ธุรกิจ SME ไทย จะสู้ศึกออนไลน์ได้อย่างไร?


สำ
หรับผู้ประกอบการ ที่มีความคุ้นเคย หรือมีโอกาสติดตามสถานการณ์ด้าน e-Commerce คงจะรู้สึกได้ว่า ในปัจจุบัน e-Commerce ไทย นั้น มีการแข่งขันที่สูงมาก เห็นได้จากการที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ ทั้งจากใน และนอกประเทศ ต่างก็หันมาทำธุรกิจประเภทนี้กันอย่างคับคั่ง


มีการจัดทำโปรโมชั่น รวมทั้งลดราคาสินค้าลง จนส่งผลให้ราคาสินค้าออนไลน์มีราคาที่ถูกยิ่งกว่าราคาลดพิเศษของห้างค้าปลีกเสียอีก และสิ่งนี้เอง ที่ส่งผลให้ผู้บริโภค หันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น โดยมักจะซื้อจากเว็บไซต์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพราะว่ามักจะได้ในราคาที่ดีที่สุด

 

 


เมื่อเห็นดังนี้ ผู้ประกอบการ SME อาจเกิดความกังวล ว่าสินค้าที่ขายอยู่บนเว็บไซต์ของคุณ อาจไม่สามารถสู้ราคาสินค้าชนิดเดียวกันของผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ และสิ่งนั้นจะทำให้เกิดอันตรายกับธุรกิจของคุณ แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไปค่ะ เพราะในวันนี้ เรามี 3 เคล็ดลับ ที่จะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวเพื่อสู้กับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ได้ ดังต่อไปนี้เลยค่ะ

 

1. เพิ่มความเชี่ยวชาญ และพัฒนาคุณภาพการบริการ

คุณต้องแสดงให้กลุ่มเป้าหมายของคุณได้เห็น ว่าคุณไม่ได้เป็นเพียงผู้ขายสินค้า แต่คุณคือผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นๆจริง และคุณตั้งใจที่จะใช้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของคุณ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และคุ้มค่าให้กับลูกค้าเหนือกว่าคู่แข่ง โดยคุณจะมุ่งผลักดันคุณภาพของสินค้า รวมทั้งคุณภาพของการบริการด้วย

เช่น คุณขายสินค้าออนไลน์ที่มีความซับซ้อนในการติดตั้ง หรือการใช้งาน ลูกค้าต้องการคำแนะนำที่ต่อเนื่อง คุณอาจเพิ่มบริการ Call Center ไว้คอยให้บริการหลังการขาย รวมทั้งอบรมพนักงานขาย ให้มีใจรักบริการ สามารถพูดคุยกับลูกค้าได้อย่างสุภาพและจริงใจ รวมทั้งสามารถตอบคำถามที่ลูกค้าสงสัยได้อย่างไม่ติดขัด
นอกจากนี้ อาจเตรียมทีมขายที่สามารถปิดการขายได้ทางโทรศัพท์

มี Admin ที่คอยตรวจสอบ Facebook, Line หรือ E-Mail เมื่อลูกค้าติดต่อเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยทีมงานเหล่านี้ ก็ต้องมีความเชี่ยวชาญมากพอ ที่จะสามารถตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน เพียงเท่านี้ ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อสินค้ากับคุณ เพราะเชื่อถือในสินค้าและบริการ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องแข่งขันในด้านราคาเลยล่ะค่ะ

2. เก็บข้อมูลลูกค้าไว้ และใช้ให้เป็นประโยชน์

ผู้ประกอบการ SME ควรศึกษาการทำ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเดิมอย่างสม่ำเสมอ เริ่มจากการเก็บข้อมูลลูกค้า และนำข้อมูลนั้นมาใช้ประโยชน์ เช่น การโทรศัพท์ไปหาลูกค้าเดิมของคุณ แล้วสอบถามความพึงพอใจในการใช้สินค้า และการบริการของพนักงาน

พร้อมนำผลที่ได้มาปรับปรุง และพัฒนาองค์กร รวมถึงจัดเก็บอีเมลลูกค้า แล้วส่ง E-Mail เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าแต่ละอย่าง เพื่อแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง หรือมีมูลค่าสูงกว่า ให้กับลูกค้าที่สนใจ และหากคุณสามารถทำ CRM ได้สำเร็จ แน่นอนว่า ลูกค้าของคุณจะต้องเกิดการซื้อซ้ำ และบอกต่อผลิตภัณฑ์ของคุณให้กับผู้อื่นแน่นอนเลยค่ะ

3. ใช้ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รวดเร็ว

การใส่ความคิดสร้างสรรค์ ลงไปในสินค้าหรือบริการ เพื่อให้สินค้าของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง จะช่วยเพิ่มมูลค่าได้ดีทีเดียวค่ะ หากคุณมั่นใจ และศึกษามาแล้วว่า สินค้าของคุณ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ก็ขอให้พัฒนาสินค้า และผลิตออกมาเพื่อทดสอบตลาดให้เร็วที่สุด

เพราะ SME จะได้เปรียบในเรื่องของกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะผู้ค้าปลีกรายใหญ่จะมีกระบวนการ ขั้นตอน และงบประมาณที่มากกว่า จึงทำให้มีความล่าช้าในการดำเนินงานมากกว่า คุณจึงควรใช้ประโยชน์จากความคล่องตัวนี้ สร้างความโดดเด่นให้สินค้า และเพิ่มมูลค่าด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคุณค่ะ

และทั้ง 3 ข้อ นี้ ก็คือเคล็ดลับที่จะช่วย SME ไทย ให้สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้อย่างเสมอภาค ในตลาดออนไลน์นี้ ReadyPlanet ขอให้ผู้ประกอบการทุกท่านสามารถทำการตลาดได้สำเร็จนะคะ

 

May 03, 2016
Watsanan Saikam
www.ReadyPlanet.com

สนใจรับฟังข้อมูลบริการ

เว็บไซต์สำเร็จรูป, Online Advertising, Training course