เพิ่มยอดขาย ทำกำไร ได้ด้วย Remarketing


Remarketing หรือ Retargeting คืออะไร?
ในขณะที่เรากำลังท่องเว็บไซต์ อ่านข่าวสาร หรือกำลังเข้าใช้โซเซียลมีเดีย หลายๆ คนอาจสังเกตว่า มีโฆษณาของแบรนด์ที่เราเพิ่งได้เข้าไปเยี่ยมชมในเว็บไซต์ครั้งล่าสุด หรือเพจ เฟซบุ๊คที่เราเพิ่งทำการกดติดตาม มาปรากฏให้เราพบเห็นบ่อยครั้งบนโลกออนไลน์ 

อาทิ เมื่อคุณได้ทำการเข้าไปดูเว็บจองโรงแรมชื่อดังเมื่อสามชั่วโมงก่อน เกี่ยวกับห้องพักหัวหิน หลังจากนั้นคุณก็มองเห็นโฆษณาแบนเนอร์โปรโมชั่นห้องพักหัวหินราคาพิเศษ อยู่บนเฟซบุ๊คของคุณเอง เป็นต้น

 

 


การตลาดในลักษณะนี้ เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ Remarketing (สำหรับการโฆษณาในกลุ่มเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ของ Google) และ Retargeting (สำหรับการโฆษณาบน Facebook) ซึ่งแบรนด์ร้านค้าออนไลน์เลือกใช้วิธีนี้ เนื่องจาก เป็นการติดตามกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจสินค้าของแบรนด์นั้นๆ ให้เห็นโฆษณาของสินค้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ากลุ่มเป้าหมายจะเข้าไปอ่านเว็บไซต์ใดก็ตามที่พวกเขาสนใจ หรือแม้กระทั่งเข้าใช้เฟซบุ๊คในช่วงเวลาใด โฆษณาก็จะสามารถติดตามกลุ่มเป้าหมายไปได้


ทำไมแบรนด์จึงต้องติดตามกลุ่มเป้าหมาย?

ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ทำให้การทำตลาดออนไลน์ในรูปแบบปกติทำได้ยากขึ้น และอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าที่ผู้ประกอบการต้องการ ทำให้ต้องใช้กลยุทธ์นี้มาปรับให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ หากดูจากจากสถิติผลการวิจัยของ Forrester ปี 2010 พบว่า

กว่า 96% ของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ไม่ได้ทำการสั่งซื้อสินค้าใดๆ ในเว็บไซต์เลย 70% ได้เลือกสินค้าลงตะกร้าแล้วแต่ตัดสินใจไม่ซื้อและออกจากเว็บไซต์ และที่สำคัญที่สุดคือ 49% ของการซื้อขายในโลกออนไลน์จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้เข้ามาท่องเว็บ 2-4 ครั้ง ถึงจะเกิดการซื้อขายในโลกออนไลน์

ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีข้อมูลเชิงลึกแบบนี้แล้ว ทำให้นักการตลาดต้องหาวิธีทำให้กลุ่มเป้าหมายคนเดิมที่เคยมีความสนใจในแบรนด์อยู่แล้ว เห็นแบรนด์ของธุรกิจบ่อยครั้งมากขึ้น เห็นโฆษณาที่ดึงดูดใจในหลายๆ เนื้อหาและรูปแบบ เพื่อคาดหวังให้กลุ่มเป้าหมายไปซื้อสินค้าในที่สุดนั่นเอง


2 ประโยชน์หลักสำหรับการทำ Remarketing

1. สร้างแบรนด์ด้วยการตอกย้ำให้เกิดการจดจำ (Brand Recall) การตลาดในรูปแบบของการสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ (Brand Awareness) ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือว่าสำคัญมาก แต่การจะสร้างการจดจำให้เกิดกับผู้บริโภคในยุคอินเทอร์เน็ตที่มีข้อมูลจำนวนมากไหลผ่านเข้ามา อาจทำให้พวกเขาลืมตัวตนของแบรนด์ไปได้ หากสื่อสารไปเพียงครั้งเดียว ทำให้ผู้ประกอบการ และนักการตลาดควรที่จะใช้เครื่องมือ Remarketing เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมาย ให้เกิดการจดจำชื่อและตัวแบรนด์ให้ได้อย่างสม่ำเสมอ

2. ติดตามกลุ่มเป้าหมายให้กลับมาซื้อ หรือลูกค้าเก่าให้กลับมาทำการซื้อเพิ่มหรือซื้อซ้ำได้ หากธุรกิจของคุณได้ออกโปรโมชั่น คุณสามารถนำโฆษณาไปแสดงให้กลุ่มเป้าหมายเดิมกลับมาซื้อ ออกสินค้าใหม่ให้ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าของคุณแล้วได้เห็นสินค้าใหม่และอาจจะกลับมาซื้อเพิ่ม ด้วยกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้ว เป็นกลุ่มที่เชื่อมั่นในแบรนด์ของธุรกิจแล้ว หากมีการเปิดตัวสินค้าหรือทำโปรโมชั่นใหม่ ๆ และนำโฆษณาไปแสดงให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้อีกครั้ง ก็มีแนวโน้มที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าซ้ำได้ง่ายมากกว่ากลุ่มอื่น ด้วยวิธีนี้จะทำให้สามารถลดต้นทุนการตลาดลง แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการโฆษณาที่สูงกว่าเดิมมาก

ด้วยผลลัพธ์ที่มากกว่าจึงเชื่อได้อย่างแน่นอนว่า Remarketing จะเป็นกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น เพราะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทั้งคนที่มีความสนใจในสินค้าอยู่แล้ว (ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และผู้ที่ติดตามแฟนเพจบนเฟซบุ๊ค) และลูกค้าเเดิมให้เห็นโฆษณา โปรโมชั่น และ สินค้าอยู่เรื่อยๆ

ทาง ReadyPlanet จึงเห็นความสำคัญของเครื่องมือตัวนี้เป็นอย่างมาก และมีการทำ Remarketing ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการโฆษณาออนไลน์ของเรา เพื่อทำให้งบการตลาดของผู้ประกอบการได้ถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและให้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น และสำหรับท่านใด ที่สนใจใช้บริการโฆษณาออนไลน์กับเรา

 

สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02-016-6988 หรือ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำโฆษณาบน Facebook

และ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการทำโฆษณาบน Google ค่ะ

 

August 16, 2016
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com

สนใจรับฟังข้อมูลบริการ

เว็บไซต์สำเร็จรูป, Online Advertising, Training course