ใช้ Facebook Cover Photo อย่างไร ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ
เมื่อคุณทำการเปิด Facebook Page ไม่ว่าจะเพื่อโปรโมตธุรกิจ หรือเพื่อเป็นร้านค้าออนไลน์ก็ตาม คุณจะต้องให้ความสำคัญกับหน้าเพจ ว่ามันสามารถดึงดูดผู้บริโภคที่คลิกเข้ามาจากโฆษณาได้หรือไม่
เพราะถึงแม้ว่าคุณจะสร้างแบนเนอร์โฆษณาได้ดี มีเนื้อหาที่สมบูรณ์เพียงใด แต่ถ้าหน้าเพจของคุณไม่อาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจได้แล้วล่ะก็ พวกเขาอาจจะคลิกออกจากหน้าเพจของคุณ โดยที่คุณพลาดโอกาสในการปิดการขาย แต่ต้องเสียเงินให้กับค่าโฆษณาก็ได้ค่ะ!
ซึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคจะเห็นเด่นชัดที่สุด เมื่อพวกเขาอยู่ในเพจของคุณ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก "Cover Photo" ที่มีลักษณะเป็นแบนเนอร์ขนาดใหญ่บนส่วนหัวของเพจนั่นเองค่ะ
ก่อนหน้านี้ คุณอาจมองว่า Cover Photo ไม่ได้มีความสำคัญกับธุรกิจของคุณมากมายนัก คุณสร้างภาพแบนเนอร์ ขนาด 828 x 315 pixels ขึ้นมา 1 ภาพ แล้วปล่อยทิ้งมันไว้อย่างนั้นตลอดกาล ซึ่งจริง ๆ แล้วการทำแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ยังมีวิธีใช้ประโยชน์จากภาพนี้ได้มากกว่านั้นค่ะ
ในวันนี้ ReadyPlanet อยากจะมาแนะนำวิธีที่จะทำให้คุณ เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้มากขึ้น โดยที่คุณแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม ด้วยการให้ความสนใจกับ Cover Photo มากขึ้น พร้อมตัวอย่างแบรนด์ดัง ที่หันมาใช้ประโยชน์จาก Cover Photo เพื่อให้แบรนด์เหล่านั้นเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ของคุณค่ะ
ซึ่งจะมีวิธีใช้ประโยชน์จาก Cover Photo ได้อย่างไรบ้างนั้น หาคำตอบได้ที่นี่เลยค่ะ
1. อย่าบอกว่าคุณทำอะไร... แต่โชว์ให้เห็นแทน
คงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก หากคุณจะอัดข้อมูลมากมายลงไปให้กับผู้เข้าชม ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเข้ามายังเพจของคุณ ยิ่งถ้าเป็นนิสัยของคนดิจิทัลด้วยแล้ว พวกเขาจะพยายามมองข้ามข้อมูลมหาศาลในรูปแบบตัวหนังสืออย่างที่สุด
แต่คุณควรแสดงตัวตนของแบรนด์คุณในลักษณะของรูปภาพ Cover Photo ที่สวยงาม ดึงดูด มีชีวิตชีวา และแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของธุรกิจได้อย่างชัดเจน และเมื่อผู้เข้าชมเกิดความสนใจในภาพ เขาก็จะรู้สึกสนใจในตัวตนของแบรนด์ไปด้วยค่ะ
2. ใช้ Profile Picture ช่วยอีกแรง
จากการออกแบบของทีมพัฒนาจาก Facebook ที่ให้ Profile Picture บังบางส่วนของ Cover Photo เอาไว้ ซึ่งนั่นทำให้คุณสามารถใช้ไอเดียในการทำภาพทั้งสองให้ดูคล้ายจะเป็นภาพเดียวกัน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และความสนุกสนาน ให้เกิดขึ้นในใจของแฟนและผู้พบเห็น
แต่คุณจะต้องไม่ลืมว่าจะต้องทำ Cover Photo สนับสนุน Profile Picture ไม่ใช่ทำ Profile Picture สนับสนุน Cover Photo นะคะ เพราะเวลาที่คุณ Post, Like หรือ Comment ลงไปใน Social Network สิ่งที่จะติดตามคุณไปคือ Profile Picture ซึ่งคุณจะต้องแสดงตัวตนของแบรนด์เป็นหลักค่ะ
3. ให้ช่วยโปรโมตผลิตภัณฑ์ หรือโปรโมชั่นใหม่
เมื่อมีการจัดโปรโมชั่น หรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณย่อมต้องการให้สินค้าหรือโปรโมชั่นนั้นได้รับการรับรู้จากผู้บริโภคจำนวนมาก ดังนั้น คุณควรทำให้มันเป็นสิ่งแรกที่ผู้บริโภคพบเห็นบนหน้าเพจของคุณ
ยิ่งถ้าพวกเขาคลิกเข้ามาที่แฟนเพจผ่านโฆษณาของผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชั่นนั้น ๆ เมื่อเขาพบเห็นข้อความเหล่านั้นอีกครั้งบน Cover Photo ก็จะเป็นการย้ำเตือนให้พวกเขาจดจำผลิตภัณฑ์ หรือโปรโมชั่นของคุณได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
4. เปลี่ยนให้เข้ากับเทศกาล หรือวันสำคัญต่าง ๆ ของปี
เมื่อใกล้เข้าสู่เทศกาลสำคัญ ๆ ของปี การแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับเทศกาล จะทำให้แฟนเพจและผู้เข้าชมเห็นว่าคุณใส่ใจและอัพเดทแฟนเพจของคุณเสมอ และพวกเขาจะสบายใจที่จะสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าผ่านทางแฟนเพจ มากกว่าเพจที่ไม่อัพเดทข้อมูลของตนเองค่ะ
และอีกอย่าง คุณก็จะสามารถโปรโมตสินค้าผ่านงานเทศกาล โดยใช้ Cover Photo เป็นอีกสื่อหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ เช่น คุณเป็นธุรกิจเบเกอร์รี่ ที่ต้องการโปรโมตคุ้กกี้ เพื่อมอบให้เป็นของขวัญวันแม่ คุณก็สามารถใช้ Cover Photo ในการโปรโมตได้เช่นกันค่ะ
5. ให้บอกความประทับใจของลูกค้าก็ได้
อีกวิธีหนึ่งซึ่งได้ผลเสมอในการโปรโมตธุรกิจออนไลน์ คือการให้ผู้ใช้สินค้าหรือบริการตัวจริง ออกมาพูดแนะนำและกล่าวถึงความประทับใจในตัวแบรนด์ เหมือนกับเป็นการรีวิว จะช่วยให้ผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจ รู้สึกเชื่อถือในตัวแบรนด์และเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้น ซึ่งความประทับใจเหล่านี้ คุณก็สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ บน Cover Photo ของคุณค่ะ
6. ใช้ประกาศอีเว้นท์ใหญ่ หรือจะฉลองความสำเร็จของยอดขายก็ได้
หากแบรนด์ของคุณมีการจัดเฉลิมฉลอง หรือมีอีเว้นท์สำคัญใดๆก็ตาม คุณสามารถประกาศให้แฟนเพจ และผู้เข้าชมเพจของคุณได้รับรู้ รวมถึงเชิญชวนให้พวกเขาเหล่านั้นมาร่วมงานของคุณได้เช่นกัน
โดยคุณสามารถเพิ่มช่องทางในการติดต่อ เช่น ปุ่ม Call Now บริเวณด้านล่างซ้ายของ Cover Photo ซึ่งคุณสามารถตั้งชื่อของปุ่มให้เข้ากับงานอีเว้นท์ของคุณได้เองค่ะ
ตอนนี้ คุณคงพอจะมองเห็นถึงความสำคัญ และวิธีการใช้ Cover Photo ในการโปรโมตธุรกิจผ่าน Facebook โดยไม่มีค่าใช้จ่ายกันแล้วใช่ไหมคะ? หากคุณอยากลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณอาจต้องพิจารณาดีๆ ถึงความถี่ของการเปลี่ยนภาพ
เพราะถ้าหากคุณเปลี่ยนภาพบ่อยจนเกินไป อาจทำให้การรับรู้และจดจำแบรนด์ของคุณทำได้ยาก เพราะผู้บริโภคอาจเกิดความสับสนได้ ดังนั้น ลองเลือกภาพ และเลือกช่วงเวลาในการเปลี่ยนภาพที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณดู ไม่แน่ว่าคุณอาจสามารถเพิ่มยอดขาย ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยก็ได้ค่ะ
March 08, 2016
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com