โดยหลักการคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจะต้องสามารถทำหน้าที่ได้ตั้งแต่ สร้างการรับรู้ เกิดความเข้าใจ และรู้สึกเชื่อมั่นในธุรกิจของเรา เพราะเมื่อลูกค้าเชื่อ ลูกค้าก็จะมั่นใจที่จะซื้อสินค้า หรือบริการกับเรานั่นเอง

แต่คอนเทนต์แบบไหน ที่จะโดนใจผู้บริโภค? คอนเทนต์แบบไหน ที่จะทำให้เขาคลิกอ่านต่อ? ตลอดจนใช้เวลากับสาระที่เรานำเสนอ หรือมีเทคนิคอะไรไหม? ที่จะมาช่วยเพิ่มยอดคลิกให้มีคุณภาพ ตลอดจนเพิ่มไลค์ ได้แชร์ แบบไม่ต้องเหนื่อยเกินไป ที่สำคัญยังรวมถึงอันดับการแสดงผลแบบธรรมชาติบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาบน Google อีกด้วย ซึ่งคอลัมน์ Content Marketing ในวันนี้ เรามีเทคนิคที่น่าสนใจมาฝากทุกท่านค่ะ

3 ขั้นตอน ปั้นคอนเทนต์ช่วยเร่งคลิก

ในสภาวะการแข่งขันที่สูง ใครที่ตอบคำถามของผู้บริโภคได้ก่อนคือผู้ชนะ! โดยเฉพาะใครก็ตามที่สามารถสร้างคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้เยี่ยมชมมากมายได้อย่างรวดเร็ว ด้วยกลไกของกระแสแพร่กระจายที่มาจากการแชร์ในโลกโซเชียล โดยผู้ที่ได้พบเห็นแล้วยังมีแรงสนับสนุนของการปรากฎในอันดับต้น ๆ บนหน้าผลลัพธ์การค้นของ Google อีกด้วย ว่าแล้วเราไปดูกันเลยค่ะว่า 3 ขั้นตอนที่ว่านี้ มีอะไร และทำได้อย่างไรบ้าง

1. ตามล่าหาคอนเทนต์ยอดนิยม

ซึ่งคือ คอนเทนต์ที่มีการคลิกอ่าน มีจำนวน Like และ Share มาก ๆ ที่สำคัญควรจะเป็นเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของคุณด้วย โดยคุณอาจใช้เครื่องมือที่คุ้นเคยอย่าง Google Search ด้วยการพิมพ์คำหลัก แล้วดูว่าบทความที่ขึ้นอับดับ 1 คือเรื่องอะไร

หรือจะเลือกใช้ Facebook ในการค้นหาก็ได้ค่ะ โดยการพิมพ์ #คำหลัก แล้วดูว่าโพสต์ไหนที่มีคน Like และ Share สูง หรือจะดูเทียบจากอัตรา Share/Like ก็ได้ ความหมายเดียวกันคือ ยิ่งสูง ก็ยิ่งน่าสนใจ หลังจากขั้นตอนนี้เสร็จสิ้น คุณก็น่าจะสามารถรวบรวมคลังไอเดียสำหรับบทความที่น่าทำ เอาไว้ได้จำนวนหนึ่งแล้วล่ะค่ะ

2. พัฒนาให้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

หลังจากได้บทความที่ได้รับความนิยมมาแล้ว ให้พิจารณาว่า จะพัฒนาบทความของตัวเองให้มีชื่อเรื่อง และเนื้อหาที่โดดเด่นกว่าเดิมได้อย่างไร ซึ่งก็สามารถทำได้ในหลากหลายวิธี ดังต่อไปนี้ค่ะ
  

 ทำให้เนื้อหายาวกว่าเดิม สมมติว่า ไอเดียบทความคือ “11 คุณประโยชน์จากความหวานของน้ำผึ้งแท้” ด้วยเทคนิคนี้อาจจะลองเปลี่ยนเป็น “50 วิธีใช้น้ำผึ้งแท้ที่คุณไม่เคยรู้” เป็นต้น

ด้วยการนำเสนอที่เต็มไปด้วยคุณภาพและจำนวน ทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกสนใจ เพราะประโยชน์มีมากเหลือเกิน แต่คุณก็จะต้องหาข้อมูลที่ถูกต้องมาใช้เพื่อทำคอนเทนต์เหมือนกันนะคะ และยิ่งถ้าสามารถเขียนข้อละบรรทัดสั้น ๆได้ รับรองว่า คนคลิกอ่านเพียบ ยอด Like พุ่ง แถมยอด Share กระจายอย่างแน่นอน

 อัพเดตข้อมูลใหม่ให้ถูกต้องทันสมัย ในกรณีที่พบว่า คอนเทนต์ยอดนิยมนั้น มีข้อมูลบางอย่างที่ล้าสมัย ใช้ไม่ได้แล้ว หรืออาจไม่ถูกต้อง ไม่เป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน การทำบทความอัพเดท เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกว่า และทันสมัยกว่า โดยอ้างอิงจากบทความเก่า จะทำให้เนื้อหาของคุณดูน่าสนใจกว่าของเดิมได้

เช่น บทความเดิมที่ได้รับความนิยมใช้ชื่อเรื่องว่า “เทคนิคการทดสอบน้ำผึ้งแท้” แต่คุณพบว่ามีบางวิธีที่ใช้ไม่ได้ เก่าไปแล้ว หรือมีวิธีใหม่ที่ง่ายกว่า ก็อาจจะทำเป็นเรื่อง “เทคนิคใหม่ทดสอบน้ำผึ้งแท้ แค่ 5 วินาทีก็ทำได้แล้ว” เป็นต้น

 ออกแบบให้ดูน่าสนใจกว่าเดิม หากคุณพบว่า บทความต้นฉบับที่ได้รับความสนใจ ใช้วิธีนำเสนอด้วยตัวหนังสือกับภาพประกอบที่ไม่ค่อยชัดเจนหรือดูไม่งามสักเท่าใด

เพียงแค่นำข้อเท็จจริงของคอนเทนต์มาออกแบบใหม่ ใส่รูปภาพที่สวยงาม หรือทำเป็น Infographics ที่เข้าใจง่าย สะดวกต่อการแชร์ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าจะทำได้ไม่ยากเกินไปนัก งานนี้ต้องอาศัยหัวศิลปะนิดหน่อย ไอเดียเบื้องหลังคำแนะนำของการเปลี่ยนคอนเทนต์เป็นภาพก็คือ สมองมนุษย์สามารถเข้าใจภาพได้เร็วกว่าตัวหนังสือถึง 60,000 เท่าเลยทีเดียวค่ะ

3. ส่งคอนเทนต์ให้ถูกตัวผู้รับ

ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะหลังจากที่คุณสร้างคอนเทนต์ที่มีโอกาสได้รับความนิยมสูงเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือ การส่งอีเมลไปยังผู้รับ ที่จะนำพาคอนเทนต์ของเราไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่กว่า โดยแทนที่จะส่งอีเมลคอนเทนต์ออกไปแบบสุ่ม เช่น จากฐานข้อมูลอีเมล หรือโพสต์ขึ้นเพจตัวเอง การส่งคอนเทนต์ไปยังเจ้าของเว็บไซต์ เพจ ที่จัดทำนำเสนอเรื่องราวทำนองเดียวกันนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์ของเราแพร่กระจายออกไปได้เร็ว และได้มากกว่าเดิมได้ค่ะ

โดยหลักการเบื้องต้น คือ คุณจะต้อง search หาเว็บไซต์ หรือเพจที่มีคุณภาพ ลองหาดูจากอันดับในหน้าแสดงผลลัพธ์การค้นหาสำหรับเว็บไซต์ ตลอดจนไดเรกทอรีที่จัดอันดับเว็บไซต์ยอดนิยม และจาก Engagement (ความถี่ในการโพสต์เทียบกับผลตอบรับที่ได้ พวก Like และ Share นั่นเองค่ะ) ของเพจที่เราสนใจ ยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดี

จากนั้น แนบคอนเทนต์ไปกับอีเมลให้กับเจ้าของเว็บไซต์เหล่านี้ หรือ inbox คอนเทนต์ไปให้กับเจ้าของเพจ อย่าลืมแนะนำตัวอย่างสุภาพพร้อมทั้งยืนยันความถูกต้องของเนื้อหาที่ส่งไปให้ และกล่าวขอบคุณสำหรับการเผยแพร่สาระที่เป็นประโยชน์

ทั้งหมดนี้คุณต้องไม่ลืมสอดแทรกแบรนด์สินค้า/บริการของคุณเข้าไปในภาพประกอบ Infographic หรืออย่างน้อยที่สุด คือ เครดิตเจ้าของผลงาน เพื่อยืนยันตัวตน และเป็นการสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองด้วย

หากคุณนำเทคนิคทั้ง 3 ข้อนี้ ไปลองปฏิบัติตาม รับรองค่ะว่า มันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณผลิตคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น และยังเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบรับที่สูงกว่าการสร้างคอนเท้นต์แบบไร้ทิศทางแน่นอนค่ะ

แต่จุดประสงค์ของคอลัมน์นี้ไม่ได้ต้องการให้ผู้ประกอบการ ก็อปปี้คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยม แล้วนำมาดัดแปลงเพียงเล็กน้อย จัดเรียงย่อหน้าใหม่เท่านั้นนะคะ เราต้องการให้คุณนำบทความเหล่านั้นไปต่อยอด เขียนเพิ่มเติมจากข้อเท็จจริงเดิม อัพเดท หรือสร้างสรรค์เนื้อหาออกมาในรูปแบบใหม่ ถึงจะเรียกว่าคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จนั้นเป็นของคุณจริง ๆ ค่ะ

ที่มา : นิตยสาร SME Thailand, Jan 2016, P. 88-89

January 26, 2016
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com