ธุรกิจ B2B Go Online อย่างไรให้ได้ผล

ธุรกิจ B2B หรือ Business To Business เป็นประเภทธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักไปที่ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการด้วยกันเอง มักมีการสั่งซื้อในปริมาณมากหรือมีการติดต่อกันเพื่อตกลงการซื้อขาย ออกใบเสนอราคาเป็นหลักฐานทางเอกสาร ในปี 2021 ที่เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ผนวกกับปัญหา COVID-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลกระทบกับธุรกิจหลากหลายประเภท สถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่เอื้ออำนวยให้ลูกค้าเดินทางไปยังหน้าร้าน หรือทำการซื้อขายแบบต้องพบเจอ ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจ B2B ควรปรับตัวและ Go online เพื่อให้ยังคงเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

ก่อนอื่นลองทำความเข้าใจกันก่อนว่า ธุรกิจ B2B มีอะไรบ้าง ? แล้วธุรกิจของคุณ จัดอยู่ในหมวดนี้หรือไม่ อย่างที่เกริ่นไป ธุรกิจรูปแบบนี้คือการจำหน่ายสินค้าหรือบริการให้ผู้ประกอบการด้วยกัน เน้นการค้าส่งมากกว่าจำนวนปลีกย่อย ได้แก่ ประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม เครื่องจักร ระบบการใช้งานต่าง ๆ ภายในองค์กร ที่มีจุดประสงค์หลักคือพัฒนาองค์กรหรือธุรกิจนั้น ๆ รวมถึงประโยชน์ในแง่การใช้งานที่ส่งผลดีกับพนักงานในองค์กรเองด้วย การทำการตลาดของกลุ่มธุรกิจ B2B จึงควรมีความเชื่อถือ และเป็นไปอย่างเป็นขั้นตอนในการซื้อขาย แตกต่างกับรูปแบบ B2C ที่เน้นการเข้าถึงได้ง่ายกว่าและสื่อสารออกไปได้หลากหลาย แล้วธุรกิจ B2B สามารถสร้างความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์ได้อย่างไร

 

สร้างเว็บไซต์บอกตัวตนของคุณ

 

 

อาจฟังเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับธุรกิจ B2B ที่โดยปกติเน้นการทำหน้าร้านแบบออฟไลน์อย่างเต็มรูปแบบ จึงเหมือนกับว่าการ Go Online เป็นสิ่งที่ยาก หรือมีคำถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ แต่ลองคิดกลับกันว่าเปรียบเหมือนธุรกิจของเราขายสินค้าหรือบริการไปตามปกติเพียงแค่เปลี่ยน Platform จากหน้าร้านค้าไปสู่ช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์จึงเป็นร้านค้าออนไลน์ที่พร้อมเปิดบริการ 24 ชั่วโมง 

 

ข้อดีของการมีเว็บไซต์คือ ช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลและโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดียก่อนตัดสินใจติดต่อซื้อขาย หรือช่วยเพิ่มการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น เริ่มสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ง่าย ๆ อาจเริ่มจากเลือกเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ราคาไม่แรงและมีให้เลือกมากมาย อย่าง R-Web จาก Readyplanet เอง ที่ตอบโจทย์ธุรกิจทั้งในรูปแบบ B2C และ B2B เพราะมาพร้อมฟังก์ชันและดีไซน์ที่ปรับแต่งได้เองบนหน้าเว็บไซต์ สร้างความเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร พร้อมระบบการใส่ Keywords สำคัญช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสหาเจอบนหน้า Google ประหยัดเวลาในการเขียนโค้ดเว็บไซต์ใหม่อีกต่างหาก นอกจากนี้ R-Web ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นทางการตลาดออนไลน์อื่น ๆ ที่จะช่วยให้ทีมของคุณทำงานและบริหารได้ง่ายขึ้น

 

หาตัวช่วยด้วยแพลตฟอร์มบริหารทีมขาย

 

 

ด่านสำคัญในการสำเสนอซื้อขายของธุรกิจประเภท B2B นั้นคือ Sales หรือพนักงานขาย ซึ่งมีธุรกิจจำนวนไม่น้อยพบปัญหาในการบริหารจัดการทีม การเก็บข้อมูลของลูกค้าเอง และไม่มีการวาง Sales Pipeline Management อย่างเป็นขั้นตอน ดังนั้นหากองค์กรของคุณมีพนักงานขายจำนวนมาก การเลือกใช้แพลตฟอร์มบริหารทีมขายหรือเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาการจัดการในส่วนนี้ย่อมทำให้ทีมพัฒนาได้ดีขึ้น R-CRM เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ช่วยให้หน้าที่ตรงนี้ง่ายขึ้น เพราะข้อดีที่สามารถติดตามการทำงานของเซลล์แต่ละคนได้อย่างเป็นระบบ ที่เซลล์เองยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมาพร้อมเครื่องมือที่ครบครัน เช่น เก็บ Leads ลูกค้าและใส่ Tags แยกประเภทได้ชัดเจน, ติดตามผลลัพธ์ผ่าน Sales Pipeline Reports หรือหน้าตารีพอร์ตอื่น ๆ ที่ช่วยบอก Performance การติดตามได้ รวมถึงการสร้างใบเสนอราคาที่ไม่ต้องออกแบบฟอร์มใหม่อีกต่อไป เรียกได้ว่าทั้งหมดนี้ประหยัดเวลาและช่วยให้พนักงานขายเข้าใจ Customer Insight ได้ดียิ่งขึ้น

 

ไม่ใช่แค่การทำงาน R-CRM เท่านั้น แต่ยังรองรับการทำโฆษณา Lead Generation บน Facebook เพื่อส่งรายชื่อและข้อมูลลูกค้ามายัง R-CRM และรองรับการเชื่อมต่อแบบเดียวกับบนเว็บไซต์ด้วย และให้คุณพร้อมใช้งานได้ทุกที่เพราะ Moblie Friendly รองรับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน

 

สร้างบทบาทสำคัญกับ live chat 

 

 

นอกจากมีพนักงานขายแบบบุคคลแล้ว ธุรกิจ B2B ยังควรมีบทบาท Online Customer Service ด้วยเช่นกัน ประเด็นสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์คือมี Service ที่รองรับลูกค้าทุกคนที่ใช้งานผ่านช่องทางนี้และควรมีการตอบกลับให้ไปที่สุด มีข้อมูลจากแบบสำรวจความพึงพอใจจากร้านค้าออนไลน์ พบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่พอใจในการใช้ Live Chat 73%, Email 61% และโทรศัพท์ 44% (อ้างอิงข้อมูลจาก dmit.co.th) เราจึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการยุคใหม่รู้จักกับ Live Chat หรือระบบตอบกลับอัตโนมัติที่ช่วยทำงานและให้ข้อมูลสำคัญแก่ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง หมดยุคที่ต้องมาคอย Monitor และให้ Chatday ช่วยจัดการ โดยคุณสามารถเซ็ตระบบตอบกลับอัตโนมัติ โดยสร้าง FAQ หรือคำถามที่พบบ่อย และตัวเลือกในการตอบหรือเลือกเชื่อมต่อกับ Chatcenter เพื่อประหยัดเวลาในการตอบคำถาม

 

 

Chayday จาก Readyplanet สามารถติดตั้งได้ทันทีบนเว็บไซต์ของคุณ (ผ่าน R-Widget) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการระบบแชทบนหน้าเว็บไซต์โดยเฉพาะ และทำงานร่วมกับ R-CRM ระบบจัดการข้อมูลลูกค้า สร้าง Reports สถิติต่าง ๆ และ Export เป็นไฟล์ Excel ได้ ฟังก์ชันต่าง ๆ จากเรดดี้แพลนเน็ตจึงมีความสัมพันธ์กันอย่างครบวงจร และตอนนี้มีฟีเจอร์ใหม่ ระบบ Chat Center จัดการแชทจากทุกช่องทางในที่เดียว อธิบายง่าย ๆ คือปกติพนักงานจะต้องสลับแพลตฟอร์มเพื่อตอบลูกค้าในแต่ละอย่างทาง แต่ระบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการแชททั้งจากหน้าเว็บไซต์, LINE OA และ Facebook Messenger ได้ในที่เดียว ช่วยลดข้อผิดพลาดของทีมงานจากการสลับหลาย ๆ หน้าจอเพื่อไปตอบแชทในช่องทางที่แตกต่างกัน ทดลองใช้ฟรีด้วยนะ คลิก 

 

เริ่มกลยุทธ์ Account Based Marketing 

 


ลองเปลี่ยนวิธีคิดปรับวิธีมองกันอีกหน่อย และทำความรู้จักกับ Account Based Marketing (ABM) หรือการตลาดแบบกลัวหัว คือการวางกลยุธ์กับเทคนิค (Marketing Strategy + Sales Tactic) โดยเริ่มต้นให้ความสำคัญกับลูกค้าหรือองค์กร แทนที่จะหว่านหาลูกค้าแบบกว้างซึ่งมีโอกาสเจอ “คนที่ไม่ใช่” โดยเริ่มจาก

 

  • เลือกกลุ่มลูกค้าที่ใช่ จากข้อมูลที่มีคุณภาพ

 

  • ติดต่อแบบรายบุคคล หรือจัดการข้อมูลเชิงลึกในบริษัทนั้น

 

  • การเข้าไปมีส่วนร่วม เช่น ไปเสนอขายหรือทำโฆษณาออนไลน์ไปยังเป้าหมาย

 

  • ได้ Convertion จากลูกค้า เช่นการตกลงซื้อขาย 

 

ซึ่งข้อดีของการทำ ABM คือธุรกิจ B2B จะได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปต่อยอดเพื่อทำการตลาดแบบ Personalized ได้ดีด้วย  

 

Video Marketing กระตุ้นการตัดสินใจ

 


ในยุคที่หลายแบรนด์หันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ และฟังก์ชันต่าง ๆ ของโซเชียลมีเดียที่ผลักดันให้มีการใช้งานวิดิโอเกิดขึ้น นั่นเพราะ video Marketing ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายได้ดีนั่นเอง จากสถิติพบว่า 85% ของคนทั่วไป อยากดูวิดิจากแบรนด์มากขึ้นในปี 2021 *(อ้างอิงข้อมูลจาก www.wyzowl.com) 

 

การลองทำการตลาดแบบใหม่ ๆ ด้วย Video Format จึงเป็นอีกความท้าทายสำหรับธุรกิจ B2B ในยุคนี้ สำคัญที่ว่าจะสร้างสรรค์ไอเดียออกมาแบบไหน สื่อสารได้ตรงใจกลุ่มลูกค้าหรือไม่ และอย่าลืมว่าควรมีความน่าเชื่อถือและเข้าใจ Message ที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน 

 

Local Search Optimization เพื่อเพิ่มโอกาสเจอธุรกิจ

 


อีกสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ B2B คือ Content ที่สื่อสารผ่านทุกแพลตฟอร์มต่าง ๆ และโฟกัสที่การปรับปรุงเนื้อหาเฉพาะกลุ่มมากขึ้น หรือที่เรียกว่า Local Search Optimization วิธีการไม่ยากเลย เพียงแค่เข้าไปที่ Google My Business ที่เป็นแอคเค้าท์สำหรับสร้างโปรไฟล์ร้านค้าหรือธุรกิจของคุณ และตั้งค่า เพื่อให้ธุรกิจปรากฎผลการค้นหาบนหน้าออนไลน์ง่ายขึ้น ระบุพิกัดตำแหน่งได้ชัดเจน ลูกค้ามีโอกาสเจอทั้งบน Google Search และ Maps ได้ทันที 

 

ข้อดีของการทำ Local SEO คือช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับความสนใจจากคนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และอาจเพิ่ม Traffic ไปยังเว็บไซต์ของคุณ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาในการทำ SEO ได้อีกด้วย อย่าลืมเพิ่มข้อมูลธุรกิจให้ครบถ้วนเพื่อให้ลูกค้าตรวจสอบได้ และสามารถนำรายละเอียดนี้ไปเผยแพร่ยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ Google วิเคราะห์ผลในเรื่องของ SEO อีกทาง ซึ่งหากคุณต้องการผู้เชี่ยวชาญหรือคำแนะนำในการทำ SEO เต็มรูปแบบให้กับเว็บไซต์ธุรกิจ บริการ Smart SEO จากเรดดี้แพลนเน็ตเป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสค้นเจอมากขึ้น ได้เปรียบคู่แข่งและเพิ่ม Traffic ไปยังเว็บไซต์ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างตัวตนบนโลก Online อย่างยั่งยืน 

 

สร้าง Email Marketing เฉพาะบุคคล

 


การส่ง Email Marketing ยังได้ผลในการตลาดออนไลน์ แต่สิ่งที่ต้องพัฒนาอีกสเต็ปคือการทำแบบ Personalized เพื่อให้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น เช่น การแทร็คข้อมูลจาก Traffic Website ว่าผู้เยี่ยมชมได้เข้ามาหน้าไหน และทำการส่ง E-Mail กลับไปแจ้งโปรโมชันหรือกระตุ้นการสั่งซื้อ รวมถึงยังเป็นช่องทางในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและธูรกิจเอง นำไปสู่การเสนอขายสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ หลังจากลูกค้าเกิดความเชื่อถือในธุรกิจ 

 

เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำ Email Marketing คือ ข้อความไม่ยืดยาวจนอ่านยากแต่ภาพที่สื่อสารก็ควรสร้างความน่าเชื่อถือและไปด้วยกับสิ่งที่ต้องการสื่อสาร สิ่งสำคัญที่สุดคือควรตั้งชื่อเมลแบบ Hook ลูกค้าได้ทันทีเพื่อกระตุ้นความน่าสนใจและกดเปิดอ่านนั่นเอง 

 

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคสำหรับวางกลยุทธ์การทำ Online Marketing สำหรับธุรกิจ B2B ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงให้เข้ากับประเภทธุรกิจและสถานการณ์ของคุณ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือการทำการตลาดออนไลน์ที่ Cross กันในทุกแพลตฟอร์มและทั้ง Online-Offline ดังนั้นทีมของคุณควรมีเครื่องมือที่รองรับในระยะยาว แบบ Readyplanet Marketing Platform ที่รวมทุกฟังก์ชันเสริมธุรกิจให้แกร่งในเกือบทุกบริการที่กล่าวไปข้างต้น เป็นรูปแบบการตลาด All in One ที่สอดคล้องกับ Customer Jouney มาพร้อมเครื่องมือที่น่าสนใจ เช่น R-Web แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์, R-Widget ปุ่มติดต่ออัจฉริยะสำหรับเว็บยุคใหม่, R-CRM แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย, R-Dynamic ระบบโฆษณา Dynamic Retargeting แบบอัตโนมัติ และอีกมากมายที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

 

R-CRM หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของ Readyplanet Marketing Platform 

R-CRM คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายขาย สามารถติดตามการทำงานของพนักงานขายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมรายงานสถิติสำคัญที่จะช่วยให้วางแผนเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีสินค้าหรือบริการแบบ High Involvement

 

 

ลงทะเบียนและเริ่มใช้ R-CRM ฟรี


 

Updated: 11 May 2021 | Produced by: Ploynaphat Wattanachodjirachai