ดีอย่างไร มีเว็บไซต์ ที่แสดงผลได้ดีบนมือถือ
จากสถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ตของ ETDA พบว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมา คนไทยมากกว่า 50% หันมาใช้งานโทรศัพท์มือถือในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
และผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ใช้เวลาในการเสิร์ช เข้าถึงโซเชียลมีเดีย และทำกิจกรรมอื่นๆบนอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยถึง 5.7 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (PC) และคอมพิวเตอร์พกพา (Labtop, Notebook)
นอกจากนั้น ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 31% เคยซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านมือถือ และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆปีอีกด้วย
ด้วยทิศทางของการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ทำให้แบรนด์ต่างๆ มีการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้เว็บไซต์สามารถแสดงผลได้ดีมากขึ้นบนมือถือ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การพัฒนาเว็บไซต์ ในรูปแบบ Responsive Design จึงเกิดขึ้น
Responsive Design คือ ฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ระบบเว็บไซต์ สามารถแสดงผลได้พอดี และสวยงามในทุกๆอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็ปเลต หรือโทรศัพท์มือถือก็ตาม เพราะรูปแบบเว็บไซต์เดิม ที่การแสดงผลบนมือถือมีลักษณะเดียวกับคอมพิวเตอร์ ทำให้ตัวหนังสืออ่านค่อนข้างยาก กลุ่มเป้าหมายที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อค้นหาข้อมูลสินค้าหรือบริการที่สนใจ นำไปประกอบการตัดสินใจซื้อ หากพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก ก็อาจตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆก็เป็นได้
และนอกจากการแสดงผลที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความสวยงาม และความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ของกลุ่มเป้าหมายบนมือถือแล้ว การที่ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ เลือกใช้เว็บไซต์ในรูปแบบ Responsive Design ยังมีข้อดีอื่นๆ ที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ช่วยให้การติดอันดับบน Google (SEO) ดีขึ้น
ในเดือนเมษายนปี 2558 กูเกิลได้ออกมาประกาศว่า เพื่อให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงเว็บไซต์ที่แสดงผลได้ดีบนมือถือได้ง่ายขึ้น จึงได้ผลักดันเว็บไซต์ที่มีลักษณะ Mobile Friendly ให้มีอันดับที่สูงกว่าเว็บไซต์ที่ยังใช้งานได้ไม่ดีบนมือถือ* เนื่องจากกูเกิลต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือที่มีมากขึ้นเรื่อยๆในทุกปี ให้พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลของสินค้าหรือบริการที่สนใจได้อย่างไม่ติดขัด
2. ช่วยในเรื่องของราคาค่าโฆษณา Google AdWords (SEM)
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า อันดับของโฆษณาบนกูเกิล (Ad rank) ของคุณ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการจ่ายค่าโฆษณาต่อคลิก(Cost Per Click หรือ CPC) เพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับ Quality Score หรือ คะแนนที่แสดงถึงคุณภาพของโฆษณาของคุณ โดยจะแสดงเป็นค่าตัวเลขตั้งแต่ 1-10 ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลให้ Quality Score ของเว็บไซต์ดีขึ้น ก็คือเมื่อโฆษณาพากลุ่มเป้าหมายเข้าไปยังเว็บไซต์ของคุณ และมีประสบการณ์ที่ดีต่อเว็บไซต์ (User experience)
เช่น ลูกค้าใช้โทรศัพท์มือถือค้นหาสินค้า และเมื่อคลิกเข้ามา พบว่าเว็บไซต์สามารถแสดงผลได้ดีบนมือถือ มีขนาดข้อความที่อ่านง่ายไม่ต้องขยาย เมนูต่างๆสามารถใช้นิ้วมือคลิกได้ง่าย ก็จะทำให้คะแนนคุณภาพของคุณสูงตาม และหาก Quality Score มีค่าสูงมากขึ้น ก็จะยิ่งส่งผลให้ค่าโฆษณาต่อคลิกถูกลง รวมถึงอันดับของโฆษณาก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
และเมื่อเชื่อมโยงกับสิ่งที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าหากเว็บไซต์ของคุณ ไม่สามารถแสดงผลได้ดีบนมือถือ เมื่อลูกค้าคลิกเข้ายังเว็บไซต์ของคุณผ่านโฆษณาด้วยโทรศัพท์มือถือ ก็อาจได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีนัก ทำให้อยู่ในเว็บไซต์ไม่นาน และอาจคลิกออกจากเว็บไซต์ในทันที ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ นอกจากคุณจะไม่ได้ยอดขายจากการลงทุนทำโฆษณาแล้ว คุณยังจะต้องเสียค่าโฆษณาในราคาที่สูงอีกด้วย
ดังนั้น หากคุณเป็นผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ ที่ใช้เว็บไซต์ในการสื่อสารธุรกิจ คุณควรให้ความสำคัญกับการแสดงผลของเว็บไซต์บนมือถือ ด้วยการเลือกใช้บริการเว็บไซต์ในรูปแบบ Responsive Design ที่สามารถแสดงผลได้ดีบนมือถือ เพื่อให้ธุรกิจของคุณ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อยอดขายที่เพิ่มตามไปด้วยค่ะ
และสำหรับผู้ประกอบการท่านใด ที่สนใจใช้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป เพื่อเปิดร้านค้าออนไลน์กับ ReadyPlanet
สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-016-6979 หรือ สนใจรับข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่ ได้เลยค่ะ
*ที่มา Venturebeat
August 09, 2016
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com