ไลค์มา แต่ยอดขายไม่มี แก้ได้!
“ไลค์มา แต่ยอดขายไม่มี” คงเป็นปัญหาใหญ่ที่ ร้านค้าออนไลน์ที่ใช้ Facebook Page เป็นช่องทางในการทำธุรกิจพบเจอนะคะ เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ผลักดันให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสินค้าต่างๆ ได้อย่างมากมายและรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบัน เมื่อลูกค้ามีความสนใจสินค้าอะไร ก็จะไป กดไลค์ ถูกใจ Facebook Page นั้น และเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับธุรกิจคู่แข่ง ก่อนจะตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าจาก Facebook Page ที่ใช่ และโดนใจมากที่สุด!
แล้วจะทำอย่างไร? ให้ลูกค้าไม่ไลค์แล้วไลค์เลย ReadyPlanet จึงมีแนวทางในการทำ Facebook Page ให้ทั้งได้ใจ และได้ตังค์ มาฝาก ดังนี้ค่ะ
1. สร้างจุดขาย ขยายโอกาสให้ถูกเลือก
"จุดขายของสินค้า และบริการ" คือ แรงกระตุ้นให้ลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้าใน Facebook Page ได้เร็วขึ้น นะคะ เพราะเมื่อผู้บริโภคมีข้อมูลให้เปรียบเทียบเป็นจำนวนมากแล้ว สินค้าที่มีความแตกต่างจากธุรกิจคู่แข่ง จะโดดเด่นสะดุดตาผู้บริโภคได้อย่างทันทีเลยค่ะ โดยผู้ประกอบการอาจสร้างความแตกต่างให้สินค้า ด้วยการ นำเข้าสินค้าชนิดนั้นจากต่างประเทศ, จำหน่ายสินค้าที่มีกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ จำหน่ายสินค้าที่มาจากผู้ผลิตโดยตรง นอกจากนั้นยังอาจเพิ่มจุดขายต่อด้วยการ ให้บริการจัดส่งภายในวันเดียวกับที่ลูกค้าชำระเงิน หรือ บริการจัดส่งฟรี นะคะ
2. สร้างความน่าเชื่อถือ
"ความน่าเชื่อถือ" เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกได้เมื่อเข้ามาหาซื้อสินค้าใน Facebook Page เพราะ "ความน่าเชื่อถือ" คือ องค์ประกอบสำคัญที่ลูกค้าออนไลน์คำนึงถึงในช่วงตัดสินใจสั่งซื้อสินค้านะคะ แม้ว่าสินค้า และราคาจะดูน่าอุดหนุนแล้ว แต่ถ้าบน Facebook Page ยังขาดข้อมูลธุรกิจที่สำคัญใน หน้า About หรือ หน้าข้อมูลเพจ โดยเฉพาะ ประเภทธุรกิจ (Category), คำอธิบายเพจแบบสั้น (Short Description), ภาพรวมของบริษัท (Company Overview), สินค้าของธุรกิจ (Products) และ ข้อมูลทั่วไป (General Information) แล้ว ธุรกิจอาจพลาดโอกาสได้ลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นผู้ประกอบจึงควรใส่ข้อมูลในหน้า About ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ค่ะ
3. สร้างกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง
ในการทำธุรกิจนั้น ผู้ประกอบการต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่จะกลายมาเป็นลูกค้าของธุรกิจให้แม่นยำนะคะ ไม่อย่างนั้นการกำหนดกลยุทธ์เพื่อพิชิตใจผู้บริโภคก็จะทำได้ยาก และไม่มีประสิทธิภาพค่ะ ผู้ประกอบการจึงต้องวิเคราะห์ให้ดีว่า ผู้บริโภคที่จะสนใจและมีความต้องการซื้อสินค้าในธุรกิจนั้น เป็นเพศใด, มีอายุเท่าไร, ทำงานอะไร, มีไลฟ์สไตล์อย่างไร และสนใจอะไรบ้าง จากนั้นจึงเริ่มวางกลยุทธ์การทำการตลาด โดยเฉพาะการทำ Content ที่ใช้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องเป็นภาษาเดียวกัน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ อยากเยี่ยมชมสินค้าใน Facebook Page จนรู้สึกว่า "เขาไม่มีสินค้าของเรา ไม่ได้แล้ว" ค่ะ
4. สร้างโฆษณา พาลูกค้าสู่ Facebook Page
โฆษณา Facebook จะทำให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าในธุรกิจซ้ำ เพราะการที่ธุรกิจยิงโฆษณาให้เข้าไปอยู่ในสายตาผู้บริโภค รวมถึง แฟนใน Facebook Page เรื่อยๆ ย่อมช่วยให้ลูกค้าจดจำธุรกิจได้ ดังนั้นเมื่อเขาต้องการซื้อสินค้าประเภทเดียวกันอีก หรือเคยเห็นว่าธุรกิจมีสินค้าที่เขาสนใจจำหน่าย เขาก็จะกลับมาซื้อสินค้าใน Facebook Page ซ้ำค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นที่ Facebook ได้มีการพัฒนาเครื่องมือการทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีรูปแบบที่หลากหลาย ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจพาลูกค้ามาสู่ Facebook Page ได้ง่ายขึ้นนะคะ
แล้วปัญหา มีแต่ไลค์ แต่ไม่มียอดขายจะหมดไป หากผู้ประกอบการนำแนวทางทั้ง 4 ไปปรับใช้กับธุรกิจนะคะ และผู้ประกอบการท่านใด สนใจ อยากได้คำแนะนำเรื่องการทำโฆษณาบน Facebook จากผู้เชี่ยวชาญของ ReadyPlanet ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02-016-6789 เลยนะคะ
Patchanie Paugsopathai
www.ReadyPlanet.com
ReadyPlanet Marketing Platform
พาธุรกิจของคุณสู่ความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ด้วยแพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัล แบบ All-in-One ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ครบวงจรด้วยหลากหลายเครื่องมือ อาทิ R-Web เว็บไซต์สำเร็จรูป, R-Shop ร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูป, R-CRM แพลตฟอร์มบริหารลูกค้า งานขาย และการตลาด, Chatday กล่องแชทบนเว็บไซต์ และเครื่องมือ Marketing Tech อีกมากมาย ลงทะเบียนและเริ่มใช้ฟรีทันที