ชิ้นที่ 2 : สร้อยคอของผู้มีญาณทิพย์
สินค้าสุดหลอนชิ้นต่อมา คือ สร้อยคอของผู้มีญาณทิพย์ค่ะ โดยผู้ขายได้นำสร้อยของเพื่อนที่เพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นานมาประมูลบน eBay ซึ่งเพื่อนของเขาเป็นผู้ที่มีญาณทิพย์ที่สามารถรับรู้พลังงานของสิ่งของต่างๆ หรือสามารถเห็นภาพเรื่องราวต่างๆ ของสิ่งของเหล่านั้นได้ หรือที่เรียกว่า psychometry
ซึ่งเพื่อนของผู้ขายที่รู้จักกันในชื่อ “ป้าแนนซี่” พบสร้อยและจี้เส้นนี้ที่งานประมูลทรัพย์สิน เธอรู้สึกว่ามันดึงดูดเธอและเหมือนมันตะโกนร้องเรียกเธอ เธอจึงประมูลมัน ก่อนที่เธอจะพบว่ามันมีพลังงานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศตวรรษที่ 13 ของฝรั่งเศส ซึ่งพลังงานส่วนใหญ่มาจากจี้รูปพระแม่มารีและพระเยซูที่วาดในช่วงเวลานั้น

ชิ้นที่ 3 : กล่องไดอารี่เด็ก
กล่องไดอารี่เด็ก คือ สินค้าสุดหลอนชิ้นที่ 3 ที่นำมาให้ชมค่ะ โดยที่มาของสินค้าชิ้นนี้มาจากตอนที่ผู้ขายช่วยเพื่อนจัดบ้านไสตล์วิคตอเรียเพื่อนำออกประมูล ก่อนพวกเขาจะพบกล่องรองเท้า เสื้อผ้าเด็กที่ถูกแมลงกัดแทะและสมุดเล่มเล็กๆ ในห้องใต้หลังคาด้วยความบังเอิญ

ซึ่งภายในกล่องรองเท้า มีทั้งลิงของเล่น แก้วกาแฟบุบ สมุด และของประดับ ปอยผม พร้อมกระดาษสีชมพูที่มีข้อความว่า “Little Edgar ตายเมื่อ 14 มีนาคม ค.ศ. 1920” โดยในตอนแรกผู้ขายตั้งใจจะเก็บกล่องใบนี้ไว้เอง แต่กลับมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น เมื่อสุนัขของเขาเอาแต่จ้องมองไปที่มุมห้อง และไม่ยอมเดินผ่านเก้าอี้ จนเขาต้องตัดสินใจเก็บมันไว้ในรถ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผู้ขายเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะกล่องรองเท้าที่เขาได้เจอหรือเป็นเพราะหญิงชราผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กันแน่!

ชิ้นที่ 4 : ตุ๊กตาผีสิง
สินค้าสุดหลอนเป็น eBay ชิ้นต่อมา คือ ตุ๊กตาผีสิง โดยผู้ขายบอกว่า ตุ๊กตาตัวนี้ เป็นของหญิงชราที่พบมันในร้านขายของเก่า และเมื่อหล่อนเข้าไปคุยกับเจ้าของร้าน เขาก็ได้บอกกับเธอว่ามันคือตุ๊กตาผีสิง แต่หล่อนไม่เข้าใจจึงซื้อมันมา เมื่อหล่อนกลับมาสังเกตที่ตุ๊กตา หล่อนก็พบว่าใบหน้าของตุ๊กตาตัวนี้ดูดุร้าย และเมื่อเธออุ้มตุ๊กตา เธอก็มักจะฝันร้าย หลังจากนั้นหลายเดือนต่อมาลูกชายของเธอก็นำมันออกจากบ้านและขอให้เธอขายมันเสีย

ชิ้นที่ 5 : รูปปั้นผีสิง
สินค้าสุดหลอนชิ้นสุดท้ายที่นำมาให้ดูในวันนี้ได้แก่ รูปปั้นผีสิงค่ะ โดยรูปปั้นผีสิงนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1980 ในโรงเผาอิฐที่เพื่อนของผู้ชายเคยทำงานอยู่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่คนงานในโรงเผาอิฐก็มักนำดินมาปั้นเป็นรูปปั้นและลงสีเล่นในช่วงเวลาว่าง ซึ่งรูปปั้นนี้ก็เป็นหนึ่งในความสร้างสรรค์ของคนงานเหล่านั้น แต่มันกลับมีเรื่องราวที่แตกต่างออกไป

เมื่อนาย William ผู้ที่เขียนคำว่า ‘future’ บนหน้าอกของรูปปั้น ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต และในวันถัดมาเพื่อนของผู้ขายก็พบรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ ณ ตรงที่นาย William 
เสียชีวิต เขาจึงตัดสินใจเอามันกลับบ้าน แต่ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อเพื่อนของผู้ขายได้ยินเสียงคนเดินเป็นวงกลมในห้องที่เขาใช้เป็นที่พักผ่อนและเก็บสะสมผลงาน และเมื่อเขาเข้ามาตรวจสอบก็พบว่ามันไม่มีใคร นอกจากนั้นเพื่อนของผู้ขายยังบอกอีกว่า เขาพยายามจะทิ้งมัน แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเมื่อเขากลับมาจากห้าง Walmart ในขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปในครัว เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนประตูถูกปิด เขาจึงวางของที่ซื้อมาลง และเดินเข้าไปในห้องพักผ่อน ก่อนจะพบว่าประตูทุกบานยังคงเปิดอยู่ แต่เหยือกเบียร์เซรามิกของเขาวางอยู่ใกล้ๆ รูปปั้นนี้ทั้งสองข้าง ในสภาพที่เหยือกหนึ่งแตก และอีกเหยือกหนึ่งที่จับหลุดออก ซึ่งเมื่อเขามองไปที่ชั้นวางรูปปั้นเขาก็เห็นว่ารูปปั้นผีสิงอันนี้ได้หันหน้าเข้าหากำแพงอยู่