5 วิธีสร้างธุรกิจ ให้ติดอยู่ในใจของผู้บริโภค

เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจไปได้ระยะหนึ่ง คุณย่อมต้องมองหาวิธีที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต ซึ่งธุรกิจจะถือว่าประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ แบรนด์ของคุณได้รับโอกาสในการเข้าไปนั่งอยู่ในใจของลูกค้า ในตำแหน่งที่เรียกว่า Top of Mind ซึ่งหมายถึงว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสามารถเอ่ยชื่อตราสินค้าของคุณเป็นอันดับแรก เช่น เมื่อนึกถึงชาเขียว คุณนึกถึงยี่ห้ออะไร? เมื่อนึกถึงยาสระผม คุณนึกถึงยี่ห้ออะไร? เมื่อนึกถึงธนาคาร คุณนึกถึงธนาคารใด? เป็นต้น

ซึ่งการที่จะทำให้คุณไปอยู่ในตำแหน่ง Top of Mind ได้นั้น ต้องอาศัยกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมีความตระหนักในตราสินค้าของเรา (Brand Awareness) เป็นอันดับต้นๆ แต่สำหรับธุรกิจ SME นั้น การจะสื่อสารการตลาดอย่างเต็มที่คงจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ

 


วันนี้ ReadyPlanet จึงขอแนะนำวิธีที่ผู้ประกอบการ SME ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง Top of Mind แต่ก็สามารถมี Share of Heart ในใจของผู้บริโภคได้เป็นอันดับต้นๆได้ไม่ยากค่ะ ซึ่งความหมายของ Share of Heart คือ ส่วนแบ่งของความตั้งใจซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งถึงแม้คุณจะไม่ใช่อับดับแรกในใจของลูกค้า แต่คุณก็เป็น 1 ในอันดับต้น ๆ ที่อยู่ในใจของพวกเขาได้ค่ะ ซึ่งการที่คุณจะอยู่ในตำแหน่ง Share of Heart ได้นั้น ทำได้ด้วย 5 วิธีการดังต่อไปนี้ค่ะ

 

1. มี Responsive Website ที่แสดงผลได้ทุกหน้าจอ

ปัจจุบัน Smartphone นั้นกลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคเลือกใช้เพื่อค้นหาข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ หรือเพื่อค้นหาสินค้าและบริการที่พวกเขาสนใจ เพราะสมาร์ทโฟนนั้นทั้งสะดวก รวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเข้าถึงข่าวสารจากหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้ทันที จึงทำให้การเข้าชมเว็บไซต์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ใน PC หรือ Notebook อีกต่อไป

ดังนั้น หากคุณต้องการประกอบธุรกิจ โดยมี "เว็บไซต์" เป็นสำนักงานใหญ่ ที่คอยให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้บริโภค ไม่ว่าแคมเปญของคุณจะวิเศษแค่ไหน หากผู้บริโภคเข้าถึงไม่ได้ทุกอย่างก็จบค่ะ! ฉะนั้น เว็บไซต์ของคุณจะต้องสามารถแสดงผลที่สวยงามได้ทุกๆหน้าจอ โดยเฉพาะบนสมาร์ทโฟน เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ เข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณได้ ผ่านช่องทางนี้ค่ะ

 

 

2. มีจุดยืนของธุรกิจที่แน่นอน

คุณจำเป็นที่จะต้องสร้างคุณค่าของแบรนด์ ด้วยการแสดงทัศนคติของแบรนด์ต่อมุมมองทางสังคมที่เป็นบวก และยืนยันตัวตนของธุรกิจผ่านการโฆษณาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาท้องถิ่น, สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี หรือสนับสนุนให้ผู้หญิงเชื่อมั่นในตนเอง ฯลฯ หากคุณเลือกให้สอดคล้องกับธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะให้การสนับสนุนทางสังคมในรูปแบบใด ก็สามารถทำได้ทั้งหมดค่ะ

ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคจดจำคุณในแง่ดี และมีความน่าเชื่อถือ ทำให้พวกเขาเกิดความไว้วางใจที่จะมาซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณเพิ่มขึ้น โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ตัวค่ะ

ดังเช่นแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ของธนาคารกรุงไทย ที่พูดถึงเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเสียใจที่สุนัขของเธอเสียชีวิตเพราะถูกรถชน แต่ไม่สามารถรักษาได้ทันเนื่องจากคลินิกรักษาสัตว์ไม่เปิด เธอจึงเลือกที่จะมาเป็นสัตวแพทย์อาสา เพื่อช่วยเหลือสุนัขตัวอื่น ๆ ไม่ให้ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน โดยไม่ได้รู้สึกโกรธเคือง หรือจมอยู่กับความเจ็บปวดแต่อย่างใด ทำให้คนที่ได้ดูเกิดความซาบซึ่ง และมองภาพลักษณ์ของแบรนด์ธนาคารกรุงไทยในแง่บวกมากขึ้นค่ะ

ภาพจาก : https://www.facebook.com/krungthaibank

 

3. นำเสนอ “Solutions” ให้ลูกค้า ไม่ใช่ “Product”

การจะทำให้ลูกค้าคิดถึงแบรนด์ของคุณเป็นอับดับแรก ๆ นั้น สิ่งหนึ่งที่คุณต้องคำนึงเลยก็คือ สินค้าของคุณจะต้องสามารถแก้ปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ได้ สิ่งที่คุณต้องนำเสนอไม่ใช่ “สินค้า” แต่เป็น “สิ่งที่ช่วยแก้ปัญหา” ให้กับลูกค้าได้ต่างหาก

ยกตัวอย่างเช่น สินค้าของแบรนด์ IKEA ที่ประสบความสำเร็จสูง เนื่องจากพวกเขาไม่ได้เจาะจงขายเฟอร์นิเจอร์ แต่พวกเขาเจาะจงขายแนวคิดเกี่ยวกับการแต่งบ้านที่สวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวเลือกมากมาย และที่สำคัญคือมีราคาที่ไม่สูงนัก ซึ่งตรงกับปัญหาของผู้บริโภค ที่ก่อนหน้านี้หากคิดจะตกแต่งบ้านให้สวยงาม และมีเอกลักษณ์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูง เพื่อ Build in เฟอร์นิเจอร์ขึ้นใหม่

ซึ่งหากแบรนด์ของคุณสามารถมองเห็นปัญหาของลูกค้า และผลักดันให้ผู้บริโภคเห็นว่าสินค้าของคุณสามารถแก้ไขปัญหาของพวกเขาได้ เท่านี้คุณก็สามารถขึ้นเป็นอับดับต้น ๆ ในใจของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้แล้วค่ะ


ภาพจาก : http://adsoftheworld.com/media/print/ikea_decorate_for_the_holidays_3

 

4. ทำให้ลูกค้าต้องการสินค้าของเรามากขึ้น

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความต้องการสินค้าของคุณมากจนต้องกลับมาซื้อซ้ำได้เลยนะคะ หากคุณต้องการให้พวกเขาหวนกลับมาซื้อสินค้า หรือใช้บริการกับคุณอีกครั้ง ในขั้นตอนแรก คุณจะต้องสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ด้วยการบริการที่เอาใจใส่ ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง ไปจนถึงหลังการขายเลยล่ะค่ะ

ลำดับต่อมา คุณจะต้องวางแผนการตลาดอย่างสร้างสรรค์ ใช้ประโยชน์สูงสุดจากแพลตฟอร์มโฆษณาที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับธุรกิจ ทั้งใน Responsive Website ที่คุณมี, ใน Social Media ต่าง ๆ, ใน Online ads หรือการใช้วิธีส่งอีเมลหาลูกค้าโดยตรง โดยคุณอาจให้ส่วนลดกับลูกค้าในแต่ละฤดูกาล, แจ้งข่าวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด หรือจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เพื่อสื่อสารการตลาดกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ และเมื่อใดเขาต้องการสินค้า เขาจะนึกถึงคุณก่อนเป็นอับดับแรก ๆ

 

 

5. ให้ลูกค้ามากกว่า

ลูกค้านั้น นอกจากจะต้องการสินค้าแล้ว ยังต้องการประสบการณ์ที่ดีจากแบรนด์อีกด้วย หากสินค้าของคุณมีคุณภาพดี ลูกค้าก็จะเลือกซื้อสินค้าของคุณ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การรักษาคุณภาพให้ต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องคุณภาพของสินค้า และคุณภาพบริการ จะช่วยให้คุณสามารถสร้างความภักดีกับแบรนด์ให้เกิดขึ้นกับลูกค้าได้ เพราะลูกค้าจะเกิดความมั่นใจในสินค้าและบริการของคุณ

นอกเหนือจากนั้น หากลูกค้าคนใดภักดีกับแบรนด์มาก มียอดซื้อกับแบรนด์มาก คุณก็ควรจะแสดงความใส่ใจ และปฏิบัติกับลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าหากพวกเขาซื้อสินค้ากับแบรนด์อื่น พวกเขาก็อาจไม่ได้รับการดูแลที่ดีขนาดนี้ ซึ่งความรู้สึกเหล่านั้นจะทำให้ลูกค้าไม่ยอมเปลี่ยนใจไปจากแบรนด์ของคุณค่ะ

 

และทั้งหมดนี้ คือ 5 วิธีสร้างธุรกิจ ให้ติดอยู่ในใจของผู้บริโภค ที่ผู้ประกอบการทุกคนควรให้ความสำคัญ เพื่อให้แบรนด์ของคุณ ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่คุณมุ่งหวังค่ะ

 

January 12, 2016
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com

สนใจรับฟังข้อมูลบริการ

เว็บไซต์สำเร็จรูป, Online Advertising, Training course