นำ Fashion Trends มาเป็นไอเดียตกแต่งเว็บไซด์ ให้ดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น


สำ
หรับผู้ประกอบการ ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, หรือเครื่องประดับ อาจมีความรู้สึกว่า “แฟชั่น” เป็นเรื่องไกลตัว และอาจไม่มีความจำเป็นต่อธุรกิจ แต่คุณรู้หรือไม่คะ! ว่าอุตสาหกรรมแฟชั่น เป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงหลายพันล้านดอลล่าร์ และไม่ว่าเราจะสนใจมันหรือไม่ แฟชั่นก็เข้ามาอิทธิพลกับตัวเราทุกคน มากกว่าเป็นเพียงแค่สิ่งของที่คนบางกลุ่มสวมใส่เท่านั้นค่ะ

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น เพราะ "แฟชั่น" ไม่ใช่เพียงแค่เสื้อผ้า ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ แต่ยังหมายถึง ทุกสิ่งที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ทำตาม อะไรที่เรียกว่าเป็นแฟชั่น จะมีผู้นำกระแส และเมื่อกระแสนั้นได้รับการยอมรับ ผู้คนก็จะรู้สึกชื่นชอบที่จะทำตาม บริโภคตาม แฟชั่นจึงครอบคลุมปัจจัย 4 ในชีวิตของเรา ไม่เพียงแค่เครื่องแต่งกายเท่านั้นค่ะ

 


ดังนั้น
ถึงแม้ว่าชุดเก่งที่คุณโปรดปรานจะไม่ใช่ชุดจากรันเวย์ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง แต่เป็นเสื้อเชิ้ตสีพื้นกับกางเกงยีนส์ขากระบอก กระนั้นคุณก็ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นโดยไม่รู้ตัวแล้วค่ะ และเมื่อคุณทราบว่าแฟชั่นมีอิทธิพลกับชีวิตของทุกคนมากขนาดนี้แล้ว การเลือกหยิบเอาเทรนด์แฟชั่นที่กำลังนิยมในปัจจุบัน มาช่วยเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งเว็บไซต์ของคุณ ย่อมช่วยในการดึงดูดความสนใจต่อผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ได้มากขึ้น

ในวันนี้ ReadyPlanet จึงได้นำเอา 6 เทรนด์แฟชั่นสุดชิค ที่ผู้บริโภคชื่นชอบ พร้อมตัวอย่างเว็บไซต์ ที่ดึงเอาจุดเด่นของเทรนด์ดังกล่าวมาปรับใช้กับเว็บไซต์ของตน จนได้เว็บไซต์ที่สวย และดึงดูดความสนใจจากคนบนโลกออนไลน์ มาให้ทุกท่านได้ชม และลองหยิบเอาส่วนที่ใช่ ไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณดู ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้ที่นี่เลยค่ะ

 

1. Go Crazy For Patterns - แสดงออกถึงความสร้างสรรค์ ผ่านแพทเทิร์นที่สดสวย

ตั้งแต่พื้นหลัง ไปจนถึงส่วนล่างสุดของเว็บไซต์ คุณสามารถใช้รูปแบบเรขาคณิต ทะเล ดอกไม้ ลายเส้น ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ได้ เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้เว็บไซต์ดูสะดุดตา และน่าค้นหามากขึ้น มีเพียงสิ่งเดียวที่คุณต้องระวังนั่นก็คือ ต้องไม่ให้พื้นหลังแย่งความสนใจของสินค้า หรือบดบังชื่อเมนูและคำอธิบายสินค้าของคุณ หากสินค้าของคุณส่วนใหญ่ค่อนข้างเรียบง่าย การเพิ่มลวดลายบนเว็บไซต์ จะช่วยกระตุ้นความสนใจได้มากกว่าค่ะ ซึ่งแพทเทิร์นแบบใดจะเหมาะกับเว็บไซต์ คุณสามารถหาอินสไปน์ได้จากเว็บไซต์ของนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง หรือในบล็อกของแฟชั่นนิสต้าต่างๆ เพื่อหาทิศทางที่เหมาะสมกับแบรนด์คุณได้เลยค่ะ


ที่มา : 
http://www.fashionisers.com/trends/fall-winter-2015-2016-print-trends/


Desires for Cards ออกแบบ และจำหน่ายการ์ดอวยพรในโอกาสพิเศษ (เว็บไซต์ระบบ VelaEasy : Package Shop L)

 

2. Less is More - ไม่เยอะมาก แต่คุณภาพคับจอ

เทรนด์แฟชั่นแบบมินิมอล(Minimal) หรือการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ดูไม่ธรรมดา ได้รับความนิยมบนโลกแฟชั่นเป็นอย่างมากในขณะนี้ เช่นเดียวกันกับการทำเว็บดีไซน์ ที่กำลังนิยมการออกแบบเว็บไซน์ที่เรียกว่า Flat Design จนกลายเป็นเทรนด์แพร่หลายในปัจจุบัน

ซึ่ง Flat Design นั้น อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การดีไซน์แบบเรียบง่าย ไม่เน้นการใส่ Effect มากนัก แตกต่างจากก่อนหน้านี้ ที่ผู้คนนิยมงานดีไซน์แบบ Skeuomorphism หรือการออกแบบให้ดูสมจริง เช่น มีการใส่ลายไม้ลงไปในแอพ E-book ต่างๆ เพื่อให้ดูเหมือนกับเป็นชั้นวางหนังสือจริงๆ เป็นต้น แต่ปัจจุบันมีการตัดทอนการดีไซน์เหล่านี้ออกไป ทำให้เกิดเป็น Flat Design เข้ามาแทนที่


ที่มา : 
http://www.fashiongonerogue.com/cos-2016-spring-womens-lookbook/


Eastwood Atelier จำหน่ายกระเป๋าหนัง และเครื่องประดับหนังแฮนด์เมด (เว็บไซต์ระบบ PageBig)

 

3. Let's Celebrate the Seasons - เล่นกับฤดูกาลใหม่ๆ อัพเดทเว็บไซต์อยู่เสมอ

เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ วงการแฟชั่นจะมีการสถาปนาสีขึ้นมา 1 หรืออาจจะ 2-3 สี เพื่อให้เป็นสีประจำแต่ละฤดูกาล แล้วเหล่าดีไซเนอร์แบรนด์ดังต่างๆ ก็จะเนรมิตคอลเลคชั่นสินค้าของตนเองมาโดยใช้สีเหล่านั้นเป็นพื้นฐาน ซึ่งความสร้างสนุกสนานให้กับแฟชั่นกูรูและเหล่าแฟชั่นบล็อกเกอร์เป็นอย่างมาก ในการมิกซ์แอนด์แมทช์สีสันเข้ากับเสื้อผ้าของตน ซึ่งเว็บไซต์ของคุณก็สามารถทำแบบนั้นได้เช่นกันค่ะ!

ไม่แตกต่างอะไรจากการเปลี่ยนสีเว็บไซต์เป็นสีแดงในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนและวาเลนไทน์ ลองเลือกใช้สีที่เข้ากับเทศกาล หรือวันสำคัญในแต่ละปี แล้วนำมันมาตกแต่งเว็บไซต์ของคุณ โดยอินสไปน์การตกแต่งเว็บไซต์ผ่านเทรนด์แฟชั่นออนไลน์ และอย่าลืมลงสินค้าใหม่ที่มีความเกี่ยวข้องกับเทศกาล เท่านี้คุณก็เพิ่มโอกาสที่จะได้ยอดขาย จากการอัพเดทเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจอยู่เสมอแล้วล่ะค่ะ

 
ที่มา : http://www.vogue.com/9798411/valentines-day-inspired-runway-fashion/


BalloonArt ToGo จำหน่ายบอลลูน และลูกโป่งสวยงาม ตามโอกาสพิเศษต่างๆ (เว็บไซต์ระบบ Vela Lite Package)

 

4. Create An Attractive Logo - ออกแบบตราสินค้า เพื่อสร้างการจดจำต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

การจะออกแบบโลโก้ หรือตราสินค้าขึ้นมาสักชิ้นนั้น สิ่งที่คุณต้องคำนึงมากที่สุดก็คือ มันสัมพันธ์กับสินค้า หรือบริการของคุณหรือเปล่า?  เพราะการนำตราสินค้ามาใช้ประกอบการขายนั้น มันไม่ใช่การขายเพียงแค่ครั้งเดียว คุณจะต้องใช้มันในทุกๆที่ ทุกๆสื่อที่คุณจะไป เหมือนมันเป็นตัวแทนของแบรนด์คุณ และผู้บริโภคก็จะจดจำคุณได้ผ่านมัน

ดังนั้น โลโก้ของคุณจึงไม่ควรมีความซับซ้อนมาก จนผู้บริโภคจดจำได้ยาก และจะต้องไม่คล้ายกับแบรนด์อื่นมากจนเกิดความสับสน ไม่ว่าโลโก้ของคุณจะใช้ตัวหนังสือพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก หรือเป็นภาพ จำไว้ว่าคุณอาจต้องใช้โลโก้นี้ไปตลอดการทำธุรกิจของคุณ เราไม่แนะนำให้คุณใช้โลโก้ที่ตามสมัยนิยมมากเกินไปค่ะ เพราะหากสิ่งนั้นหมดความนิยมไปแล้ว แบรนด์ของคุณก็อาจหมดความนิยมตามไปด้วยได้

ตัวอย่างจากแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Louis Vuitton และ Chanel ที่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะใช้โลโก้นี้มากว่าร้อยปีแล้ว แต่โลโก้ของทั้งสองแบรนด์ก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และผู้คนมากมายยังต้องการจับจองสินค้าที่มีโลโก้สองตัวนี้พิมพ์อยู่เสมอมา



Bike Monster จำหน่ายจักรยาน ชิ้นส่วน และอุปกรณ์เสริมจักรยาน (เว็บไซต์ระบบ VelaEasy : Package Info)

 

5. Oversize It - ขยายส่วนที่อยากให้เด่น เน้นส่วนที่อยากจะบอก

เทรนด์โอเวอร์ไซส์ คือ การใส่เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับที่ ใหญ่ เกินกว่าขนาดตัวของผู้สวม จนสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน ซึ่งหัวใจหลักของการแต่งกายแบบโอเวอร์ไซส์นั้น เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายจะเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ไอเทมโอเวอร์ไซส์เพียงแค่ 1 หรือ 2 ชิ้นในร่างกาย เพื่อให้ดูไม่รุ่มร่ามจนเกินไปค่ะ

เมื่อนำเอาเทรนด์โอเวอร์ไซส์มาอินสไปน์กับการตกแต่งเว็บ คุณอาจเลือกใช้ภาพส่วนหัวขนาดใหญ่ที่น่าดึงดูด หรือวางโลโก้ขนาดใหญ่เพื่อสร้างการจดจำในตัวแบรนด์ให้แก่ลูกค้า ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเน้นส่วนไหน คุณก็ขยายส่วนนั้น โดยคุณมั่นใจได้เลยค่ะว่า ลูกค้าจะต้องอ่านข้อความ หรือหรือมองภาพที่คุณต้องการสื่อสารได้เป็นอันดับแรก และพวกเขามีโอกาสที่จะจดจำมันได้สูงทีเดียวค่ะ


ที่มา : 
http://cinefog.com/fall-winter-2015-2016-fashion-trends/


Fonig Lab Cosmetics จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ (เว็บไซต์ระบบ PageBig)

 

6. Showcase Real People - ใช้ภาพจริง ดียิ่งกว่าภาพสต็อก

ภาพที่ไม่ได้มีนางแบบหุ่นผอมเพรียว สวมใส่เสื้อผ้ากรุยกรายและรองเท้าส้นสูง กำลังยืนโพสต์อย่างสง่างาม ท่ามกลางพื้นหลังที่เป็นปราสาทสีทองสุดหรู ให้ความรู้สึกจับต้องยากและสื่อสารกับผู้บริโภคได้น้อยกว่าภาพของครอบครัว ที่มีทั้งเด็ก คนชรา หรือแม้แต่ช่างไฟอยู่ในภาพ เพื่อทำให้แบรนด์ลงมาสื่อสารกับผู้บริโภคมากขึ้น สร้างความรู้สึกแตกต่าง จับต้องได้ และสวมใส่ได้จริง เราจึงเริ่มเห็นภาพของการใช้ผู้คนที่มีชีวิตชีวามากขึ้น ประดิษฐ์น้อยลง ตามแบนเนอร์โฆษณาต่างๆของแบรนด์แฟชั่นสุดหรู

เช่นเดียวกับการเลือกใช้ภาพบนหน้าเว็บไซต์ หากคุณใช้ภาพพนักงาน ผู้บริหาร หรือลูกค้าจริงที่เข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการของคุณจริงๆ ในบางส่วนที่เหมาะสม(เช่นเนื้อหาส่วน เกี่ยวกับเรา หรือ ติดต่อเรา) ย่อมสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจได้มาก ที่สำคัญคือการใช้ภาพจริงนั้น จะทำให้ผู้บริโภคที่พบเห็นเว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการของคุณได้มากขึ้น ผ่านการดูรูปภาพ มากกว่าการซื้อภาพมาจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่ช่างภาพมืออาชีพนำมาขาย ซึ่งถึงแม้คุณจะได้ภาพที่สวยงาม แต่มันอาจขาดชีวิตชีวา และความน่าเชื่อถือ


ที่มา : 
http://fashionista.com/2015/06/dolce-gabbana-fall-2015-campaign


Bua Sabai บริการนวดแผนไทย สปา และทำเล็บ (เว็บไซต์ระบบ PageBig)

 

และนี่คือทั้ง 6 เทรนด์แฟชั่น ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับการตกแต่งเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ ถ้าหากชื่นชอบ หรือมองเห็นว่ามีเทรนด์ใดที่อาจไม่ได้เอ่ยถึง แต่มันเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ สามารถนำจุดเด่นของเทรนด์นั้นมาปรับใช้ ตามแนวทางที่แนะนำไปข้างต้นได้เลยค่ะ และหากผู้ประกอบการท่านใด ที่ยังไม่มีเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ และสนใจรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการเว็บไซต์สำเร็จรูป โดยผู้เชี่ยวชาญจาก ReadyPlanet

 

สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02-016-6979 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ ค่ะ

 

February 16, 2016
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com

สนใจรับฟังข้อมูลบริการ

เว็บไซต์สำเร็จรูป, Online Advertising, Training course