10 ประโยชน์ของระบบ CRM ที่มีต่อธุรกิจและทีมขายยุคใหม่

การขายในยุคปัจจุบัน มีเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น รวมถึงลูกค้าสามารถเข้าถึงการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางได้หลากหลาย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ดังนั้นเมื่อลูกค้ามีการปรับตัว ทางผู้ประกอบหรือธุรกิจต่างๆ ก็ต้องปรับตัวตามด้วยเพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการขาย อีกทั้งนักขายเองก็ควรมีแนวทางในการที่จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ดีและตรงจุดมากยิ่งขึ้น ซึ่งเครื่องมือหนึ่งที่ธุรกิจเลือกเข้ามาช่วยในบริหารงานขายก็คือ ระบบ CRM ซึ่งเป็นระบบที่จะสามารถช่วยจัดการงานขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการลูกค้า นับว่า CRM มีประโยชน์มากมายที่จะช่วยให้ทีมขายทำงานได้สะดวกสบาย รวดเร็วขึ้น และปิดการขายได้แม่นยำอีกด้วย 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ปัญหาและอุปสรรคในงานขายนั้นมีมากมายในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำออเดอร์ไม่ทัน ปิดการขายได้ช้า ได้ยอดขายไม่ตรงตามเป้า ได้รับ Lead น้อยกว่าเดิม ไม่มีเวลาโฟกัสงานขายและไม่มีเวลาในการดูแลลูกค้ารายสำคัญอย่างเต็มที่ เพราะติดงานเอกสารและรายงานประจำเดือน และอีกมากมาย นับไม่ถ้วน ดังนั้น หากธุรกิจคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องมองหา ระบบ CRM เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการงานขายให้กลายเป็นเรื่องง่ายแต่ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม พร้อมตอบโจทย์งานขายและขจัดปัญหาข้างต้นให้หมดไป

วันนี้ Readyplanet เลยขอมาแนะนำประโยชน์ที่คุณจะได้จากการใช้ ระบบ R-CRM ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ แล้วปัญหาการทำงานที่คุณเจออยู่ทุกวันจะหมดไปอย่างแน่นอน ลองไปดูกันค่ะว่า ประโยชน์ของ CRM มีอะไรบ้างที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวไปได้ไกลและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

 

10 ประโยชน์ ของระบบ CRM ที่ช่วยติดปีกให้ธุรกิจคุณไปได้ไกลกว่าเดิม

1. ระบบ CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บฐานข้อมูลลูกค้าได้อย่างเป็นระบบ

สำหรับคนที่ทำงานขาย เชื่อว่าปัญหาหนึ่งที่เจอกันบ่อยๆ ก็คือ การเก็บข้อมูลลูกค้าไว้หลายที่ ทั้งในสมุดจด, Microsoft Word, Microsoft Excel, Line หรือวิธีอื่น ๆ ทำให้เวลาที่ต้องการทราบข้อมูลของลูกค้า กลับกลายเป็นว่าเราจะเสียเวลาในการรวบรวมข้อมูลเป็นอย่างมากหรือบางครั้งหาไม่เจอเลยก็มี และจำนวนลูกค้าที่ดูแลหรือได้รับในแต่วันนั้นก็มีจำนวนไม่น้อย หรือเมื่อมีเซลส์คนใดคนหนึ่งลาออกก็ไม่รู้จะเอาข้อมูลลูกค้าเก่าของเซลส์รายนั้นมาจากไหน 

และเป้าหมายของธุรกิจการขายก็คือการหาลูกค้าใหม่เรื่อยๆ ดังนั้น เมื่อข้อมูลลูกค้าเยอะ ปัญหาที่ตามมาอีกก็คือ เซลส์เสียเวลาการทำงานอย่างมาก ดังนั้นถ้ามีการใช้ R-CRM ปัญหาข้อนี้จะหมดไป เพราะ ระบบ R-CRM เข้าช่วยเก็บฐานข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ สามารถรวบรวม Lead จากช่องทางต่างๆ เข้า R-CRM ได้อัตโนมัติ ไม่ค่อยต้องมาลงข้อมูลลูกค้าทีละราย คราวนี้ไม่ว่าข้อมูลลูกค้าจะเยอะแค่ไหน หรือมาจากหลายช่องทางใด เซลส์ก็จะสามารถบริหารจัดการได้ทันที ประสานงาน ส่งต่อ Lead ก็ทำได้ง่าย จากนี้ก็ไม่จำเป็นต้องจดบันทึกด้วยมือ ไม่ต้องลงข้อมูลเองใน Excel ให้ยุ่งยากอีกต่อไป

 

2. ค้นหาข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลประวัติการบันทึกต่าง ๆ ในระบบ CRM ได้ง่าย

 

r-crm lead inbox

 

เมื่อมีการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบแล้ว การค้นหาข้อมูลก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเซลส์ต้องใช้เวลาในการจัดการงานขายหลายอย่าง ดังนั้น แพลตฟอร์ม R-CRM สามารถช่วยให้เซลส์หรือทีมขายค้นหาข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งต้องอย่าลืมว่าข้อมูลของลูกค้าในระบบนั้นมีเยอะมาก และลูกค้าแต่ละคนนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล หรือเบอร์โทร เท่านั้น  แต่รวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ด้วย เช่น บันทึกโน้ตต่างๆ รายละเอียดจากการพูดคุยกับลูกค้า ข้อมูลเพื่อ การทำใบเสนอราคา

ดังนั้น เมื่อมีการใช้แพลตฟอร์ม R-CRM แล้วก็จะสามารถที่จะค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้นเพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นลงไปในช่องค้นหา อีกทั้งมี R-CRM มีฟีเจอร์ติดป้ายกำกับ เพื่อใช้แบ่งประเภทลูกค้า ตรงนี้ก็สามารถช่วยเจาะจงการค้นหาได้ดีมากยิ่งขึ้น เซลส์ติดตามงานขายต่อได้ทันที

 


3. แจ้งเตือนนัดหมายลูกค้าผ่านระบบ CRM ได้ ไม่พลาดทุกดีลสำคัญ

ในบางธุรกิจ การพูดคุยเจรจาเป็นอีกส่วนหนึ่งของนักขาย ที่มีบทบาทต่อการปิดการขายอย่างมาก เช่น เซลส์คนหนึ่ง มีลูกค้าจำนวนมาก ก็เท่ากับว่าในแต่ละวัน แต่ละเดือน ต้องมีนัดหมายกับลูกค้าเป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่นักขายยังมีต้องมีหน้าที่อื่น ๆ อีก เช่น การหาลูกค้าใหม่ การทำงานเอกสาร สนับสนุนให้ความช่วยเหลือลูกค้า จนสามารถไปถึงขั้นตอนการปิดการขายได้ ดังนั้น ถ้าไม่มีการบริหารจัดการที่ดีพอ อาจเจอปัญหาลืมนัดสำคัญของลูกค้าได้ ดังนั้น โปรแกรม CRM ซึ่งมีฟีเจอร์ที่สามารถบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น ด้วยฟีเจอร์แจ้งเตือนนัดหมายทำให้เซลส์จัดการเวลาได้เป็นแบบแผน ติดตามลูกค้าได้ดีและแสดงถึงความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะมีนัดหมายลูกค้าคนสำคัญหรือแจ้งเตือนการติดตามงานขายกับลูกค้ารายใดก็จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและอาจจะมีส่วนช่วยในการปิดการขายได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย

 

r-crm reminder

 

 

4. ติดตามการขายได้ง่ายด้วย Sales Pipeline ช่วยปิดการขายได้เร็วขึ้น

เมื่อธุรกิจได้รับรายการ Lead หรือคนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าตัวจริงในอนาคต มาอยู่ใน R-CRM เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เซลส์ต้องทำต่อไปคือ การติดตามงานขายด้วย Sales Pipeline เพื่อบริหารจัดการและติดตาม Leads เพื่อให้สามารถปิดการขายให้ได้ ซึ่ง Sales Pipeline หรือขั้นตอนการขายของแต่ละธุรกิจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการทำงานจริงของธุรกิจนั้น ๆ การมีการแบ่งขั้นตอนการขายจะช่วยทำให้เซลส์มองเห็นสถานะการขายของลูกค้าแต่ละรายได้ดีมากขึ้น เพื่อใช้วางแผนในการติดตามงานขายหรือหาวิธีการสื่อสารที่เหมาะสม โดยหากต้องการทราบว่าลูกค้ารายใดอยู่ขั้นตอนไหนของการขายแล้ว ก็สามารถคลิกเลือกดูที่ขั้นตอนนั้นได้เลย รายชื่อลูกค้าก็จะปรากฏออกมาให้ทันที โดยที่เซลส์ไม่ต้องคอยจดจำเอง

 

r-crm lead pipeline

 

 

5. สร้างและจัดการเอกสารต่างๆ พร้อมส่งอีเมลผ่านระบบ CRM ได้ทันที

 

r-crm create quotation

 

การทำงานด้านการขาย ต้องยอมรับว่าเอกสารสำหรับงานขายก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน เช่น ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ไฟล์รายละเอียดสินค้าบริการ หรือไฟล์นำเสนอต่าง ๆ เป็นต้น เพราะเอกสารหรือไฟล์เหล่านี้ เปรียบเหมือนอาวุธที่ใช้สนับสนุนในการขายเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการจัดการงานเอกสารถือว่าเป็นงานที่ค่อนข้างใช้เวลาในการจัดการอย่างมาก ส่งผลให้นักขายหรือเซลส์ ต้องเสียเวลา จนไม่ได้ไปทำงานสำคัญอย่างการติดตามลูกค้าได้อย่างเต็มที่ จนปิดการขายไม่ทัน หรือบริการลูกค้าได้ไม่ทั่วถึง แต่ R-CRM จะช่วยจัดการปัญหาเอกสารเหล่านี้ ได้ด้วยแบบฟอร์มใบเสนอราคาที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจหรือองค์กรได้ง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลาสร้างฟอร์มขึ้นมาเอง นั่งกรอกรายการสินค้าทีละรายการ ดังนั้น R-CRM จะช่วยให้เซลส์มีเวลาไปจัดการเรื่องสำคัญกับการขายได้อย่างเต็มที่

และที่สำคัญเมื่อสร้างเอกสารและต้องการส่งให้ลูกค้าพิจารณา ก็สามารถที่จะเลือกส่งอีเมลได้ทันทีผ่านระบบ R-CRM พร้อมสามารถแนบเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ด้วย ไม่ต้องเสียเวลาสลับโปรแกรมไปมา

  

6. หัวหน้างานติดตามการทำงานของทีมขายได้ง่าย ไม่เสียเวลาประชุมบ่อยเกินไป

การติดตามการทำงานของทีมขาย เป็นสิ่งสำคัญที่ทีมผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขายต้องทำอยู่เสมอ เพื่อเป็นการตรวจสอบการทำงาน ส่งเสริม สนับสนุนงานขายของทีม เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร  ซึ่งแต่ก่อนวิธีบริหารทีมอาจจะเป็นการเรียกประชุมเพื่อติดตามการทำงานบ่อยๆ ซึ่งผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขายอาจจะได้ข้อมูลที่ต้องการ แต่อาจจะไปส่งผลกระทบต่อ Performance ของเซลส์ได้เพราะเซลส์ต้องเสียเวลาในการติดตามลูกค้าไปกับการประชุมถี่ๆ ดังนั้น เราสามารถลดการประชุมติดตามผลงานของทีมได้ ด้วยการใช้ แพลตฟอร์ม CRM ซึ่งจะทำให้การติดตามงานขายเป็นเรื่องสะดวกและง่ายดายเพียงดูผ่านหน้าจอ

 

7. ดูรายงานสถิติการขายต่าง ๆ ได้ทันที บน R-Insights

 

r-insights sales pipeline report

 

ต่อเนื่องจากการติดตามงานขายในข้อก่อนหน้านี้ ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละเดือนทีมขายต้องมีการสรุปยอดขายต่างๆ เพื่อที่จะรายงานผลให้หัวหน้าและทีมงานทราบ และปรับปรุงกลยุทธ์การขายให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นต่อไป ซึ่งการทำรายงาน นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่นักขายจำเป็นต้องทำ เพื่อที่จะได้เห็นภาพรวมของงานขายทั้งหมด และเพื่อพัฒนาการขายต่อไปได้อย่างตรงจุด แต่สิ่งนี้ก็ทำให้หลายคนต้องเสียเวลาในการนั่งทำรายงานประจำเดือนเช่นกัน เพราะข้อมูลจำนวนมาก ต้องใช้เวลาในการรวบรวม วิเคราะห์ผล และนำเสนอออกมาเป็น Presentation ให้ง่ายต่อการอ่านข้อมูล

แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราไม่ต้องเสียเวลาจำนวนมากในการทำรายงานเหล่านี้ ด้วยการใช้ R-CRM ที่สามารถดูรายงานการขาย รวมถึงดูรายงานสถิติสำคัญต่าง ๆ ได้ผ่าน R-insight ในรูปแบบของกราฟ ข้อมูล และ Visualization แบบอื่นๆ ที่ง่ายต่อการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูล โดยไม่ต้องเสียเวลารวบรวม ดึงข้อมูล และทำรายงานบน Excel อีกต่อไปให้ยุ่งยาก 

 

8. ระบบ CRM สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับระบบโฆษณา Facebook

 

r-crm facebook lead ads

 

ช่องทางการขายออนไลน์ หรือ Facebook เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยทำให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งยุคนี้ธุรกิจจำเป็นต้องมีการ tracking ให้รู้ที่มาของ Lead และยอดขายที่ได้มาจากช่องทางนั้น ๆ เพื่อใช้ในการวางแผนการทำงานและการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบ R-CRM จะตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี  เพราะระบบรองรับการเชื่อมต่อกับระบบโฆษณาทาง Facebook ทำให้สามารถ tracking รายการ Lead และยอดขายที่มาจาก Facebook ได้ หากมีลูกค้าติดต่อผ่านช่องทางนี้เข้ามาก็ติดตามผลได้ทันที และด้วยเหตุนี้ จะช่วยให้เราวางแผนการลงทุนโฆษณาทาง Facebook ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

 

9. ระบบ CRM สามารถเชื่อมต่อกับ R-Chat เพื่อการบริหารแชทจากทุกช่องทางที่ง่ายขึ้น

 

r-crm and r-chat

 

ปัจจุบันช่องทางการขายออนไลน์ มีหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Facebook Messenger , LINE OA , Website  ดังนั้นเพื่อให้จัดการแชทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้ R-CRM ซึ่งเชื่อมต่อกับ R-Chat เพื่อใช้การดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงทุกช่องทางได้ในหน้าจอเดียว ทำให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น จัดการง่าย ข้อมูลไม่ตกหล่น ส่งต่อ Lead ได้เข้า R-CRM ทันที เซลส์ก็สามารถติดตามต่อได้เลย เพราะหากไม่มีระบบเข้ามาช่วยตรงนี้ ในแต่ละวันที่มีลูกค้าติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ จากหลากหลายช่องทาง ก็ต้องคอยสวิตซ์การทำงานไปมาหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งเสียเวลา ทั้งทำให้การพูดคุยกับลูกค้าล่าช้า และอาจเกิดความผิดพลาดในการส่งข้อความผิดคนด้วย

 

10. ระบบ CRM สามารถควบคุมและกำหนดสิทธิ์การใช้งานได้ ไม่วุ่นวาย

มาถึงประโยชน์ข้อที่ 10 นี้ หลายคนน่าจะพอรู้และเข้าใจกันแล้วว่า R-CRM นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่เข้ามาช่วยในการบริหารทีมขาย ช่วยให้ทีมขายทำงานได้ง่ายและเต็มที่มากขึ้นเพราะมีฟีเจอร์ครบครันที่อำนวยความสะดวกต่อการทำงานได้เป็นอย่างดี ธุรกิจที่มีทีมงานหลายฝ่ายทำงานร่วมกันก็สามารถใช้งานระบบได้อย่างคล่องตัว เพราะมีฟีเจอร์ที่สามารถจัดการสิทธิ์การใช้งานได้ตามความต้องการ

นอกจากนี้ เชื่อว่าผู้ใช้งานหน้าใหม่หรือคนที่ยังไม่มีความคุ้นเคยกับ ระบบ CRM มาก่อน ก็อาจจะมีความกังวลในเรื่องการใช้งาน ว่าจะมีความยุ่งยากหรือไม่ จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพจริงหรือ หากใช้แล้วจะยิ่งทำให้วุ่นวายกว่าเดิมไหม ซึ่งคำถามเหล่านี้ เราสามารถตอบได้เลยว่า R-CRM ของ Readyplanet นั้นได้ถูกพัฒนามาเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ ดังนั้นการใช้งานเมนูต่าง ๆ ทีมพัฒนาของเรา ได้ทำการพัฒนา ปรับปรุงมาเพื่อให้พร้อมใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน อีกทั้งเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยสนับสนุนการใช้งานอยู่เสมอ 

 

r-crm user management

 

 

สรุป

ระบบ CRM มีประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและทีมขายยุคใหม่ ซึ่งในยุคสมัยนี้การแข่งขันทางธุรกิจมีมากขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ดังนั้น เพื่อที่จะทำยอดขายของธุรกิจให้ได้ตามเป้า ทีมขายจัดการงานขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที รวมถึงพัฒนาการทำงานต่าง ๆ ของทีมขายให้สามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว วัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการเลือกใช้แพลตฟอร์ม R-CRM ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย แล้วท่านจะได้รับประโยชน์มากมายที่เป็นผลดีกับธุรกิจอย่างแน่นอน 

 

 

สมัครใช้งาน Readyplanet R-CRM 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

 

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี