แบรนด์ดิจิทัลยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Yahoo!, Airbnb ฯลฯ ต่างก็เคยปรับเปลี่ยนโลโก้ของตน เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ตามทันเทรนด์ดิจิทัลใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพราะบนโลกดิจิทัล ทุกอย่างล้วนขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว คงจะเป็นไม่ได้ที่แบรนด์เหล่านี้อยู่เฉย แล้วปล่อยให้เวลาพาพวกเขาไปสู่ความล้าหลังได้ค่ะ

แต่สำหรับ Instagram โมบายล์แอพที่มีผู้ใช้มากกว่า 80 ล้านคนทั่วโลกแบรนด์นี้ ไม่ใช่เพียงแค่โลโก้เท่านั้นที่พวกเขาตัดสินใจปรับเปลี่ยน แต่ยังรวมไปถึงดีไซน์หลัก ๆ แทบทั้งหมด ทั้งสีน้ำตาลบริเวณโลโก้ และสีน้ำเงินภายในตัวแอพ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ผู้คนจดจำ ต่างก็ถูกเปลี่ยนทั้งหมดในชั่วข้ามคืน

และแน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ Instagram กลายเป็นที่พูดถึงมากมายไปทั่วโลก ซึ่งผู้ประกอบการชาวไทย จะได้เรียนรู้อะไรจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มาติดตามกันเลยค่ะ

โลโก้ ไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่ตลอดไป

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 Instagram เปิดตัวพร้อมกับโลโก้รูปกล้องสีน้ำตาลวินเทจ ภายในประกอบไปด้วยฟิลเตอร์ปรับแสงให้คล้ายกับการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของ Instagram

จนมาถึงเร็ว ๆ นี้ เมื่อโลกของอินเทอร์เน็ต เปลี่ยน 6 ปี ให้เหมือน 16 ปี ทำให้ Instagram ตัดสินใจเปลี่ยนรูปลักษณ์เดิมที่ดูวินเทจ ให้กลายเป็นรูปลักษณ์ใหม่ ที่ทันสมัย และสดใสมากขึ้น สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายในปัจจุบัน

ในกรณ๊นี้หากโลโก้ของผู้ประกอบการ ถูกออกแบบมาสำหรับติดป้ายหน้าร้านมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน มันก็อาจไม่เหมาะนัก กับการใช้โปรโมทบนสื่อดิจิทัล การที่โลโก้เคยมีประสิทธิภาพในการโฆษณาบนสื่อสิ่งพิมพ์ยุคก่อน ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถใช้ได้กับสื่อออนไลน์ในปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่อาจไม่เข้ากับยุคสมัย ซึ่งคุณเองก็สามารถปรับเปลี่ยนโลโก้ให้เข้ากับยุคสมัยได้ โดยไม่ลืมที่จะใส่เอกลักษณ์เดิมลงไป เพื่อให้ผู้บริโภคยังคงจดจำแบรนด์ได้ไม่ลืมค่ะ

ใช้ Flat Design บวกสไตล์มินิมอล ดึงดูดผู้คน บนโลกดิจิทัล

ในยุคสมัยที่โลกดิจิทัลมีข้อมูลจำนวนมากไหลเวียนอยู่ สิ่งที่ผู้บริโภคมองหา คือ อะไรที่เรียบง่าย เข้าใจได้ทันที ทำให้การออกแบบแบบลดทอนความสมจริง แล้วใช้วิธีบอกเล่าด้วยภาพไอคอน 2 มิติ จึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

นอกจากนั้น เมื่อเครื่องมือที่จะใช้เข้าสู่โลกดิจิทัลมีความหลากหลาย การให้ความสำคัญกับการแสดงผลจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสำหรับการออกแบบในลักษณะ Flat Design นั้น จะช่วยให้สามารถมองเห็นบนสมาร์ทโฟนที่มีขนาดเล็กได้ง่ายกว่า และสำหรับ Instagram ที่ผู้ใช้แทบทั้งหมดเข้าสู่แอพด้วยโมบายล์แล้วล่ะก็ ไม่น่าแปลกใจเลยค่ะที่การออกแบบทั้งหมด จะเน้นไปที่ความเรียบง่าย ใช้ Flat Design เป็นหลัก

สำหรับผู้ประกอบการไทย ที่อาจชื่นชอบดีไซน์ที่เน้นแสงเงาชัดเจน การออกแบบที่สมจริง ลองพิจารณาดูค่ะว่า ความซับซ้อนของโลโก้ ทำให้โลโก้ดูออกยากขึ้น หรือจะเกิดปัญหาต่อการจดจำของผู้บริโภคบนสื่อดิจิทัลหรือไม่ ถ้าหากพิจารณาดูแล้วพบว่าจะเกิดปัญหา ลองหันมาใช้การดีไซน์แบบเรียบง่าย ตัดทอนส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วดึงเฉพาะจุดเด่นของแบรนด์ออกมาสร้างการรับรู้ จดจำ เหมือนอย่าง Instagram ดูสิคะ

มุ่งเน้นโชว์ผลิตภัณฑ์

เมื่อคุณคลิกเข้าไปยังแอพ Instagram ที่ถูกเปลี่ยนรูปแบบใหม่ คุณจะพบกับเทมเพลตสีขาวสะอาดตา สลับกับตัวหนังสือสีดำ ด้วยเหตุที่พวกเขาอยากจะเน้นไปที่แกนหลักของผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็คือรูปภาพที่สวยงามของผู้ใช้งาน จึงได้พยายามลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ภาพที่สวยงามของผู้ใช้งานโดดเด่นขึ้นมาค่ะ

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีร้านค้าออนไลน์, เว็บไซต์โปรโมทองค์กร หรือมีการโปรโมทแบรนด์ในช่องทางออนไลน์อื่น ๆ คุณก็สามารถใช้แนวคิดของ Instagram มาประยุกต์กับธุรกิจได้ ด้วยการแสดงออกให้ชัดเจน ในทุก ๆ ช่องทาง ว่าสินค้าของคุณคืออะไร จุดเด่น และจุดต่างจากคู่แข่งเป็นอย่างไร และที่สำคัญก็คือ สินค้าหรือบริการของคุณ ตอบสนองความต้องการอะไรบ้างให้กับผู้บริโภค โดยลดทอนรายละเอียดอื่นๆที่อาจมีความสำคัญน้อยกว่า แล้วพยายามผลักดันสิ่งเหล่านี้ เพียงเท่านี้ ผู้บริโภคที่อาจกำลังสนใจสินค้าหรือบริการของคุณ ก็มีโอกาสที่จะเข้ามาติดต่อกับคุณเพื่อทำการซื้อได้แล้วค่ะ

สิ่งสำคัญคือการทดลองอะไรใหม่ ๆ

เมื่อคุณทำธุรกิจอยู่บนโลกดิจิทัล คุณจะต้องขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ ให้สอดรับกับความเปลี่ยนอยู่เสมอ หากคุณหยุดนิ่งอยู่กับที่ แม้เพียงสักก้าวเดียว คุณก็อาจตามไม่ทันความเปลี่ยนของมันแล้วก็ได้ค่ะ ดังนั้น สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ ศึกษาความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และทำการทดลองปรับใช้ความต้องการเหล่านั้นให้เข้ากับสินค้า หรือบริการของคุณ

เหมือนในกรณีของ Instagram ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโลโก้ รวมถึงเทมเพลตของแอพ เพื่อทดลองปฏิกิริยาของผู้บริโภคต่อแบรนด์ รวมถึงประบเปลี่ยนฟังก์ชันการถ่ายภาพ ที่แต่เดิมหากภาพที่ถ่ายมาไม่ได้มีลักษณะเป็น 4 เหลื่ยมจตุรัส ก็จะต้องตัดส่วนเกินของภาพทิ้ง ซึ่งอาจสร้างความไม่สะดวกกับให้ผู้ใช้งานบางคน ทำให้ Instagram แก้ปัญหานี้ โดยให้ผู้ใช้สามารถย่อภาพให้พอดีกับกรอบ รวมถึงมีโปรแกรมรวมภาพ ที่มีชื่อว่า Layout ออกมาเพื่อเอาใจผู้ใช้ ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดจากการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภค และนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นอยู่เสมอค่ะ

และทั้ง 4 ข้อนี้ ก็คือข้อคิด จากการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของโมบายล์แอพยักษ์ใหญ่อย่าง Instagram ที่ผู้ประกอบการ สามารถเรียนรู้ และนำไปปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อพัฒนาตราสินค้า รวมถึงภาพลักษณ์ และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ให้สามารถเติบโตต่อไปได้บนโลกดิจิทัลแห่งนี้ค่ะ และสำหรับผู้ประกอบการท่านใด ที่สนใจทำโฆษณา Instagram กับ ReadyPlanet

ติดต่อเรา โทร 02-016-6988 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อติดตามรายละเอียดได้เลยค่ะ