช้จ่ายก็อาจถึงหลักล้านต่อเดือน โฆษณาในสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) เหล่านี้ หากจะให้มีคนรับรู้จำนวนมากๆ ก็ต้องมีงบประมาณมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เพื่อที่โฆษณานั้นจะได้ปรากฏในสื่อเดิมหลายครั้ง หรือปรากฏในหลายสื่อ เป็นต้น
สถิติงบประมาณโฆษณาบนสื่อดิจิทัล ปี 2012-2016 จากสมาคมโฆษณาดิจิทัล(ประเทศไทย) ร่วมกับ ทีเอ็นเอส
จากตัวอย่างที่กล่าวมา ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่มองว่า "การทำโฆษณา" เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ แบรนด์ระดับโลก หรือผู้ประกอบการที่มีกำลังจ่ายสูงเท่านั้น ความคิดลักษณะนี้ ก่อให้เกิดความเชื่อที่ว่า “คนรวยเท่านั้น ที่ทำโฆษณาแล้วเห็นผลลัพธ์” ซึ่งความเข้าใจในลักษณะนี้ ควรถูกเปลี่ยนแปลงไปได้แล้ว เพราะในปัจจุบันที่การตลาดเข้าสู่ยุคดิจิทัล สื่อใหม่ (New Media) หรือสื่อดิจิทัลเข้ามามีอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาสามารถควบคุมให้ส่งไปเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจสินค้าหรือบริการได้จริง ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากเกินควร
ความสำเร็จจึงไม่ใช่เรื่องของคนรวย แต่เป็นเรื่องของคนที่รู้ โดยเฉพาะโฆษณาออนไลน์อย่าง Google AdWords ที่ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดจากค่าโฆษณามากอย่างเดียว แต่เกิดจากความรู้ และความเข้าใจในการบริหารโฆษณาออนไลน์ และการบริหารเว็บไซต์ธุรกิจเป็นสำคัญ
ทำโฆษณา Google AdWords ให้ได้ผลดี เว็บและโฆษณาต้องมีคุณภาพ
วิธีคิดแบบเน้นคุณภาพผลลัพธ์ สะท้อนผ่านระบบการบริหารโฆษณาของ Google AdWords ซึ่งเป็น Search Engine Marketing (SEM) หรือ การทำโฆษณาในรูปแบบเสิร์ช ซึ่งต้องนำราคาประมูลคำค้นหา มาคูณกับคะแนนคุณภาพ (Quality Score) เพื่อให้ได้อันดับการแสดงผลโฆษณา(ad ranks) เมื่อมีการค้นหาบน Google Search โดยคะแนนคุณภาพ จะมาจากคุณภาพของ Keywords (คำค้นหา), โฆษณา และ หน้า Landing Page ที่รองรับโฆษณา ว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่
ตัวอย่างเช่น ถ้าขายประตูรีโมท แบรนด์ ABC ก็ควรกำหนดใช้คำค้นว่า “ประตูรีโมท ABC” เพื่อสะท้อนชื่อแบรนด์ หรือใช้คีย์เวิร์ดแบบเฉพาะเจาะจงว่า “ประตูรีโมทรุ่น ABC12345” หรือใช้คีย์เวิร์ดทั่วไปว่า “ประตูรีโมท” ขณะที่ข้อความโฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าผลการค้นหา รวมถึงข้อความที่อยู่บนหน้า Landing Page ก็จะต้องมีคำเหล่านี้ปรากฏอยู่
ด้วยการอธิบายประตูรีโมทแบรนด์ ABC หรือประตูรีโมทรุ่น ABC12345 ว่าคืออะไร ใช้งานอย่างไร ซื้อหาได้จากที่ไหน เป็นต้น นอกจากนี้ “อัตราการคลิกโฆษณา” ก็จะถูกนำมาคำนวณเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนคุณภาพด้วย หากมีผู้คลิกโฆษณาเข้ามายังเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนการแสดงผลโฆษณา ค่าคลิกก็จะมีแนวโน้มลดลง คะแนนคุณภาพก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทำโฆษณา Google AdWords ไม่ใช่แค่จ่ายหนัก ก็จะได้อันดับที่ดี
ในส่วนของราคาประมูลนั้น ผู้ประกอบการสามารถตั้งราคาประมูลได้ตามงบประมาณโฆษณาของแต่ละแบรนด์ ซึ่งจะมากน้อยแตกต่างกันไป แล้วนำเอาราคาประมูลนี้ มาคูณกับคะแนนคุณภาพตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น จากข้อมูลดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่า ไม่จำเป็นว่าแบรนด์ที่มีงบประมาณมากกว่าจะได้ครอบครองพิ้นที่ในการแสดงผลโฆษณาเป็นอันดับต้นๆเสมอไป เพราะถ้าหากว่าคู่แข่งรายนั้น มีคะแนนคุณภาพน้อย ถึงแม้จะให่ราคาประมูลคำค้นหาที่มาก ก็อาจพ่ายแพ้ในการประมูลคีย์เวิร์ดแข่งกับผู้ที่งบประมาณในการประมูลน้อยกว่า แต่มีคะแนนคุณภาพสูงกว่าก็ได้
เช่น ประตูรีโมทแบรนด์ ABC ประมูลคีย์เวิร์ดคำว่า "ประตูรีโมท" ในราคา 8 บาท แต่มีคะแนนคุณภาพ 10 ทำให้มีคะแนนรวมคือ 80 คะแนน (8×10) ขณะที่ แบรนด์ XYZ ประมูลคำว่า "ประตูรีโมท" ในราคา 12 บาท แต่มีคะแนนคุณภาพเพียง 5 ทำให้ได้คะแนนรวมเพียง 60 คะแนน (12×6) ฉะนั้น แม้แบรนด์ XYZ จะจ่ายเงินค่าประมูลโฆษณา สูงกว่าแบรนด์ ABC แต่อันดับในการแสดงผลการโฆษณา ก็ยังต่ำกว่าแบรนด์ ABC ฉะนั้นแล้ว แม้แบรนด์ ABC จะประมูลด้วยราคาที่น้อยกว่า แต่มีคะแนนคุณภาพสูงกว่าก็ติดอันดับการแสดงผลโฆษณาที่สูงกว่า ืทำให้อยู่ในตำแหน่งที่เด่นกว่าอยู่ดี ฉะนั้นโอกาสที่จะมีคนคลิกเข้ามายังเว็บไซต์ ABC และตัดสินใจซื้อสินค้ากับ ABC ก็ย่อมมากกว่า
ระบบการบริหารโฆษณาของ Google AdWords ลักษณะนี้ โดดเด่นกว่าโฆษณาในสื่ออื่น เพราะเน้นให้ความสำคัญกับคะแนนคุณภาพ ถือเป็นระบบบริหารผลงานของพนักงานในองค์กร กล่าวคือการพิจารณาความดีความชอบของพนักงาน จากผลงานที่เขาทำเป็นหลัก ถือเป็นการวัดผลโดยคุณภาพของงานที่ทำได้จริง ซึ่งจะทำได้ ก็ต้องมีความรู้ ความเข้าใจสิ่งนั้นอย่างถ่องแท้เสียก่อน ซึ่งที่ ReadyPlanet เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ มีความรู้ ความเข้าใจ ในการทำโฆษณาผ่าน Google AdWords อีกทั้งยังให้คำปรึกษาในด้านการทำการตลาดบนโลกดิจิทัล เพื่อผลลัพธ์ความสำเร็จทางธุรกิจ ได้อย่างผู้ที่รู้จริงและมีประสิทธิภาพสูงสุด
และสำหรับผู้ประกอบการ ที่มีความต้องการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ และต้องการรับบริการ รวมถึงคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทำโฆษณาออนไลน์ ที่มีประสบการณ์ตัวจริง
สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่ 02-016-6988 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการทำโฆษณาเพิ่มเติมค่ะ
January 31, 2017
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com